รีเซต

ตึงเครียดหนัก! ยูเครนขอหารือฉุกเฉินรัสเซียใน 48 ชม. มะกันชี้ทหารหมีขาวกว่า 1.3 แสนประชิดชายแดน

ตึงเครียดหนัก! ยูเครนขอหารือฉุกเฉินรัสเซียใน 48 ชม. มะกันชี้ทหารหมีขาวกว่า 1.3 แสนประชิดชายแดน
มติชน
14 กุมภาพันธ์ 2565 ( 08:36 )
95

ท่ามกลางความตึงเครียดเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของการรุกรานยูเครนของรัสเซีย ล่าสุดเจ้าหน้าที่สหรัฐอเมริการะบุว่า มีกองกำลังรัสเซียมากกว่า 1.3 แสนคนที่ตั้งมั่นอยู่ใกล้กับพรมแดนยูเครน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากกว่า 1 แสนคนที่สหรัฐระบุไว้เมื่อหลายสัปดาห์ก่อน

 

ข้อมูลของหน่วยข่าวกรองสหรัฐและยุโรปในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาได้จุดชนวนให้เกิดความกังวลว่ารัสเซียอาจพยายามกำหนดเป้าหมายการฝึกทหารของยูเครนตามกำหนดการที่มีในพื้นที่ฝั่งตะวันออกของยูเครนตะวันออก เพื่อเริ่มปฏิบัติการโจมตีก่อนที่จะกล่าวโทษว่าเป็นฝีมือของกลุ่มตรงข้าม

 

เจ้าหน้าที่ข่าวกรองสหรัฐเชื่อว่าการกำหนดเป้าหมายการฝึกทหารเป็นเพียงหนึ่งในหลายๆ ทางเลือกที่รัสเซียพิจารณาแล้วว่ามีความเป็นไปได้สำหรับปฏิบัติการที่จะสร้างข่าวเท็จดังกล่าว แต่ทำเนียบขาวย้ำว่าพวกเขาไม่ทราบแน่ชัดว่าประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ได้ทำการตัดสินใจขั้นสุดท้ายที่จะรุกเข้าไปในยูเครนแล้วหรือไม่

 

ขณะนี้มีกองกำลังของรัสเซียรวมกำลังกันทางทิศเหนือ ทิศตะวันออก และทิศใต้ของยูเครน โดยรัสเซียยืนยันว่ากองกำลังทั้งหมดในพื้นที่เป็นเพียงปฏิบัติการซ้อมรบทางทหารเท่านั้น

 

ด้านกระทรวงต่างประเทศยูเครนระบุว่า กำลังประสานเพื่อขอจัดการประชุมร่วมกับรัสเซียและสมาชิกขององค์กรความมั่นคงในยุโรป เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นตามแนวชายแดนยูเครน

 

รัฐมนตรีต่างประเทศยูเครนระบุว่ารัสเซียเพิกเฉยต่อการขอคำอธิบายเกี่ยวกับการระดมกำลังทหารในพื้นที่ตามแนวพรมแดนที่ติดกับยูเครน โดยเขาระบุว่าขั้นตอนต่อไปคือการขอให้มีการประชุมร่วมกันภายใน 48 ชั่วโมงข้างหน้าเพื่อความโปร่งใสเกี่ยวกับแผนการของรัสเซีย

 

ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ได้โทรศัพท์หารือกับประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐราวหนึ่งชั่วโมง โดยเขายืนยันว่าประเทศยูเครนมีการป้องกันที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้จากความหวาดกลัวต่อการโจมตีโดยรัสเซียที่มีกองทัพซึ่งแข็งแกร่งกว่ามาก พร้อมเรียกร้องให้มีการระงับความตื่นตระหนกที่อาจบ่อนทำลายเศรษฐกิจของยูเครน และว่าผู้นำพลเรือนและกองทัพกำลังเตรียมพร้อมสำหรับการป้องกัน

 

ขณะที่ทำเนียบขาวระบุหลังจากนั้นว่าผู้นำทั้งสองเห็นพ้องที่จะผลักดันทั้งการป้องปรามและการดำเนินมาตรการทางการทูตไปพร้อมๆ กัน

 

ล่าสุดหลายสายการบินได้ยกเลิกเที่ยวบินที่เดินทางมายังกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครนแล้ว ขณะที่บางสายการบินก็เปลี่ยนเส้นทางการบินไปลงยังประเทศข้างเคียงแทน โดยหน่วยงานความปลอดภัยด้านการเดินอากาศของยูเครนออกแถลงการณ์ระบุว่า น่านฟ้าเหนือทะเลดำกลายเป็นพื้นที่ที่มีความเป็นไปได้ว่าจะเกิดอันตราย พร้อมแนะนำให้หลีกเลี่ยงการบินเหนือพื้นที่ดังกล่าวในระหว่างวันที่ 14-19 กุมภาพันธ์นี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง