ทรุด! "Tesla" ในจีนยอดขายร่วงแตะจุดต่ำสุดรอบ 3 ปี

Tesla เผชิญแรงกดดันครั้งใหม่ในตลาดจีน หลังยอดขายเดือนตุลาคมเหลือเพียง 26,006 คัน ลดลงถึงร้อยละ 35.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และถือเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปี ตามข้อมูลจากสมาคมรถยนต์โดยสารแห่งประเทศจีน (CPCA)
ตัวเลขดังกล่าวถือว่าลดลงอย่างมากจากเดือนกันยายนที่ Tesla มียอดขายกว่า 71,000 คัน ซึ่งเป็นช่วงเริ่มส่งมอบรถรุ่น Model Y L — รถ SUV รุ่นขายดีที่ได้รับการปรับดีไซน์ให้มีฐานล้อยาวขึ้นและเพิ่มที่นั่งเป็น 6 ที่นั่งสำหรับตลาดจีนโดยเฉพาะ อย่างไรก็ตาม ความนิยมในรุ่นใหม่นี้ยังไม่สามารถชดเชยการชะลอตัวของอุปสงค์โดยรวมได้
แม้ยอดขายภายในประเทศจะตกต่ำ แต่ Tesla กลับเพิ่มการส่งออกรถยนต์จากโรงงานเซี่ยงไฮ้ไปยังยุโรปและตลาดอื่น ๆ ได้สูงสุดในรอบ 2 ปี โดยมีจำนวน 35,491 คันในเดือนเดียว สะท้อนถึงกลยุทธ์ของบริษัทในการพึ่งพาตลาดต่างประเทศมากขึ้นในช่วงที่ตลาดจีนอ่อนแรง
ส่วนแบ่งตลาดของ Tesla ในกลุ่มรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) ของจีนลดลงอย่างมาก เหลือเพียงร้อยละ 3.2 ในเดือนตุลาคม จากร้อยละ 8.7 ในเดือนก่อนหน้า ซึ่งถือเป็นระดับต่ำสุดในรอบกว่า 3 ปี การร่วงลงครั้งนี้สะท้อนแรงกดดันจากการแข่งขันที่รุนแรงในตลาด โดยเฉพาะจากผู้ผลิตจีนอย่าง BYD, Nio, Xpeng และ Xiaomi ซึ่งต่างเร่งเปิดตัวรถรุ่นใหม่พร้อมราคาที่เข้าถึงได้มากกว่า
ขณะเดียวกัน ยอดขายรวมของตลาดรถยนต์จีนในเดือนตุลาคมก็ลดลงเช่นกัน เนื่องจากผู้บริโภคมีความระมัดระวังในการใช้จ่ายมากขึ้น หลังสิ้นสุดมาตรการสนับสนุนจากรัฐบาลและการลดหย่อนภาษีที่เคยช่วยกระตุ้นตลาดในช่วงก่อนหน้า
Tesla ยังประสบปัญหาคล้ายกันในตลาดยุโรป โดยยอดขายในเยอรมนี สเปน เนเธอร์แลนด์ และกลุ่มประเทศแถบสแกนดิเนเวียต่างลดลงต่อเนื่องในเดือนที่ผ่านมา สะท้อนถึงแรงต้านจากความอิ่มตัวของตลาดและการแข่งขันจากผู้ผลิตท้องถิ่นที่เริ่มรุกตลาด EV อย่างเข้มข้น
ในทางกลับกัน บริษัทคู่แข่งรายใหม่อย่าง Xiaomi กลับรายงานยอดขายรถยนต์ไฟฟ้ารวมกว่า 48,000 คันในเดือนเดียวจากรุ่น SU7 และ YU SUV แม้จะมีเหตุอุบัติเหตุในบางกรณีที่สร้างความกังวลเรื่องความปลอดภัย แต่ยังสะท้อนถึงพลังของแบรนด์ท้องถิ่นที่สามารถดึงดูดผู้บริโภคได้มากขึ้นในตลาดที่เติบโตช้า
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
