กองทัพเรืออังกฤษ ทดสอบ “หุ่นยนต์ใต้น้ำกู้ภัย” ต้านภัยคุกคาม เพิ่มความปลอดภัยมากขึ้น

กองทัพเรือสหราชอาณาจักรกำลังดำเนินการทดสอบระบบ "หุ่นยนต์ใต้น้ำ" เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการป้องกันและรักษาความปลอดภัยของโครงสร้างพื้นฐานใต้น้ำที่สำคัญ โครงการนี้พัฒนาโดยห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีด้านการป้องกันประเทศแห่งสหราชอาณาจักร (Defence Science and Technology Laboraory - Dstl) ร่วมกับพันธมิตรในอุตสาหกรรม ได้นำยานพาหนะควบคุมระยะไกล (ROV) มาปรับปรุงขีดความสามารถให้สามารถรับมือกับภัยคุกคามจากการก่อวินาศกรรม เช่น สายเคเบิลสื่อสารและท่อส่งพลังงาน โดยมุ่งเน้นการปฏิบัติการในระดับความลึกที่เกินขีดจำกัดความปลอดภัยของนักประดาน้ำ และทำภารกิจกู้ระเบิดวัตถุที่ยังไม่ระเบิด (UXO) ที่ตกค้างอยู่ในทะเล
ความสำคัญของโครงข่ายใต้น้ำและปัญหาภัยคุกคามที่เกิดขึ้น
โดยทั่วไปแล้วก้นทะเลมักถูกมองว่าเป็นพื้นที่ว่างเปล่า แต่ในความเป็นจริงพื้นที่แห่งนี้ได้กลายเป็นเส้นทางของเครือข่ายสายเคเบิลใต้น้ำทั่วโลก ซึ่งเป็นโครงข่ายหลักในการรับส่งข้อมูลอินเทอร์เน็ตถึง 95% ของปริมาณข้อมูลทั้งหมด นอกเหนือจากสายเคเบิลส่งกระแสไฟฟ้าที่เชื่อมโยงภูมิภาคต่างๆ พื้นที่แห่งนี้ยังมีท่อส่งน้ำมันและก๊าซ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในหลายทวีป
โครงสร้างพื้นฐานทางวิศวกรรมที่น่าอัศจรรย์เหล่านี้ ได้รับการประเมินโดยนักวางแผนยุทธศาสตร์ว่าเป็นสายส่งยุทธปัจจัยที่มีความเปราะบางอย่างยิ่งและได้แสดงให้เห็นถึงความเสี่ยงที่ชัดเจน โดยในปี 2023 เป็นต้นมา มีรายงานความเสียหายของสายเคเบิลใต้น้ำ 5 เส้นและท่อส่ง 2 เส้นในทะเลบอลติก และ สายเคเบิล 16 เส้นรอบไต้หวัน รวมถึงท่อส่ง 1 เส้นในทะเลแดง ซึ่งทั้งหมดถูกตัดขาดหรือได้รับความเสียหายไม่ว่าจะเป็นโดยเจตนาหรือภายใต้สถานการณ์ที่น่าสงสัย นอกจากนี้ยังมีเหตุการณ์อีกประมาณ 200 กรณีทั่วโลกที่เกิดจากอุบัติเหตุ เช่น การลากสมอเรือ หรืออุปกรณ์ประมงที่พันกัน
แม้ว่าอุบัติเหตุจะเป็นปัญหาที่ร้ายแรงอยู่แล้ว แต่ การโจมตีและทำลายโครงข่ายใต้น้ำนี้โดยเจตนาก่อให้เกิดนัยยะสำคัญทางการทหารและภูมิรัฐศาสตร์ ด้วยเหตุนี้ มหาอำนาจทางทะเลและพันธมิตรที่สำคัญจึงมีความตั้งใจอย่างยิ่งที่จะป้องกันไม่ให้ศัตรูก่อความเสียหายต่อโครงสร้างพื้นฐานเหล่านี้
เทคโนโลยีขอนวัตกรรมนี้
กองทัพเรืออังกฤษกำลังศึกษาแนวทางในการรับมือกับภัยคุกคามดังกล่าว โดยใช้ยานพาหนะควบคุมระยะไกล (ROV) หรือ ยานพาหนะไร้คนขับที่ถูกควบคุมจากระยะไกล ซึ่งโดยปกติจะใช้ในสภาพแวดล้อมที่มนุษย์ไม่สามารถเข้าถึงได้ง่ายหรือปลอดภัย เช่น ใต้น้ำ ลาดตระเวนทางทหาร
นวัตกรรมนี้ได้รับการพัฒนาและปรับปรุงโดยห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการป้องกันประเทศของสหราชอาณาจักร (Defence Science and Technology Laboratory – Dstl) เพื่อให้มันสามารถตรวจจับวัตถุระเบิดที่ยังไม่ระเบิดได้อย่างแม่นยำ และสามารถวางวัตถุระเบิดเพื่อทำการเก็บกู้อย่างปลอดภัยจากระยะไกล
ด้วยเซ็นเซอร์ที่ทันสมัย เครื่องมือพิเศษ และกล้องคุณภาพสูง หุ่นยนต์ใต้น้ำนี้จะช่วยให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถจัดการกับอันตรายใต้น้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และแบบเรียลไทม์ ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงที่บุคลากรจะต้องเผชิญหน้ากับอันตรายโดยตรง โดยความโดดเด่นของหุ่นยนต์ใต้น้ำคือความสามารถในการปฏิบัติงานในความลึกที่นักประดาน้ำไม่สามารถเข้าถึงได้ สามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน และเทคโนโลยีและระบบใหม่ที่พัฒนาขึ้นนี้ถูกออกแบบมาให้ทำงานร่วมกับหุ่นยนต์ตัวอื่น ๆ เพื่อสแกนพื้นทะเลค้นหาอันตราย และเข้าจัดการกับมันทันทีที่ตรวจพบ
ทั้งนี้หุ่นยนต์สามารถปล่อยได้จากทั้งเรือหรือชายฝั่ง และควบคุมจากระยะไกล โดยมีภาพวิดีโอและข้อมูลโซนาร์ส่งกลับมายังผู้ปฏิบัติงานแบบเรียลไทม์ ทำให้สามารถจัดการกับอันตรายใต้น้ำได้อย่างปลอดภัยยิ่งขึ้น และหุ่นยนต์นี้ไม่จำเป็นต้องถูกทำลายหลังการใช้งาน ซึ่งหมายความว่าสามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้หลายครั้ง จึงช่วยประหยัดงบประมาณและมอบความคุ้มค่าสูงสุดแก่สาธารณชน
ปัจจุบัน
ก่อนการทดสอบในทะเลจริง บริเวณช่องแคบบริสตอล และทะเลเหนือ นอกชายฝั่งนอร์เวย์ หุ่นยนต์เชิงพาณิชย์เหล่านี้ได้รับการดัดแปลงให้เป็นไปตามมาตรฐานทางทหาร รวมถึงการติดตั้งระบบตรวจจับวัตถุระเบิด การเสริมความแข็งแกร่งเพื่อรองรับการปฏิบัติงานในระยะยาวในความลึกที่เกินกว่าขีดความปลอดภัยของมนุษย์ และแขนกลที่ช่วยให้หุ่นยนต์สามารถบรรทุกและวางวัตถุระเบิดเพื่อทำลายภัยคุกคามได้ นอกจากนี้ ยังมีระบบภาพระยะไกลที่สามารถส่งข้อมูลภาพและโซนาร์แบบเรียลไทม์ไปยังผู้ควบคุมบนเรือแม่ (Mothership)
การพัฒนานวัตกรรมนี้เป็นการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดระหว่างผู้เชี่ยวชาญของ Dstl และกองทัพเรือสหราชอาณาจักร เพื่อพัฒนากลยุทธ์ เทคนิค และเทคโนโลยีใหม่ ๆ การทดลองได้ดำเนินการในหลายพื้นที่ โดยมีพันธมิตรในอุตสาหกรรมชั้นนำเข้าร่วมในโครงการนี้ ได้รับทุนสนับสนุนจากกองทัพเรือสหราชอาณาจักร
ความสำเร็จในการทดลองบ่งชี้ถึงอนาคตที่สดใสของเทคโนโลยีหุ่นยนต์ใต้น้ำ ซึ่งไม่เพียงแต่จะเพิ่มขีดความสามารถในการป้องกันประเทศ แต่ยังเป็นประโยชน์ต่อการกู้ภัยและรักษาความปลอดภัยในท้องทะเลอีกด้วย
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
