MAGURO เผยกลยุทธ์ใหม่ เปิด CouCou ร้านอาหารตะวันตกแบบ All-Day Dining
#ทันหุ้น - “MAGURO” ผู้นำร้านอาหารสไตล์ญี่ปุ่นและเกาหลีระดับพรีเมียม-แมส ชูกลยุทธ์ขยายอาณาจักร ร้านอาหารในเครือ ฉีกแนวจากอาหารญี่ปุ่น-เกาหลี รุกอาหารตะวันตกแบบ All-Day Dining ณ The Flavorhood ประดิษฐ์มนูธรรม เสิร์ฟลูกค้า 3 มื้อ ต้อนรับปีใหม่ 2568 รองรับลูกค้าพรีเมียม และพรีเมียมแมส พร้อมเดินหน้าเปิดรับไลเซนส์แบรนด์ร้านอาหารต่างประเทศยอดนิยม หลัง Tonkatsu AOKI (ทงคัตสึ อาโอกิ) สุดยอดร้านทงคัตสึร้านดังจากประเทศญี่ปุ่น แบรนด์ที่ 4 ในเครือมากุโระ กรุ๊ปที่เปิดตัวไปสดๆ ร้อนๆ ได้รับความนิยมแบบ Talk of the Town เติมเต็ม Ecosystem ของ MAGURO Group ให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำให้ปี 2567 บริษัทฯ ขยายร้านเกินเป้าทำให้ปัจจุบัน Maguro มีจำนวนร้านอาหารทั้งหมด 5 แบรนด์ 38 ร้าน
คุณเอกฤกษ์ แสงเสรีดำรง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท มากุโระ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MAGURO เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ฉีกแนวการขยายอาณาจักร ร้านอาหารในเครือ มากุโระ กรุ๊ป จากเดิมที่จะเน้นร้านอาหารญี่ปุ่นและเกาหลี ด้วยการเปิดแบรนด์แบรนด์ที่ 5 “CouCou” (คุคูว์) ซึ่งเป็นแบรนด์ล่าสุดของปีนี้ในร้านอาหารรูปแบบ All-Day Dining สไตล์ตะวันตก ณ The Flavorhood ประดิษฐ์มนูธรรม ต้อนรับปีใหม่ 2568
โดยเจาะกลุ่มลูกค้าผู้ที่ชื่นชอบการรับประทานอาหารแบบ All-Day Dining ที่มาพร้อม กับการเสิร์ฟอาหารตั้งแต่เช้า กลางวัน และเย็น รองรับลูกค้าระดับพรีเมียม และพรีเมียมแมส โดยเริ่มเปิดบริการอาหารเช้า และเครื่องดื่มต่างๆ เวลา 8 โมงเช้า และ บริการอาหารหลักตั้งแต่ 11 โมงเช้าจนถึง 4 ทุ่ม
นอกจากนี้ ยังเป็น บาริสต้ามืออาชีพ พร้อมรังสรรค์ กาแฟ และเครื่องดื่มคุณภาพสูง ตลอดทั้งวัน โดยคาดว่า CouCou จะช่วยขยายฐานลูกค้าของบริษัท ให้ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบอาหารแนวตะวันตก กลุ่มลูกค้าที่ชอบดื่มกาแฟและของหวาน ตลอดจนคนรุ่นใหม่ และผู้ที่ที่มีไลฟ์สไตล์ทันสมัยอีกด้วย
“CouCou หมายถึง สวัสดี ในภาษาฝรั่งเศส สะท้อนความเป็นกันเอง และอบอุ่นเสมือน การทักทาย ระหว่างเพื่อนสนิท ลูกค้าที่เข้ามารับประทานจะได้รับประสบการณ์ รับประทานอาหารอันอบอุ่น เหนือความคาดหมาย กับวัตถุดิบคุณภาพเยี่ยมจากแหล่งที่ดีที่สุด และการสร้างแบรนด์ใหม่ ครั้งนี้ MAGURO Group ยังคงยึดมั่นในแนวทางภายใต้แนวคิด "Give More" ให้มากกว่าที่ขอ เช่นเดิม ทำให้ ทุกมื้อของ CouCou ไม่ใช่เพียงการรับประทานอาหาร แต่คือ Special Moment & Memorable Experience ที่ลูกค้าจะได้สัมผัส อย่างแท้จริง” คุณเอกฤกษ์ กล่าว
คุณจักรกฤติ สายสมบูรณ์ กรรมการบริหาร และผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท มากุโระ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MAGURO กล่าวว่า “ บริษัทฯ ได้เปิดตัว Tonkatsu AOKI (ทงคัตสึ อาโอกิ) สุดยอด ร้านทงคัตสึ ร้านดัง จากประเทศญี่ปุ่น แบรนด์ที่ 4 ในเครือมากุโระ กรุ๊ป เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. เป็นสาขาแรก ณ เซ็นทรัล เวิลด์ ชั้น 3 โซน Nippon Avenue ได้รับความนิยมล้นหลาม นอกจากลูกค้าจะเต็มทุกรอบทุกวันโดยยอมรอคิวประมาณ 3 ชั่วโมงแล้ว ยอดขายเฉลี่ยต่อบิล ยังสูงกว่าที่คาดไว้ประมาณ 50-60% ทำให้บริษัทฯมั่นใจว่า การเปิดสาขาเพิ่มอีก 3-4 สาขา ของ Tonkatsu AOKI (ทงคัตสึ อาโอกิ) จะช่วยการสร้างการเติบโตให้บริษัทฯได้ตามแผน
“สำหรับภาพรวมทั้งปีนี้ บริษัทฯ ได้ขยายสาขาและเพิ่มแบรนด์ใหม่ๆ เข้ามาเพื่อให้ครอบคลุม ลูกค้าทุกเซ็กเม้นท์ได้เติมเต็ม Ecosystem ของ MAGURO Group ให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำให้ปี 2567 บริษัทฯ ขยายร้านเกินเป้ารวมเป็น 37 ร้าน 5 แบรนด์ และคาดว่ายอดขายน่าจะเติบโตราว 30 % ตามที่ได้ตั้งเป้าไว้ โดยบริษัทจะดำเนินกลยุทธ์ขยายร้านด้วยการเปิดรับไลเซนส์แบรนด์ร้านอาหารยอดนิยมจากต่างประเทศ พร้อมสร้างเซอร์ไพรซ์ให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง”
ร้าน CouCou ตั้งบนพื้นที่ 2 ไร่ ที่ประกอบไปด้วยอีก 2 ร้านอาหารในเครือ MAGURO ทั้งร้าน MAGURO ร้านอาหารญี่ปุ่นและซูชิสไตล์ระดับพรีเมียม และ ร้าน HITORI SHABU ร้านชาบูและสุกียากี้ หม้อเดี่ยว สไตล์คันไซ โดยในพื้นที่มีการตกแต่งผสมผสาน ระหว่างความร่วมสมัย แต่ยังคงกลิ่นอายความเป็น ญี่ปุ่น รวมถึงสวน ในโครงการ ที่มีทั้งรูปแบบ Japanese Garden และ Modern Tropical Garden อีกทั้งยังมีความตั้งใจ ให้โครงการนี้เป็นการต่อยอดแนวทางด้านความรับผิดชอบ ต่อสิ่งแวดล้อม โดยมีแผนการติดตั้ง จุดชาร์จ EV Charger และ Solar Roof ภายในโครงการ รวมถึงจุดรีไซเคิลขยะพลาสติก และการแยกขยะ อย่างเป็น ระบบอีกด้วย
ไฮไลต์สำคัญของ CouCou คือความหลากหลายของเมนูอาหารเช้าที่เต็มไปด้วยตัวเลือกมากมาย นำด้วย เมนูอาหารเช้าสุดคลาสสิก 2 สัญชาติ อย่าง The Liberty Breakfast (American Breakfast) และ Big Ben Breakfast (English Breakfast) รวมถึง Sandwich หลากหลายรูปแบบ และเมนู Pancake และ Waffle อีกมากมาย
CouCou ยังเน้นเรื่องกระบวนการทำอาหารเป็นอย่างมาก เลือกใช้ปรัชญา Give More ที่ Beyond จาก All Day dining ปกติทั่วไป โดยเลือกใช้เครื่องมือหนักอย่างเตาย่างถ่านถึงสองชนิด คือ Charcoal Oven และ Argentine Parrila Grill เพื่อเพิ่มมิติทั้งรสชาติและกลิ่นของเมนูไปอีกขั้น ด้วยการนำวัตถุดิบหลายชนิดมาย่างด้วยถ่าน เช่น เมนูไส้กรอก รวมไปถึงเมนูมื้อเย็น ประเภท Grill และ สเต็กด้วย
อีกจุดไฮไลท์คือ CouCou เราเข้มข้นเรื่อง Specialty Coffee อย่างมาก ตั้งแต่เลือกเมล็ดกาแฟคุณภาพสูง จากไร่เฉพาะที่คัดสรรมาเป็นพิเศษกว่า 20 เมนู ผ่านการคั่วและการชงอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้ได้รสชาติกาแฟ ที่สมบูรณ์แบบในทุกแก้ว
สำหรับมื้อกลางวัน ผู้ที่ชื่นชอบพาสต้าห้ามพลาด เพราะ CouCou พร้อมยกระดับประสบการณ์ ด้วยพาสต้า Homemade เส้นสดหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นเมนู Fettuccine Carbonara หรือเส้นแบบ ดั้งเดิม ที่หาทานยากอย่างเส้น Pici กับเมนู Pici with Tomato Sauce and Crab Meat ซึ่งจะมอบ ความนุ่มหนึบ สดใหม่และการผสมผสานซอสได้อย่างลงตัว ทุกจานพาสต้าที่ CouCou จึงมีรสชาติที่เข้มข้น และสัมผัส ที่เหนือกว่า
CouCou ยังมีเมนูเอาใจคนรักสุขภาพ เช่น เมนู Organic Salad ไม่ว่าจะเป็น Caesar Salad หรือ Duck Confit ในส่วนของมื้อเย็น ลูกค้าจะได้รับประสบการณ์กับเมนูแบบ Casual Dining ที่จะทำให้ค่ำคืนเปี่ยม ไปด้วย บรรยากาศที่เป็นกันเองกับอาหารยุโรป อาทิเช่น Fillet Mignon, Beef Bourguignon และจบมื้อแบบสมบูรณ์ ด้วยของหวานหลากหลายเมนู เช่น Burnt Cheesecake, Carrot Cake, Tiramisu
ในปี 2567 MAGURO Group มีร้านอาหารในเครือ รวมทั้งหมด 38 ร้านจาก 5 แบรนด์ คือ 1.) MAGURO ร้านอาหารญี่ปุ่นและซูชิสไตล์ระดับพรีเมียม 18 ร้าน 2.) SSAMTHING TOGETHER ร้านปิ้งย่างสไตล์เกาหลี วัตถุดิบพรีเมียม 6 ร้าน 3.) HITORI SHABU ร้านชาบูและสุกียากี้ หม้อเดี่ยวสไตล์คันไซ 11 ร้าน และร้าน HITORI SUKIYAKI ร้านสุกียากี้คันไซแบบดั้งเดิมในรูปแบบ Authentic Japanese Sukiyaki Course ในรูปแบบ Stand Alone ซึ่งเปิดสาขาแรกที่เอกมัย 12 4.) Tonkatsu AOKI ร้านหมูทอดทงคัตสึร้านดัง จากประเทศญี่ปุ่น เปิดเมื่อวันที่ 20 ธ.ค. เป็นสาขาแรก ณ เซ็นทรัล เวิลด์ ชั้น 3 โซน Nippon Avenue และ 5.) CouCou เปิดวันที่ 25 ธ.ค. ที่ The Flavorhood ประดิษฐ์มนูธรรม
ในช่วงแรกของการ Soft Opening ทางร้านจะเปิดให้บริการในรูปแบบอาหารเช้าและอาหารกลางวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 น. – 18.00 น. และเมื่อถึงช่วง Grand Opening ทางร้านจะเพิ่มบริการอาหารในรูปแบบ Dinner โดยจะขยายเวลาให้บริการจนถึง 22.00 น.