Clubhouse แอปฯที่ดังทั่วโลกเพียงข้ามคืน ต้องระวังใช้ผิดเสี่ยงเจอโทษ!

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในยุคสมัยนี้สื่อโซเชียลมีเดียเริ่มเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของเรามายิ่งขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา หลายๆ คนคงได้ยินชื่อของ Clubhouse แอปพลิเคชันแชทด้วยเสียง ที่เรียกว่ามาแรงสุดๆ ฉีกกฎรูปแบบการแชทแบบเดิมๆ ไปเลยก็ว่าได้ เพราะในแอปพลิชันดังกล่าวนั้นจะได้มีการพูดคุยแสดงความคิดเห็นในหัวข้อต่างๆ ได้อย่างมีอิสระ และมีความเป็นส่วนตัว

รู้จัก แอปพลิเคชั่น Clubhouse 

ก่อนอื่นเรามาเริ่มรู้จัก แอปพลิเคชั่น Clubhouse กันก่อนว่าทำไมตอนนี้ใครๆ ก็ฮิตใช้แอปพลิเคชันนี้กัน Clubhouse แอปพลิเคชันสนทนาผ่านเสียง ให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกเข้าห้องสนทนาที่ตัวเองมีความสนใจ โดยแต่ละห้องจะรองรับผู้ใช้งานสูงสุด 5,000 คน ประกอบไปด้วยผู้ดำเนินรายการ คอยดูแลและควบคุมบทสนทนา ผู้พูดซึ่งอาจมีมากกว่า 1 คนในหนึ่งห้องสนทนา ส่วนผู้ฟังสามารถกดปุ่มยกมือเพื่อขอแสดงความคิดเห็นในระหว่างการสนทนาได้ 

การเข้าใช้งานจะทำผ่านระบบ Invite Only หรือการเชิญเข้า เมื่อผู้ใช้งานดาวน์โหลดแอปพลิเคชันและลงทะเบียนเสร็จเรียบร้อยแล้ว จะยังใช้งานไม่ได้ ต้องรอให้ผู้ใช้งานคนอื่นๆ กดอนุมัติให้ก่อน นอกจากนี้ยังมีการเชิญแบบ SMS ซึ่ง 1 บัญชีจะสามารถเชิญสมาชิกใหม่ได้เพียง 2 ครั้งเท่านั้น

แต่เดี๋ยวก่อน ณ ปัจจุบัน Clubhouse รองรับการใช้งานผ่านระบบ iOS เพียงเท่านั้น ผู้ใช้สมาร์ทโฟนระบบ Android เบื้องต้นยังไม่สามารถใช้งานได้

ทางด้านในประเทศไทย ล่าสุดตอนนี้เหล่าบรรดานักการเมือง คนดังในแวดวงต่างๆ คนบันเทิง ศิลปิน นักแสดง ต่างก็เริ่มหันมาสมัครและเปิดบัญชีจำนวนมากแล้ว แน่นอนว่า Clubhouse จะเป็นช่องทางหนึ่งในการสื่อสารกับประชาชนและแฟนคลับของตัวเอง

ใช้ Clubhouse อย่างไรให้ปลอดภัย

ด้วยความที่การเข้าไปใช้งานแอปพลิเคชัน Clubhouse มีลักษณะการใช้งานที่ผู้ใช้จะตั้งกลุ่มพูดคุยแสดงความคิดเห็นในเรื่องต่างๆ เป็นรูปแบบการใช้เสียง ไม่มีภาพ อาจทำให้แสดงความคิดเห็นและให้ข้อมูลเข้าข่ายบิดเบือน สร้างความเสียหาย และอาจนำไปสู่การกระทำความผิดกฎหมายได้นั้น

กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ได้ออกมาระบุว่ารัฐได้ติดตามการใช้งานของแอพพลิเคชั่น Clubhouse ตั้งแต่แรกมีผู้เริ่มใช้งาน แม้ว่าการใช้งานเป็นลักษณะกลุ่มปิด ต้องมีเพื่อนเชิญเข้าร่วมกลุ่มก็ตาม แต่การใช้โซเชียลมีเดียทุกรูปแบบ หากใช้ให้เกิดประโยชน์ก็จะส่งผลดีต่อการใช้งาน เกิดผลดีต่อสังคม

หากไม่ระมัดระวังใช้ในทางที่ผิด เกิดการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลอื่น สร้างความเสียหาย ถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย ทั้งพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 และแก้ไขเพิ่มเติม รวมถึงกฎหมายอื่นๆ เจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้ที่เกี่ยวข้องพร้อมดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายทันที 

ใช้ในทางที่ผิดเสี่ยงมีความผิดตามกฎหมาย

ขณะเดียวกันพ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และโฆษกกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ได้กล่าวถึงกรณีแอปพลิเคชัน Clubhouse การตั้งกลุ่มสนทนา พูดคุยแสดงความคิดเห็นในหัวข้อต่างๆ ผ่านเสียง ได้อย่างมีอิสระ และมีความเป็นส่วนตัว อาจทำให้ผู้ใช้บางคนพูดแสดงความเห็นในลักษณะที่อาจจะพาดพิงหรือละเมิดสิทธิของผู้อื่นจนได้รับความเสียหาย 

อาจมีการกล่าวข้อมูลที่บิดเบือนจนทำให้ผู้อื่นเข้าใจผิดหรือเกิดความสับสนวุ่นวายได้ และอาจมีมิจฉาชีพปลอม Account เป็นบุคคลอื่นและไปหลอกลวงเอาทรัพย์สินจนผู้อื่นได้รับความเสียหาย

ทางกฎหมาย การกระทำในลักษณะของกล่าวพาดพิงหรือละเมิดผู้อื่นนั้นอาจเข้าข่ายความผิดฐานหมิ่นประมาท มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ส่วนการกล่าวข้อมูลที่บิดเบือนอาจจะเข้าข่ายความผิดฐานนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ฯ ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปีหรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท และการปลอม Account หรือวิธีอื่นๆ เพื่อการหลอกลวงเอาทรัพย์สินของผู้อื่น อาจจะเข้าข่ายความผิดฐานฉ้อโกง ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หรือกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

สำหรับแนวทางการหลีกเลี่ยงและป้องกันการถูกหลอกลวงในรูปแบบที่อาจจะเกิดขึ้นได้บนแอปพลิเคชั่น Clubhouse ควรคำนึงถึงสิทธิของผู้อื่นเสมอก่อนจะพูดอะไรออกไป โดยให้ใช้วิจารณญาณในการรับฟังข้อมูลต่างๆจากการสนทนาและไม่ควรเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวให้ผู้อื่นทราบ