'พรรคสยามพัฒนา' เปลี่ยนหัวหน้าพรรคใหม่ ประกาศเปลี่ยนชื่อพรรคเป็น 'พลังไทรุ่งเรือง'

เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2565 พรรคสยามพัฒนา มีการประชุมใหญ่สามัญ ครั้ง 1 วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2565 ณ ที่ทำการพรรค เลขที่ 95/2 หมู่ 6 ต.สร่างโศก อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี โดยพ.ต.อ.วิศรุต เกิดหลำ หัวหน้าพรรคสยามพัฒนา ได้ลาออกให้คณะทำงานใหม่เข้าพัฒนาพรรคสยามพัฒนา กรรมการชุดใหม่พร้อมกันนี้ได้เปลี่ยนชื่อพรรค จาก พรรคสยามพัฒนา มาเป็นชื่อ “พรรคพลังไทรุ่งเรือง” พร้อมทั้งเปลี่ยนสัญลักษณ์ โลโก้พรรค และมีการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคคนใหม่ โดยมีผู้เสนอชื่อมา 2 คน ดร.ฮงค์ทัย แซ่ตัน และ นายทองหล่อ พลโคตร มีการลงคะแนน ลงหีบบัตร ผล ดร.ฮงค์ทัย แซ่ตัน ได้คะแนน 215 คะแนน ชนะ นายทองหล่อ พลโคตร ที่ได้เพียง 60 คะแนน มีบัตรเสีย 10 ใบ

ดร.ฮงค์ทัย แซ่ตัน หัวหน้าพรรคสยามพัฒนา คนใหม่ ขออนุญาตพร้อมกันนี้ได้เปลี่ยนชื่อพรรค จาก พรรคสยามพัฒนา มาเป็นชื่อ พรรค พลังไทรุ่งเรือง พร้อมทั้งเปลี่ยนสัญลักษณ์ โลโก้พรรค และ ได้แต่งตั้งกรรมการชุดใหม่ มี  ดร.ฮงค์ทัย แซ่ตัน หัวหน้าพรรค พลังไทรุ่งเรือง , นางคชาภรณ์ รุ่งหิรัญรักษ์ รองหัวหน้าพรรค , นาย ทองหล่อ พลโคตร เลขาธิการพรรค , นาย สุริยันต์ สุริยโชติกุล รองเลขาธิการพรรค ,นาย ณกรณ์ ภู่ทับทิม เหรัญญิก , นาย อาคม สิงห์ทอง นายทะเบียน , นายอำนาจ สอนทะมาตย์เดชา ผู้ช่วยนายทะเบียน และ นาย นิคม ชมภูหลง โฆษกพรรค

ดร.ฮงค์ทัย แซ่ตัน หัวหน้าพรรค พลังไทรุ่งเรือง กล่าว ขอบพระคุณทุกท่านที่ไว้ใจ ทั้งขอบคุณสื่อ ดร.ฮงค์ทัย ตนเองไม่เคยลงเล่นการมาก่อน แต่ครั้งนี้ลงการเมืองเพราะมีเจตนาที่อยากจะช่วยประชาชนรากหญ้าจริงๆ มาช่วยเกษตรกรทั้งที่ จ.สระบุรี และจังหวัดอื่นๆ ก็ขอขอบคุณที่ให้ความเชื่อมั่นในการมาเป็นหัวหน้าพรรค หวังอย่างยิ่งว่าจะมีโอกาสให้ช่วยทุกท่านในทุกเรื่องในการเลือกตั้งที่จะมาถึงนี้ในอนาคต

ด้าน นาย ทองหล่อ พลโคตร เลขาธิการพรรค กล่าว พรรคพลังไทรุ่งเรือง เดิมก็คือ พรรค สยามพัฒนา ก่อตั้งมาเมื่อ เดือนธันวาคม 2561 ช่วงก่อนหน้ายังมีมีการขับเคลื่อนทางการเมืองเป็นรูปธรรม อาจจะมีปัญหาอุปสรรคบางประการ แต่มาโอกาสครั้งนี้โดยการนำหัวหน้าพรรคคนใหม่ และคณะกรรมการบริหารพรรค คิดว่าถึงเวลาที่ทางพรรคจะได้มีการดำเนินการขับเคลื่อนแก้ปัญหาของประเทศ เพราะว่าขณะนี้ต้องยอมรับว่าประเทศเรามีวิกฤติอยู่หลายด้าน ที่สำคัญ ประการแรกวิกฤติทางด้านโควิด-19 ประการที่ 2 นำมาซึ่งวิกฤติทางด้านเศรษฐกิจ และที่ 3 ก็คือวิกฤติทางด้านการเมือง ทำให้เกิดปัญหาต่อพี่น้องประชาชนโดยเฉพาะคนที่ได้รับผลกระทบที่สุดคือ ประชาชนชาวรากหญ้า คนชั้นล่าง

ทางพรรคก็มีเจตนาโดยมีอุดมการณ์ที่มุ่งมั่นว่า เราจะมีการขับเคลื่อนอย่างจริงจังและเป็นรูปธรรม ไม่ใช่พรรคแจกแบงค์พัน ไม่ใช่พรรคอะไหล่ของพรรคได พรรคหนึ่ง เราพรรคพลังไทรุ่งเรืองต้องการที่จะมาเป็นกลไก ขับเคลื่อนการแก้ปัญหาในทุกๆ ด้านของประเทศไทยของเรา

มีความมั่นใจว่ามีการเลือกตั้งที่จะถึงนี้ทางพรรคก็ตั้งใจที่จะส่งผู้สมัคร เป็นไปได้ก็อาจจะส่งครบทั้ง 400 เขต แต่หากมีสถานการณ์บางสถานการณ์ ก็อาจจะได้พิจารณาตามความเหมาะสม ส่วนเรื่องสาขาพรรคนั้น พรรคสยามพัฒนาเดิมก็มีสาขาพรรคอยู่แล้วครบทั้ง 4 ภาค แต่อย่างไรก็ตาม เพื่อให้กลไกสาขาได้ขับเคลื่อน มีกระจายทั่วทุกภูมิภาค ก็อาจจะมีการตั้งสาขาพรรคเพิ่มขึ้นอีก

วันนี้ในนามเลขาธิการพรรค อยากจะบอกว่า พรรคของเราเป็นพรรคที่มีความมุ่งมั่นและตั้งใจที่จะเป็นกลไกแก้ปัญหาของประเทศ เราเห็นว่าหลายเรื่องเป็นปัญหาเร่งด่วน หลายอย่างที่จะต้องรีบดำเนินการ ที่สำคัญคนรากหญ้าอ่อนล้ามาก ทางเราก็พยายามวางหลักคิดอุดมการณ์ปรัชญาของเราให้ดำเนินการอยู่ภายใต้ของความเป็นประชาธิปไตย ถ้าเราไม่รื้อฟื้นไม่ดำเนินการภาคการเมืองให้อยู่ในรูปแบบของประชาธิปไตย เชื่อมั่นว่าจะเป็นปัญหาอุปสรรค และไม่สามารถที่จะแก้ไขให้เกิดความรักความสามัคคีของพี่น้องชาวไทยได้

ทางยุทธศาสตร์ของพรรค ก็มีคณะกรรมการบริหารพรรคในการขับเคลื่อน ในขณะนี้มองว่าปัญหาของประเทศมีหลากหลายปัญหา ที่สำคัญคือปัญหาหัวใจสำคัญคือปัญหาเศรษฐกิจ หรือปัญหาปากท้องของพี่น้องประชาชน ดังนั้นทางพรรคขณะนี้ก็ได้มีการรวบรวมกลุ่มบุคคลที่ความรู้ความสามารถความเข้าใจทาง

ด้านเศรษฐกิจที่จะมาขับเคลื่อนในกลุ่มของยุทธศาสตร์ของพรรค ขณะนี้ได้มีการทาบทามและมีการคุยไว้หลายท่านที่จะมาเป็นประธานยุทธศาสตร์และคณะกรรมการขับเคลื่อน หลังจากลงตัวในการแต่งตั้งก็จะทยอยเปิดตัวโครงสร้างยุทธศาสตร์ รวมทั้งนโยบาย ของพรรค หรือ หลักคิดของพรรคไทรุ่งเรือง คือ ทำให้ประชาชนคนไทยทั้งประเทศ มีงานทำ มีรายได้ หายจน หมดหนี้มีความสุขอย่างมั่นคง เป็นแนวทางของพรรคที่จะดำเนินการต่อ นาย ทองหล่อ พลโคตร เลขาธิการพรรค กล่าว พรรคพลังไทรุ่งเรือง กล่าว