รีเซต

ชาร์ลี เคิร์กคือใคร ? ผู้สนับสนุนทรัมป์ นักกิจกรรมขวาจัดที่ถูกลอบยิงเสียชีวิต

ชาร์ลี เคิร์กคือใคร ? ผู้สนับสนุนทรัมป์ นักกิจกรรมขวาจัดที่ถูกลอบยิงเสียชีวิต
TNN ช่อง16
11 กันยายน 2568 ( 11:48 )
25

ชาร์ลี เคิร์ก นักกิจกรรมฝ่ายขวา หนึ่งในผู้สนับสนุนคนสำคัญของ ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ ถูกยิงที่ลำคอ จนเสียชีวิตเมื่อวานนี้ (10 กันยา) โดยล่าสุดยังไม่สามารถจับคนร้ายได้ ท่ามกลางการประนามการลอบยิง และการไว้อาลัยของทำเนียบขาว 

เคิร์ก คือใคร ทำไมถึงมีความสำคัญกับทรัมป์ และการเมืองสหรัฐฯ ? และเพราะเหตุใด เขาถึงถูกยิงเสียชีวิต ?


ชาร์ลี เคิร์ก นักกิจกรรมขวาจัด ผู้เชียร์ทรัมป์สุดใจ

ชาร์ลี เคิร์ก วัย 31 ปี เป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนฝ่ายขวาคนสำคัญของทรัมป์ หรือแคมเปญ Make America Great Again ในฝั่งเยาวชน เขามีบทบาทสำคัญในการเลือกตั้ง ปธน.สหรัฐฯ ครั้งที่ผ่านมาขนาดที่สำนักข่าวมองว่า หากจะเข้าใจว่าทำไมคนรุ่นใหม่ ถึงมาเลือกทรัมป์เพิ่มขึ้น ก็ต้องเข้าใจชาร์ลี เพราะเขาคือผู้อยู่เบื้องหลังการหาเสียง และขับเคลื่อนตามมหาวิทยาลัย หรือถูกเรียกอีกชื่อว่า เป็น ‘เสียงกระซิบของเยาวชนฝ่ายขวา’ 

เคิร์ก ไม่เคยดำรงตำแหน่งทางการเมืองใดๆ แต่เป็นนักกิจกรรมที่คลั่งไคล้ลัทธิชาตินยม และเป็นคริสเตียนที่แสนอนุรักษ์นิยม ในวัย 18 ปี เขาได้ก่อตั้ง Turning Point USA (TPUSA) ในปี 2012 ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกําไรที่สนับสนุนการเมืองแบบอนุรักษ์นิยมในวิทยาเขตของโรงเรียนมัธยม วิทยาลัย และมหาวิทยาลัย

ภายใต้การนําของเขา TPUSA กลายเป็นองค์กรนักเคลื่อนไหวเยาวชนอนุรักษ์นิยมที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ  มีวิทยาเขตโรงเรียนมัธยมและวิทยาลัยมากกว่า 3,000 แห่ง สมาชิกนักศึกษาตลอดชีวิต 650,000 คน และพนักงานมากกว่า 450 คน 

เคิร์กยังเป็นนักเขียน ที่ออกหนังสือ และเป็นบุคคลในพื้นที่สื่อ ที่ไปปรากฎตัวตามช่องฝ่ายขวาเป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นช่อง Fox News, Newsweek, และ The Washington Times ทั้งยังจัดรายการพอดแคสต์ของตัวเอง ชื่อ The Charlie Kirk Show ที่เป็นที่นิยมมากในสหรัฐฯ ด้วย 

นอกจากบทบาททางการเมือง เขายังเป็นพ่อลูกสอง และสามีของภรรยา โดยในปี 2021 เขาได้แต่งงานกับ เอริกา เลนส์ นักจัดพอดคาสต์ นักธุรกิจหญิง และอดีตมิสแอริโซนาสหรัฐอเมริกา ก่อนให้กำเนิดลูกสาว และลูกชายต่อมา


นักอนุรักษ์นิยม ผู้รักศาสนา และแนวคิดขวาสุดของเคิร์ก

มีรายงานว่า การตื่นขึ้นแบบอนุรักษ์นิยมของเขาเกิดขึ้นในช่วงดํารงตําแหน่งประธานาธิบดีของบารัค โอบามา ท่ามกลางวิกฤตการณ์ทางการเงินในปี 2008 ที่นโยบายต่างๆ เช่น เงินช่วยเหลือธนาคาร ซึ่งทำให้เขาเริ่มไม่พอใจ และเริ่มหันมาสนับสนุนฝ่ายขวา และพรรครีพับลิกัน

เมื่ออายุ 23 ปี เขาเป็นวิทยากรที่อายุน้อยที่สุดในการประชุมแห่งชาติของพรรครีพับลิกันในปี 2016 เขาช่วยเหลือการเดินทางและสื่อของโดนัลด์ ทรัมป์ระหว่างการหาเสียง ในปี 2019 และกลายเป็นประธานของกลุ่ม Students for Trump ระดมเยาวชนในการเลือกตั้ง ซึ่งแม้ว่าทรัมป์จะแพ้การเลือกตั้งในครั้งแรก เขายังได้จัดการประท้วงชื่อ ‘หยุดขโมย’ ที่พูดถึงทฤษฎีการโกงเลือกตั้งของโจ ไบเดนด้วย  

และในการเลือกตั้งครั้งล่าสุด เขายังมีบทบาทสำคัญในการเดินสายตามมหาวิทยาลัย และช่วยทรัมป์หาเสียง จนได้รับการเสนอชื่อให้อยู่ในรายชื่อ Forbes "30 Under 30" และเป็นที่รู้จักจากสไตล์การพูดที่ปลุกใจการต่อสู้ของเขา มักจะจัดการอภิปรายกับนักเรียนในเซสชั่น "พิสูจน์ว่าฉันผิดสิ" 

หลังทรัมป์ชนะเลือกตั้ง และกลับมาดำรงตำแหน่ง ปธน.อีกครั้ง เขาได้ตั้ง เคิร์กให้เป็นคณะกรรมการผู้เยี่ยมชมสถาบันกองทัพอากาศสหรัฐฯ ซึ่งเป็นบทบาทในการดูแลหลักสูตรและการสอน ทั้งยังอยู่ในกลุ่มนักลงทุนรุ่นแรกของ ‘1789 Capital’ ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนที่ได้รับการสนับสนุนจากพันธมิตรของประธานาธิบดี เช่น โดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ ลูกชายคนโตของทรัมป์ด้วย 

แต่เนื่องจากการเป็นฝ่ายขวาจัด และเป็นอนุรักษ์นิยมคริสเตียน ทำให้ตลอดการมีพื้นที่สื่อนั้น เคิร์กมักพูดถึงหลายอย่างที่ถูกมองว่า ขัดแย้งกับข้อเท็จจริง เช่น การพูดถึงทฤษฎีสมคบคิดที่ยังไม่มีการพิสูจน์ ปฏิเสธวิกฤตโลกร้อน การพูดเท็จเกี่ยวกับการระบาดใหญ่ของโควิดและวัคซีน รวมไปถึงการต่อต้าน LGBTQ+ สนับสนุนคนผิวขาวเป็นใหญ่ และมักอ้างถึงความชอบธรรมของพระเจ้าแทน 

ในการปรากฎตัวกับทรัมป์ ในการหาเสียงที่จอร์เจีย เขาโจมตีพรรคเดโมแครตว่า "ยืนหยัดเพื่อทุกสิ่งที่พระเจ้าเกลียดชัง"

เขายังเป็นผู้สนับสนุนอิสราเอลอย่างสุดโต่ง รวมถึงต่อต้านศาสนาอิสลามอย่างเปิดเผย โดยปฏิเสธว่าอิสราเอลกำลังทำให้ชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซาอดอยาก และมองว่า ชาวมุสลิมเป็นพวกหัวรุนแรงและอ้างว่าศาสนาอิสลามไม่สอดคล้องกับค่านิยมของตะวันตก โดยทวีตล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เขาได้โจมตีว่า “ศาสนาอิสลามคือดาบที่ฝ่ายซ้ายใช้กรีดคออเมริกา” 


ความรุนแรงทางการเมืองในสหรัฐฯ ที่เลวร้ายลงเรื่อยๆ 

โดยหลังการเสียชีวิตของเคิร์ก ทั้งพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตประณามความรุนแรง และการลอบยิงที่เกิดขึ้น 

ทรัมป์ได้เขียนบน Truth Social ว่า "ชาร์ลี เคิร์กผู้ยิ่งใหญ่ และเป็นตํานานเสียชีวิตแล้ว ไม่มีใครเข้าใจหรือมีหัวใจของเยาวชนในสหรัฐอเมริกาได้ดีไปกว่าชาร์ลี เขาเป็นที่รักและชื่นชมจากทุกคน โดยเฉพาะฉัน และตอนนี้ เขาไม่ได้อยู่กับเราอีกต่อไป" ซึ่งต่อมาทรัมป์บอกกับนิวยอร์กโพสต์ว่า "เขาเป็นเพื่อนที่ดีมากของฉันและเขาเป็นคนที่ยอดเยี่ยม"

ขณะที่อดีตรองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริส และอดีตคู่ชิง ปธน.ของทรัมป์เอง ก็กล่าวว่าเธอรู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก จากการถูกยิงของเคิร์ก “ให้ฉันพูดให้ชัดเจน: ความรุนแรงทางการเมืองไม่มีที่ในอเมริกา ฉันประณามการกระทํานี้ และเราทุกคนต้องทํางานร่วมกันเพื่อให้แน่ใจว่าสิ่งนี้จะไม่นําไปสู่ความรุนแรงมากขึ้น” 

ในเว็บไซต์ของทำเนียบขาวเองยังได้สั่งให้ลดธงครึ่งเสาตามสถานที่ราชการทั่วประเทศ เพื่อไว้อาลัยเขาถึงวันที่ 14 กันยายนนี้ด้วย 

โดยสาเหตุการฆาตกรรมเคิร์ก ถูกมองว่าเป็นเหตุจากความรุนแรงทางการเมือง ที่มีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในสหรัฐฯ โดยทรัมป์เองก็ถูกพยายามลอบสังหารถึงสองครั้ง ในระหว่างการหาเสียงเลือกตั้งในปี 2024 

ที่ผ่านมาเหตุเหล่านี้เกิดขึ้นถี่ และรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ย้อนไปในเดือนมิถุนายน สมาชิกสภานิติบัญญัติ พรรคเดโมแครตของมินนิโซตา และสามีของเธอถูกฆาตกรรมในบ้านของพวกเขา หรือในเดือนเมษายน บ้านของผู้ว่าการรัฐเพนซิลเวเนีย จากพรรคเดโมแครต ก็ถูกเผาในการโจมตีด้วยลอบวางเพลิง ขณะที่เขาและครอบครัวของเขานอนหลับอยู่ข้างใน รวมไปถึงอีกหลายเหตุการณ์มากมายจากแรงจูงใจทางการเมืองต่างๆ 

โดย โรเบิร์ต เปป ศาสตราจารย์แห่งมหาวิทยาลัยชิคาโก ผู้ซึ่งศึกษาความรุนแรงทางการเมืองมาเป็นเวลา 30 ปี ได้เตือนในปีนี้ว่า สถานการณ์กําลังเลวร้ายลง และอเมริกาอาจอยู่บนปากเหวของยุคที่มีความรุนแรงอย่างยิ่ง

"การยิงเคิร์กเป็นความรุนแรงทางการเมืองแบบที่ฉันคาดการณ์ไว้... เราต้องการให้ผู้นําประชาธิปไตยทุกคนประณามการโจมตีอย่างรุนแรงในทันที" เขาเขียนบน X

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง