รีเซต

ก.ล.ต.ผนึกภาครัฐ-เอกชน ปราบ"สแกมเมอร์"

ก.ล.ต.ผนึกภาครัฐ-เอกชน ปราบ"สแกมเมอร์"
TNN ช่อง16
7 พฤศจิกายน 2568 ( 10:47 )
7

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) ว่าด้วยความร่วมมือในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ระหว่าง 15 หน่วยงานภาครัฐและเอกชน โดยมีเป้าหมายเพื่อประกาศเจตนารมย์ในการต่อต้านอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ Scammer ยับยั้งการใช้สินทรัพย์ดิจิทัลเป็นช่องทางการฟอกเงิน และให้คำปรึกษาภัยหลอกลงทุน

นางสาวจอมขวัญ คงสกุล รองเลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า ในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ก.ล.ต. ได้ดำเนินมาตรการป้องกันและยับยั้งการใช้สินทรัพย์ดิจิทัลเป็นช่องทางการฟอกเงินอย่างต่อเนื่อง โดยร่วมกับหน่วยงานภาคเอกชน ในการกำหนดมาตรฐานป้องกันและจัดการบัญชีม้า 

รวมทั้งยกระดับมาตรการป้องกันการใช้แพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลในต่างประเทศเป็นช่องทางฟอกเงิน โดยร่วมมือกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เพื่อดำเนินการปิดกั้นเว็บไซต์และแอปพลิเคชันของผู้ให้บริการสินทรัพย์ดิจิทัลต่างประเทศที่มีพฤติกรรมการชักชวนหรือโฆษณาการให้บริการ (solicit) กับผู้ลงทุนในประเทศไทย ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ตลอดจนขยายความร่วมมือในการจัดการปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยีระหว่างภาคธนาคาร ผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง


จากการดำเนินมาตรการดังกล่าว ส่งผลให้ผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลสามารถระงับบัญชีม้าสินทรัพย์ดิจิทัลได้กว่า 32,671 บัญชี รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ถูกอายัดประมาณ 228 ล้านบาท (ยอดสะสม ณ วันที่ 30 กันยายน 2568) และ ก.ล.ต. ได้นำส่งข้อมูลแพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่ไม่ได้รับอนุญาตให้แก่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เพื่อดำเนินการปิดกั้นช่องทางการเข้าถึงแพลตฟอร์มดังกล่าวแล้ว จำนวน 5 แพลตฟอร์ม

พร้อมทั้ง ก.ล.ต. ได้เดินหน้านโยบายการป้องกันเชิงรุก มุ่งลดความสูญเสียของประชาชนจากภัยหลอกลงทุน ด้วยการดำเนินงานผ่าน “สายด่วนแจ้งหลอกลงทุน 1207 กด 22” ซึ่งให้คำปรึกษาและรับแจ้งเบาะแสอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2566 โดยในเดือนตุลาคม 2568 ได้รับแจ้งและให้คำปรึกษามากกว่า 1,500 ครั้ง สะท้อนว่าประชาชนตระหนักและต้องการความช่วยเหลือมากขึ้น

 

ก.ล.ต. ยังใช้เทคโนโลยีตรวจจับและปิดกั้นการชักชวนหลอกลงทุนบนสื่อโซเชียล เช่น Facebook Instagram TikTok และ LINE โดยทำงานร่วมกับผู้ให้บริการสื่อโซเชียลและสามารถปิดกั้นได้ภายในระยะเวลา 7 นาที ถึง 48 ชั่วโมง และปิดกั้นได้ครบ 100% 

รองเลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า การลงนาม MOU ครั้งนี้ จึงตอกย้ำบทบาทของ ก.ล.ต. ในการเป็นศูนย์กลางให้บริการเรื่องภัยหลอกลงทุนแบบครบวงจร มุ่งยกระดับมาตรการป้องกันและยับยั้งการใช้สินทรัพย์ดิจิทัลเป็นช่องทางการฟอกเงิน เพื่อให้ตลาดทุนไทยปลอดภัยจากอาชญากรรมทางเทคโนโลยีอย่างยั่งยืน 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง