ครม.อนุมัติแจกเงินหมื่นเฟสสองสูงอายุรับก่อนตรุษจีน 1.5 แสนล้าน
ครม.อนุมัติแจกเงินหมื่นเฟสสอง สูงอายุรับก่อนตรุษจีน 1.5 แสนล้าน และเตรียมคลอดแจกเงินหมื่นเฟสสามให้ผู้ลงทะเบียนที่เหลืออีก 1.5แสนล้านในเฟสที่สามช่วงไตรมาสสองปีหน้า เมื่อรวมแจกเงินเฟส ระบุ ตั้งแต่ปลายปี 67 ถึงกลางปี 68 รัฐบาลอัดเม็ดเงินเข้าสู่เศรษฐกิจรวม 3.5 แสนล้าน หวังจีดีพีปีหน้าโตเกิน 3%
#ทันหุ้น นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี(ครม.)ได้อนุมัติการแจกเงิน 1 หมื่นบาท ให้กับผู้สูงอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป ที่ได้ลงทะเบียนผ่าน App ทางรัฐ และมีคุณสมบัติตามโครงการ Digital Wallet เช่น มีรายได้ต่อปีไม่เกิน 8.4 แสนบาท และมีเงินฝากในบัญชีไม่เกิน 5 แสนบาท โดยจะมีการจ่ายเงินดังกล่าวให้ผู้สูงอายุ โดยจะจ่ายผ่านพร้อมเพย์ก่อน 29 มกราคม 2568 คาดจะใช้งบประมาณในโครงการนี้ราว 4 หมื่นล้านบาท
ขณะเดียวกัน ครม.ยังได้อนุมัติโครงการกระตุ้นการใช้จ่ายภายในประเทศ หรือ โครงการ easy e-receipt ที่ให้ผู้เสียภาษีสามารถนำรายจ่ายในการซื้อสินค้าที่กำหนด มาหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ไม่เกิน 5 หมื่นบาท โดยแบ่งเป็นสองตะกร้า คือ วงเงิน 3 หมื่นบาท สำหรับซื้อสินค้าทั่วไป และอีกวงเงิน 2 หมื่นบาท สำหรับซื้อสินค้าในวิสาหกิจชุมชน และสินค้า OTOP โดยทั้งสองตะกร้าจะต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยมาตรการนี้จะเริ่มตั้งแต่ 16 ม.ค. ถึง 28 ก.พ.ปี 2568
สำหรับสินค้าที่ไม่สามารถใช้มาตรการภาษีนี้ได้ เช่น สุรา เบียร์ ยาสูบ,รถยนต์ ,ค่าเบี้ยประกัน,ค่าน้ำมัน,ก๊าซ ค่าบริการอินเทอรเน็ต เป็นต้น ซึ่งคาดว่าจะสามารถสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนจากมาตรการนี้ราว 7 หมื่นบ้านบาท
เขากล่าวอีกว่า สำหรับมาตรการ easy e –receipt จะยังไม่รวมการใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยว ผ่านแพคเกจทัวร์ ตามที่เคยเป็นข่าว เนื่องจาก ช่วงเวลาดังกล่าว ยังอยู่ในช่วง Hi season ยังไม่เหมาะสมที่จะนำมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวมาใช้
เขากล่าวด้วยว่า รัฐบาลพยายามรักษาโมเมนตั้มการใช้จ่ายภายในประเทศ เพื่อดูแลให้เศรษฐกิจขยายตัว โดยหากนับรวมเม็ดเงินตั้งแต่โครงการแจกเงินหมื่นในเฟสแรกที่จ่ายออกไปแก่กลุ่มผู้พิการและเปราะบาง 1.45 แสนล้านบาท โครงการไร่ละพันให้แก่ชาวนา คนละไม่เกิน 10 ไร่ ซึ่งจะมีเม็ดเงินอัดฉีดอีก 3.5 หมื่นล้านบาท การแจกเงิน 1 หมื่นบาทในเฟสที่สองอีก 4 หมื่นล้านบาท โครงการ easy e –receiptที่จะมีเม็ดเงินหมุนเวียนอีก 7 หมื่นล้านบาท และ โครงการแจกเงิน 1 หมื่นในเฟสสามช่วงไตรมาสสองปีหน้าอีก 1.5แสนล้านบาท จะทำให้รัฐบาลอัดฉีดเม็ดเงินเข้าระบบเศรษฐกิจกว่า 3.5 แสนล้านบาท
“เชื่อว่า เม็ดเงินที่รัฐบาลอัดลงสู่เศรษฐกิจจำนวนดังกล่าว จะทำให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ต่อเนื่อง ซึ่งรัฐบาลอยากจะเห็นจีดีพีในปีหน้า ขยายตัวได้มากกว่า 3 %