"ฟิทช์" หั่นแนวโน้มภาคธนาคารไทย "แย่ลง"

ฟิทช์ เรทติ้งส์ (Fitch Ratings) สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ออกรายงานระบุว่า ภาคการธนาคารของไทย เกาหลีใต้ ไต้หวัน ฮ่องกง และจีน กำลังเผชิญกับแนวโน้มที่ถดถอยลงในปีนี้ โดยได้รับผลกระทบจากสงครามการค้า ซึ่งจะทำให้การขยายตัวของสินเชื่อและผลกำไรอ่อนแอลง
ทั้งนี้ ฟิทช์ประกาศปรับลดแนวโน้มภาคธนาคารของไทย เกาหลีใต้ และไต้หวัน สู่ระดับ "deteriorating" หรือ แย่ลง จากเดิมที่ระดับ "neutral" หรือ เป็นกลาง เนื่องจากการขยายตัวของสินเชื่อ คุณภาพสินทรัพย์ และความสามารถในการทำกำไรของธนาคาร มีแนวโน้มอ่อนแอลงจากการขึ้นภาษีศุลกากรของสหรัฐ รวมทั้งจากการพึ่งพาการส่งออกและการขายสินค้าจำนวนมากไปยังตลาดสหรัฐ
สำหรับประเทศไทยนั้น ฟิทช์คาดการณ์ว่าภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอลงจะบั่นทอนคุณภาพสินทรัพย์และความสามารถในการทำกำไรของภาคธนาคารในปีนี้ ทำให้ฟิทช์ปรับแนวโน้มภาคธนาคารของไทยในปี 2568 จาก "เป็น กลาง" สู่ระดับ "แย่ลง"
อย่างไรก็ดี ฟิทช์คาดว่าแม้ภาวะเศรษฐกิจไทยจะย่ำแย่ลง แต่จะไม่ทรุดตัวลงอย่างหนัก และตลาดแรงงานยังคงมีเสถียรภาพ ซึ่งจะช่วยป้องกันไม่ให้ดัชนีชี้วัดหลักของภาคธนาคารทรุดตัวลงอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ การฟื้นตัวของผลกำไรของธนาคารตั้งแต่ช่วงหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ช่วยเพิ่มความสามารถในการรับมือกับความอ่อนแอในระยะสั้น
นอกจากนี้ ฟิทช์ระบุว่า มุมมองตลอดวัฏจักรต่อสภาวะแวดล้อมในการดำเนินงาน (OE) ของภาคธนาคารยังคงมีเสถียรภาพ แม้ฟิทช์มองว่าผลการดำเนินงานของภาคธนาคารจะถดถอยลงในปี 2568 ก็ตาม โดยสภาวะแวดล้อมในการดำเนินงานของภาคธนาคารของไทยได้รับแรงหนุนจากการปรับตัวดีขึ้นของค่า GDP ต่อหัว และการประเมินความเสี่ยงในการดำเนินงานของภาคธนาคาร
ขณะเดียวกัน ฟิทช์ปรับเพิ่มค่า OE (สภาวะแวดล้อมในการดำเนินงาน) เพื่อสะท้อนอันดับความน่าเชื่อถือของไทยซึ่งอยู่ที่ระดับ BBB+ แนวโน้มมีเสถียรภาพ และการคาดการณ์ของฟิทช์ที่ว่า ทางการไทยมีนโยบายสนับสนุนเศรษฐกิจมหภาคและเสถียรภาพของระบบการเงิน
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
