ทรัมป์-เมลาเนีย ถึงอังกฤษ เตรียมเข้าพบกษัตริย์ชาลส์ พร้อมพิธีต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่

เมื่อวานนี้ (16 กันยายน) ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ได้กล่าวชื่นชมสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 แห่งอังกฤษ ก่อนออกเดินทางไปยังสหราชอาณาจักรในการเยือนอย่างเป็นทางการครั้งที่สอง ซึ่งล่าสุดทรัมป์และเมลาเนีย สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง ก็เดินทางถึงกรุงลอนดอนแล้ว โดยทรัมป์กล่าวถึงกษัตริย์ชาร์ลส์ว่า เป็น “เพื่อน” และ “สุภาพบุรุษผู้สง่างาม” พร้อมเสริมว่า “พระองค์ทรงเป็นตัวแทนของประเทศได้อย่างยอดเยี่ยม” และ “เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่มีพระองค์เป็นกษัตริย์”

ในวันนี้ (17 กันยายน) ทรัมป์จะได้รับการต้อนรับอย่างเป็นทางการจากกษัตริย์ชาร์ลส์ที่พระราชวังวินด์เซอร์ พร้อมพิธีต้อนรับอันยิ่งใหญ่ตามราชประเพณี

ทรัมป์ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า เขาจะหารือเกี่ยวกับข้อตกลงทางการค้าระหว่างการเยือนครั้งนี้ โดยระบุว่า สหราชอาณาจักร “ต้องการดูว่าพวกเขาจะสามารถได้ข้อตกลงที่ดีกว่านี้เล็กน้อยหรือไม่” จากนั้นในวันพฤหัสบดีที่ 18 กันยายน นายกรัฐมนตรีเคียร์ สตาร์เมอร์ ของอังกฤษ จะให้การต้อนรับทรัมป์ที่เชกเกอร์ส (Chequers) คฤหาสน์สมัยศตวรรษที่ 16 ในชนบททางตอนใต้ของอังกฤษ เพื่อหารือประเด็นด้านการลงทุน, ภาษีเหล็กและอะลูมิเนียม, การยุติสงครามในยูเครน และสถานการณ์ในฉนวนกาซา

สำนักงานของสตาร์เมอร์เปิดเผยว่า ผู้นำทั้งสองจะลงนามใน “ข้อตกลงความร่วมมือด้านเทคโนโลยีระดับโลก” รวมถึงข้อตกลงมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดเล็ก ซึ่งบางโครงการอาจนำมาใช้ในการจ่ายพลังงานให้กับศูนย์ข้อมูลปัญญาประดิษฐ์ (AI)

ทั้งนี้ สตาร์เมอร์ถือเป็นผู้นำประเทศคนแรกที่ตกลงข้อตกลงเศรษฐกิจร่วมกับทรัมป์ในการลดภาษีการค้าระดับโลก

ด้านตำรวจอังกฤษได้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดรอบเมืองวินด์เซอร์ ก่อนการเดินทางเยือนของประธานาธิบดีทรัมป์ โดยทรัมป์มีกำหนดเดินทางมาถึงในช่วงค่ำของวันอังคารตามเวลาท้องถิ่น และจะได้รับการต้อนรับอย่างเป็นทางการจากกษัตริย์ชาร์ลส์ และสมเด็จพระราชินีคามิลลา ที่ปราสาทวินด์เซอร์ในมณฑลเบิร์กเชียร์วันนี้ซึ่งนับเป็นการเยือนอย่างเป็นทางการ (State Visit) ครั้งที่สองของทรัมป์อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โดยเขาจะได้รับการต้อนรับตามราชประเพณีอย่างเต็มรูปแบบ เช่น การนั่งราชรถชมรอบพระราชวัง และงานเลี้ยงพระราชทานอย่างหรูหรา

ถนนในเมืองวินด์เซอร์ถูกประดับประดาด้วยธงชาติสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักรเรียงเคียงกัน แม้ว่ากิจกรรมส่วนใหญ่ของการเยือนครั้งนี้จะจัดขึ้นเป็นการส่วนตัว ไม่เปิดให้สาธารณชนเข้าชม

การเยือนครั้งนี้มีขึ้นหลังเหตุการณ์ลอบสังหารนักเคลื่อนไหวฝ่ายขวา “ชาร์ลี เคิร์ก” ซึ่งเป็นพันธมิตรใกล้ชิดของทรัมป์ เมื่อสัปดาห์ก่อน ส่งผลให้เกิดความวิตกเกี่ยวกับความรุนแรงทางการเมืองในสหรัฐฯ ที่อาจทวีความรุนแรงขึ้น

ขณะเดียวกัน มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีการต่างประเทศของสหรัฐฯ ได้เดินทางถึงกรุงลอนดอนแล้วเมื่อวานนี้ เพื่อเข้าร่วมคณะผู้แทนของประธานาธิบดีทรัมป์ ในการเยือนสหราชอาณาจักรอย่างเป็นทางการครั้งที่สอง ซึ่งไม่เคยมีประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใดได้รับเกียรตินี้มาก่อน

ทั้งสองประเทศเตรียมลงนามข้อตกลงมูลค่ากว่า 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อฟื้นฟูและตอกย้ำความสัมพันธ์ "พิเศษ" ระหว่างสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักร ซึ่งนายกรัฐมนตรีสตาร์เมอร์ของอังกฤษให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง

ก่อนการมาถึงของทรัมป์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ สก็อตต์ เบสเซนต์ และรัฐมนตรีคลังของอังกฤษ เรเชล รีฟส์ ได้ร่วมกันเป็นเจ้าภาพในการทำกิจกรรมเบื้องต้น พร้อมประกาศจัดตั้ง “คณะทำงานข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก” (Transatlantic Taskforce) เพื่อยกระดับความร่วมมือระหว่างสองศูนย์กลางทางการเงินที่ใหญ่ที่สุดของโลก