ทองขาขึ้น รับดอลลาร์ บอนด์ยิลด์ อ่อนแรง

ทองโลกอยู่ในระยะขาขึ้นต่อเนื่อง จากการที่ดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) อ่อนค่าเป็นวันที่ 3 ลงสู่ระดับ 97.9 หน่วย จากระดับสูงสุดที่ 98.2 หน่วย ขณะเดียวกัน บอนด์ยิลด์สหรัฐฯ อายุ 10 ปีกลับตัวเป็นขาลงในวันที่ 2 สู่ระดับ 4.20% จาก 4.26% จากปัจจัยข้างต้น 

สืบเนื่องมาจากผู้ว่าการเฟด นางลิซ่า คุก ได้ยื่นฟ้องต่อศาลในกรุงวอชิงตันในวันพฤหัสบดี และร้องขอให้ศาลคุ้มครองเร่งด่วนเพื่อระงับคำสั่งปลดของปธน.ทรัมป์ ในระหว่างการพิจารณาคดี อีกทั้งคุกยังได้กล่าวว่า การปลดผู้ว่าการเฟดที่ไม่มีเหตุอันควรนั้น เป็นการบ่อนทำลายพระราชบัญญัติธนาคารกลาง (Federal Reserve Act.) และทำให้ความเป็นอิสระทางการเมืองของเฟดถูกทำลาย อย่างไรก็ตาม เมื่อวันพฤหัสบดี กระทรวงพาณิชย์ได้รายงานตัวเลขเมื่อวันพฤหัสบดีว่า ตัวเลข GDP สหรัฐฯ ประมาณการครั้งที่ 2 ได้ขยายตัว 3.3% จากประมาณการครั้งที่ 1 ที่ 3.0% อีกทั้งการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่คิดเป็น 70% ของ GDP สหรัฐฯ ได้ขยายตัว 1.6% ต่อปี สูงกว่าประมาณการครั้งที่ 1 ที่ 1.4% จากตัวเลขข้างต้น เป็นการสะท้อนถึงความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ภายใต้เงินเฟ้อที่ยังตึงตัวจากภาษีนำเข้าของปธน.ทรัมป์ ทางด้านกองทุน SPDR ซื้อทองคำ 5.44 ตัน รวมสุทธิ 967.94 ตัน

ราคาทองโลกอยู่ในระยะเป็นขาขึ้นต่อเนื่อง แต่ระยะสั้นมีแนวโน้มไม่สามารถทะลุผ่านแนวต้านที่ 3,425 ดอลลาร์ จึงประเมินว่า ทองโลกมีโอกาสปรับฐานลงระยะสั้นทดสอบแนวรับที่ 3,385 ดอลลาร์ และอาจฟื้นตัวกลับขึ้นไป แต่หากทองโลกหลุดแนวรับถัดไปที่ 3,370 ดอลลาร์ ทองโลกอาจกลับสู่ระยะ Sideway Up

คืนนี้เวลา 19.30 น. สหรัฐฯ เผยดัชนีการบริโภคส่วนบุคคลพื้นฐาน / ทั่วไป เทียบรายเดือน / รายปี เดือน ก.ค. และเวลา 21.00 น. เผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคโดย ม.มิชิแกน เดือนส.ค.

ราคาทองโลกมีการทยอยปรับตัวขึ้น แนะนำใช้กลยุทธ์ย่อเก็บสะสมจากแนวรับที่ระดับ 3,385 ดอลลาร์ และขายทำกำไรหากราคาขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 3,425 ดอลลาร์ แต่หากราคาหลุดแนวรับที่ 3,370 ดอลลาร์ แนะนำขายตัดขาดทุนไปก่อน

ราคาทองในประเทศอยู่ในระยะ Sideway Up จากการที่ทองโลกอยู่ในระยะขาขึ้น ในขณะที่ค่าเงินบาทแข็งค่า จึงแนะนำเข้าซื้อสะสมแนวรับที่ระดับ 51,800 บาท และขายทำกำไรหากราคาทดสอบแนวต้านที่ 52,200 บาท แต่หากราคาหลุดแนวรับที่ 51,650 บาท ลงไป แนะนำขายตัดขาดทุน