สหรัฐติดโควิด ทะลุแสนคน ทรัมป์ไม่เชื่อนิวยอร์กต้องใช้เครื่องช่วยหายใจถึง 3 หมื่น
สหรัฐติดโควิด ทะลุแสนคน ทรัมป์ไม่เชื่อนิวยอร์กต้องใช้เครื่องช่วยหายใจถึง 3 หมื่น
สหรัฐติดโควิด - วอชิงตันโพสต์ รายงานความยุ่งยากทางการเมือง ช่วงวิกฤติโควิด-19 ระบาดทั่วโลก รวมถึงสหรัฐอเมริกา ที่ทะยานเป็นประเทศที่มียอดสะสมผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสูงสุดในโลก ทะลุ 1 แสนคนแล้ว หลังเพิ่มขึ้นอีก 14,600 คนภายใน 24 ชั่วโมง จากการสำรวจของเว็บ www.worldometers.info/coronavirus ขณะที่ยอดเสียชีวิตอยู่ที่ 1,536 ราย
https://www.youtube.com/watch?v=3UgCp-bD1Zc
เมื่อนายแอนดรูว์ คูโอโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก พื้นที่เชื้อระบาดหนัก มีผู้ติดเชื้อราว 45,000 คน ขอให้รัฐบาลกลางสนับสนุนเครื่องช่วยหายใจ 30,000 เครื่อง เพื่อมารองรับคนไข้ที่จะล้นโรงพยาบาลในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา กลับกล่าวว่า ไม่เชื่อว่านิวยอร์กจะต้องใช้เครื่องเยอะถึงขนาดนั้น
"ผมรู้สึกว่าจำนวนนั้นมันมากเกินกว่าที่จะใช้จริง ผมไม่เชื่อว่า คุณต้องการเครื่องช่วยหายใจ 40,000 หรือ 30,000 เครื่องหรอก คุณรู้มั้ยว่าถ้าคุณไปโรงพยาบาลหลักๆ เขามีเครื่องช่วยหายใจอยู่แล้ว 2 เครื่อง แล้วจู่ๆ คุณจะพูดว่า เราขอสั่งเครื่องช่วยหายใจ 30,000 เครื่องงั้นเหรอ" ทรัมป์ให้สัมภาษณ์ ฟ็อกซ์ นิวส์
ความเห็นดังกล่าวมีหลังจากที่นิวยอร์กไทมส์ เพิ่งรายงานว่า รัฐบาลสหรัฐสั่งระงับแผนที่จะประกาศให้บริษัทเจเนอรัล มอเตอร์ส และเวนเทค ไลฟ์ ซิสเต็ม ผนึกกันผลิตเครื่องช่วยหายใจ 80,000 เครื่อง เพราะกังวลเรื่องงบประมาณอาจสูง 1,000 ล้านดอลลาร์ หรือราว 3 หมื่นล้านบาท
ก่อนหน้านี้ ทรัมป์กล่าวถึงเครื่องช่วยหายใจด้วยว่า เป็นเครื่องยนต์ที่ไม่ใช่ราคาถูกๆ ราคาเหมือนซื้อรถยนต์คันหนึ่งเลยทีเดียว ยิ่งของดียิ่งราคาแพงมากๆๆๆๆ
ด้าน ซีเอ็นเอ็น รายงานปฏิกิริยาคล้ายกันของที่ปรึกษาด้านการค้าของรัฐบาลทรัมป์ คือนายปีเตอร์ นาวาร์โร ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซีเอ็นเอ็น ตำหนิสื่อว่าไม่ควรเสนอข่าวเร้าอารมณ์ จนทำให้คนรู้สึกเกินจริงว่าโรงพยาบาลกำลังขาดแคลนอุปกรณ์ป้องกันติดเชื้อส่วนบุคคล เพราะจะทำให้งานของรัฐบาลยุ่งยากขึ้น และจะทำให้เจ้าหน้าที่การแพทย์ทำงานหนักขึ้น
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่แพทย์ภาคสนามจำนวนมากไม่เห็นด้วยกับนายนาวาร์โร และเห็นว่าสื่อเสนอข่าวที่ช่วยกระตุ้นการรับรู้ของสังคมดีขึ้น เช่น พญ.ลิซา แดบบี ระบุว่า บุคลากรทางการแพทย์ต้องการชุดพีพีอี หรือ ชุดป้องกันการติดเชื้อ และคิดว่าประชาชนเข้าใจสถานการณ์
ส่วน นพ.เจมส์ ฟิลิปส์ จากมหาวิทยาลัยจอร์จ วอชิงตัน กล่าวว่าแพทย์ต้องการอุปกรณ์ป้องกันการติดเชื้ออย่างยิ่งเพราะกำลังขาดแคลน จนศูนย์ควบคุมโรคติดต่อต้องออกนำแนะนำในการนำชุดพีพีอี กลับมาใช้ซ้ำ ทั้งที่ไม่ได้ปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัย จากปกติ ที่ใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง แต่ตอนนี้ ต้องนำกลับมาใช้โดยผ่านการฆ่าเชื้อเพื่อใช้กับผู้ป่วยได้อีกหลายๆ คน ดังนั้น การกล่าวว่าชุดพีพีอีเพียงพอทั้งประเทศ จึงเป็นเรื่องหลอกลวง
ด้าน นพ.สัญชัย คุปตะ ผู้สื่อข่าวด้านการแพทย์ของซีเอ็นเอ็น กล่าวว่าอุปกรณ์ทางการแพทย์ใกล้จะหมดลงในอีกไม่กี่วันนี้แล้ว หากเจ้าหน้าที่การแพทย์ไม่เพียงพอ ก็จะเป็นผลร้ายต่อทั้งประเทศ แต่ยังโชคดีที่ยังมีเจ้าหน้าที่เพียงพอที่จะรักษาผู้ป่วย
//////////