เยอรมนีเล็งออกกฎหมายใหม่ ให้กองทัพยิงโดรนได้

อเล็กซานเดอร์ โดบรินดต์ รัฐมนตรีมหาดไทยของเยอรมนี กล่าวเมื่อวานนี้ (27 ก.ย.) ว่า เยอรมนีต้องการให้อำนาจกองทัพสามารถยิงโดรนตกได้ หลังพบเห็น “ฝูงโดรน” เหนือพื้นที่ทางตอนเหนือของประเทศ ซึ่งการประกาศดังกล่าวมีขึ้นหลังจากมีการพบเห็นโดรนใกล้สนามบินและสถานที่ทางทหารในเดนมาร์กและนอร์เวย์หลายครั้งในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา โดยผู้ต้องสงสัยคือรัสเซีย แม้ยังไม่มีหลักฐานพิสูจน์ต่อสาธารณะ และรัสเซียก็ได้ปฏิเสธความเกี่ยวข้องในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเดนมาร์ก

โดบรินดต์ กล่าวในการแถลงข่าวว่า ในกรณีของเยอรมนี มีการพบ “ฝูงโดรน” เมื่อวันที่ 26 กันยายนที่ผ่านมา บินอยู่เหนือรัฐชเลสวิก-โฮลชไตน์ ซึ่งมีชายแดนติดกับเดนมาร์ก 

แม้ว่าในช่วงหลังสงครามยูเครนจะมีการพบเห็นโดรนบ่อยขึ้น แต่เขากล่าวว่ายังไม่เคยมีรายงานเกี่ยวกับ “ฝูงโดรน” เช่นนี้มาก่อน

เขาไม่ได้ระบุว่าโดรนบินเหนือสถานที่ใด หรือผู้ใดเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง แต่รัฐบาลเบอร์ลินได้กล่าวหารัสเซียมานานแล้วว่าเกี่ยวข้องกับการสอดแนมและการเฝ้าระวัง ซึ่งเขากล่าวว่า เรากำลังเผชิญกับภัยคุกคามแบบไฮบริดอย่างต่อเนื่อง

เขายืนยันว่า รัฐบาลมีแผนจะแก้ไขกฎหมายว่าด้วยความปลอดภัยทางอากาศ เพื่ออนุญาตให้กองทัพสามารถยิงโดรนตกได้ 

ปัจจุบัน ตำรวจเป็นผู้รับผิดชอบในการป้องกันภัยจากโดรน แต่โดบรินดต์กล่าวว่าจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลง

หนังสือพิมพ์บิลด์ของเยอรมนี รายงานว่า กองทัพจะได้รับอนุญาตให้ยิงโดรนตกได้ในกรณีที่จำกัด เช่น เมื่อโดรนก่อให้เกิดภัยคุกคามร้ายแรงต่อชีวิตมนุษย์ หรือโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ

สหภาพตำรวจเยอรมนีคัดค้านแผนของโดบรินดต์ โดยให้สัมภาษณ์สื่อว่า ความมั่นคงภายในประเทศควรเป็นหน้าที่ของตำรวจ ไม่ใช่กองทัพ

เยอรมนีซึ่งเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนหลักของยูเครนในการสู้รบกับรัสเซีย ยังลังเลที่จะยิงโดรนตกก่อนหน้านี้ เนื่องจากกังวลว่าซากโดรนอาจทำให้พลเรือนได้รับอันตราย

การทำสงครามด้วยโดรนถือเป็นหนึ่งในแกนหลักของความขัดแย้งในยูเครน และประเทศสมาชิกนาโตที่มีพรมแดนติดกับรัสเซีย กำลังพยายามสร้าง "กำแพงป้องกันโดรน" ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีและระบบทางทหารเพื่อตอบโต้ภัยคุกคามทางอากาศ