เปิดไทม์ไลน์ 4 บุคลากรแพทย์ ติดโควิด ป่วยแต่ยังทำงาน ตั้งวงกินข้าวด้วยกัน
จากกรณีที่พบ 5 บุคลากรทางการแพทย์ ติดเชื้อโควิด ซึ่งพบว่าทำงานใน สถานที่กักตัวของรัฐแบบทางเลือก หรือ Alternative State Quarantine (ASQ) ซึ่งจะมีโรงพยาบาลเอกชนจับคู่กับโรงแรมเพื่อดูแลผู้เดินทางเข้ามาในประเทศและรับการกักตัว
โดย ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกรุงเทพมหานคร ได้เปิดเผยถึงไทม์ไลน์ของผู้ป่วย 4 คน ซึ่งเป็นบุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งสำนักอนามัย กทม. สันนิษฐานว่า เกิดจาก 3 สาเหตุ 1. ติดเชื้อจากผู้ที่ถูกกักกัน 2. ติดเชื้อจากสภาพแวดล้อมของสถานที่กักกัน หรือ 3. ติดเชื้อระหว่างบุคลากรทางการแพทย์ด้วยกันเอง
โดย กทม. ร่วมกับกรมควบคุมโรค ทำความสะอาดสถานที่พักอาศัยของผู้ป่วย และบุคลากรทางการแพทย์ผู้ติดเชื้อก็ทราบถึงความเสี่ยงของตนเองที่มีโอกาสติดเชื้อสูงจากการดูแลคนที่เข้ามากักกันตัวจึงระวังตัวเองไม่พบผู้คนมากนักอยู่แล้ว การติดตามผู้ที่สัมผัสกับผู้ติดเชื้อ 1 + 4 ราย แล้ว
อย่างไรก็ตามพบว่า ประวัติของผู้ป่วยทั้ง 5 รายนั้น อยู่ระหว่างสอบสวนโรคเพิ่มเติมโดยกรมควบคุมโรค ว่า เกิดจุดบกพร่องตรงจุดไหน เพื่อนำไปปรับแก้ในระบบการควบคุมโรคกักตัวต่อไป
ทั้งนี้ พบว่าผู้ป่วยทั้ง 5 รายนั้น มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องทำงานด้วยกัน โดยมีรายหนึ่ง อายุ 25 ปี เข้าทำงานใน ASQ ตั้งแต่วันที่ 27 พ.ย. เริ่มมีอาการไม่สบายตัว ตั้งแต่วันที่ 29 พ.ย. มีน้ำมูก ไอ เสมหะ จนวันที่ 5-6 ธ.ค. เริ่มท้องเสีย ได้เก็บตัวอย่างไปตรวจ และพบเชื้อ ซึ่งระหว่างนั้น วันที่ 28 พ.ย. ได้ทานอาหารร่วมกับเพื่อน ผู้ป่วยยืนยันรายที่ 1 และ ไปซื้ออาหารกลางวันที่ ตลาดวัดแขก โดยสวมหน้ากากอนามัย และวันที่ 2 ธ.ค. ได้ทานอาหารร่วมกับเพื่อนร่วมงานร่วมงาน กับผู้ป่วยยืนยันรายที่ 2
สถานกักกันเป็นกลไกสำคัญในการควบคุมโรคคนเดินทางเข้าประเทศ ปัจจุบันมี State Quarantine (SQ) 25 แห่ง Alternative State Quarantine (ASQ) 116 แห่ง Alternative Local Quarantine 39 แห่ง และ Alternative Hospital Quarantine (AHQ) 183 แห่ง มีคนเดินทางเข้ามาในระบบกักกันทั้งหมด 171,016 คน อัตราการติดเชื้ออยู่ที่ 0.67%
ส่วนใน ASQ ที่พบการติดเชื้อในประเทศอัตราการติดเชื้ออยู่ที่ 0.54% ซึ่งไม่ได้สูงเมื่อเทียบกับภาพรวมของการติดเชื้อ ทั้งนี้ ยืนยันว่า ASQ มีมาตรฐาน มีการวางระบบความปลอดภัย รพ.เอกชนคู่สัญญาก็ต้องปฏิบัติตามแนวทางการป้องกันควบคุมโรค โดยอยู่ระหว่างการสอบสวนโรคหาสาเหตุของการติดเชื้อ เพื่อให้ทราบว่าจุดอ่อนอยู่ตรงไหน โดยวันที่ 9 ธ.ค. จะมีการประชุมคอนเฟอเรนซ์ซักซ้อมชี้แจงแนวปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ทั้ง ASQ และ รพ. เพื่อลดความเสี่ยงการติดเชื้อ ทั้งนี้ ผู้สัมผัสได้แยกตัวออกมาทั้งหมดแล้ว