รีเซต

นักวิจัยเปิดผลการทดลองสปอร์ของมอสรอดชีวิต 9 เดือนนอกสถานีอวกาศนานาชาติ และกลับมาเติบโตได้บนโลก

นักวิจัยเปิดผลการทดลองสปอร์ของมอสรอดชีวิต 9 เดือนนอกสถานีอวกาศนานาชาติ และกลับมาเติบโตได้บนโลก
TNN ช่อง16
23 พฤศจิกายน 2568 ( 09:03 )

22 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ทีมนักวิจัยจากประเทศญี่ปุ่นที่ทำงานร่วมกับนาซาบนสถานีอวกาศนานาชาติ ISS เปิดผลการศึกษาใหม่ที่สร้างความประหลาดใจให้กับวงการวิทยาศาสตร์ หลังค้นพบว่าสปอร์ของมอส (Moss spores) ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตที่ถือกำเนิดบนโลก สามารถทนทานต่อสภาพแวดล้อมอันโหดร้ายของอวกาศภายนอกได้นานถึง 9 เดือน และยังคงสามารถงอกและเติบโตได้ตามปกติเมื่อกลับคืนสู่โลก การค้นพบนี้ชี้ให้เห็นถึงความทนทานอันน่าอัศจรรย์ของสิ่งมีชีวิตโบราณชนิดนี้

คณะนักวิจัยนำโดยศาสตราจารย์ โทโมมิจิ ฟูจิตะ (Professor Tomomichi Fujita) มหาวิทยาลัยฮอกไกโด ได้ทำการทดลองโดยการส่งสปอร์ของมอสที่รู้จักกันในชื่อ "Spreading earthmoss" ขึ้นไปติดตั้งภายนอกสถานีอวกาศนานาชาติ (ISS) เมื่อเดือนมีนาคม ปี 2565 โดยใช้ยานขนส่งสินค้า Cygnus ลำที่ 17 เพื่อศึกษาความสามารถในการอยู่รอดในสภาพสุญญากาศและรังสีคอสมิก ซึ่งเป็นสภาวะที่สิ่งมีชีวิตส่วนใหญ่ รวมถึงมนุษย์ ไม่อาจอยู่รอดได้แม้ในช่วงเวลาสั้นๆ

รายละเอียดของการทดลองเผยให้เห็นถึงผลลัพธ์ที่เหนือความคาดหมาย ศาสตราจารย์ฟูจิตะกล่าวว่า พวกเขาคาดการณ์ว่าอัตราการรอดชีวิตของสปอร์จะใกล้เคียงศูนย์ แต่ผลลัพธ์ที่ได้กลับตรงกันข้าม โดยสปอโรไฟต์ (Sporophytes) ซึ่งเป็นโครงสร้างสืบพันธุ์ที่สร้างสปอร์ของมอสถูกนำไปตรึงไว้ภายนอกสถานีอวกาศเป็นเวลา 283 วัน หรือกว่า 9 เดือน ก่อนจะถูกนำกลับมายังโลกด้วยยานอวกาศ Dragon ในเดือนมกราคม ปี 2566 

โดยทีมงานนักวิจัยได้ตรวจสอบอย่างละเอียดและพบว่า สปอโรไฟต์มากกว่าร้อยละ 80 ยังคงมีชีวิตอยู่ และที่น่าทึ่งคือ ร้อยละ 89 ของสปอโรไฟต์ที่รอดชีวิตสามารถงอกและเติบโตในห้องปฏิบัติการได้ ถึงแม้การเดินทางในอวกาศจะทำให้เม็ดสีคลอโรฟิลล์ เอ (Chlorophyll a) ซึ่งใช้ในการสังเคราะห์แสงลดลงไปร้อยละ 20 แต่สปอร์ก็ยังคงมีสุขภาพดีและสามารถฟื้นตัวได้ 

ศาสตราจารย์ฟูจิตะยอมรับว่าพวกเขาประหลาดใจอย่างแท้จริงกับความทนทานที่ไม่ธรรมดาของเซลล์พืชขนาดเล็กเหล่านี้ โดยรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) ถูกระบุว่าเป็นรังสีที่ทำอันตรายต่อเซลล์ของสิ่งมีชีวิตบนโลก แต่สปอโรไฟต์ก็สามารถรับมือได้ดีกว่ามอสวัยเยาว์

นอกจากนี้ ทีมวิจัยยังได้พัฒนาแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ ซึ่งชี้ให้เห็นถึงศักยภาพในการอยู่รอดที่ยาวนานอย่างน่าเหลือเชื่อ โดยสปอโรไฟต์อาจสามารถอยู่รอดในอวกาศได้นานถึง 5,600 วัน หรือประมาณ 15 ปี

สำหรับมอสนับเป็นพืชที่เก่าแก่ที่สุดชนิดหนึ่งบนโลก โดยมีวิวัฒนาการมานานกว่า 400 ล้านปี และเป็นที่ทราบกันดีว่ามีความทนทานสูง สามารถเติบโตได้ในสภาพแวดล้อมที่รุนแรงหลากหลายรูปแบบ การวิจัยใหม่นี้จึงอาจมีนัยสำคัญอย่างยิ่งต่อความพยายามในการสำรวจอวกาศ 

งานวิจัยนี้สั่นคลอนทฤษฎีกำเนิดสิ่งมีชีวิตบนโลก เนื่องจากผลการทดลองนี้ได้ให้การสนับสนุนที่ชัดเจนต่อสมมติฐานแพนสเปอร์เมีย (Panspermia) ซึ่งเชื่อว่าสิ่งมีชีวิตบนโลกไม่ได้กำเนิดขึ้นที่นี่ แต่ถูกนำมาจากนอกโลกในรูปแบบของสปอร์หรือจุลินทรีย์ที่เดินทางข้ามอวกาศ การที่สปอร์ของมอสสามารถรอดชีวิตได้นานเกือบหนึ่งปีในสภาวะสุดขั้วภายนอก ISS รวมถึงศักยภาพในการอยู่รอดที่แบบจำลองคำนวณได้ถึง 15 ปี แสดงให้เห็นว่ามีความเป็นไปได้ทางกายภาพที่สปอร์ของสิ่งมีชีวิตอาจถูกขับออกจากดาวดวงหนึ่งแล้วอยู่รอดในการเดินทางผ่านอวกาศอันยาวนาน ก่อนที่จะมาถึงและเริ่มต้นการเติบโตบนดาวเคราะห์ดวงใหม่ เช่น โลกของเรานั่นเอง

โดยศาสตราจารย์ฟูจิตะแสดงความหวังว่า งานวิจัยมอสของพวกเขาจะทำหน้าที่เป็นจุดเริ่มต้น ในการเปิดพรมแดนใหม่ไปสู่การสร้างระบบนิเวศในสภาพแวดล้อมนอกโลก เช่น ดวงจันทร์และดาวอังคาร การศึกษานี้ได้รับการตีพิมพ์เผยแพร่ในวารสาร iScience เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 20 พฤศจิกายนที่ผ่านมา

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง