วิญญาณสาวกระบะทับร่างเข้าฝันแฟนหนุ่มด้วยสีหน้ากังวล วอนคนชนมอบตัว
ที่จ.ชลบุรี วิญญาณสาวกระบะทับร่างเข้าฝันแฟนหนุ่มด้วยสีหน้ากังวล บอกตอนรถชมล้มยังรู้สึกตัว แต่เมื่อถูกรถทับนั้นภาพก็มืดแล้วก็หายไปเลย วอนคนชนเข้ามอบตัว
จากกรณีเมื่อเวลาประมาณ 02.00 ของวันที่ 5 สิงหาคม 2563 นายพงษ์ศิริ มีสมวงษ์ อายุ 30 ปี ได้นำภาพวงจรปิด อุบัติเหตุรถจักรยานยนต์เสียหลักล้ม แล้วมีรถยนต์กระบะมา วิ่งด้วยความเร็วมาทับซ้ำจน น.ส.จิราภรณ์ การปลูก อายุ 23 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส ท่ามกลางสายฝนอยู่กลางถนน บริเวณแยกหนวดปลาหมึก หน้าสถานีน้ำมัน ฝั่งขาออกตลาดสัตหีบ ม.1 ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ก่อนจะทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตในเวลาต่อมาที่โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ ส่วนผู้ขับขี่รถยนต์กระบะกลับไม่เหลียวแล ขับหนีไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น สร้างความสะเทือนใจให้กับแฟนหนุ่มและครอบครัวเป็นอย่างมาก
ล่าสุดเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2563 นายพงษ์ศิริ มีสมวงษ์ อายุ 30 ปี แฟนหนุ่มของผู้เสียชีวิต พร้อมครอบครัวได้นำอัฐิ น.ส.จิราภรณ์ การปลูก แฟนสาวไปลอยอังคาร ทำพิธีศาสนา บริเวณทะเลกลางอ่าวสัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี โดยมีญาติทั้งฝ่ายหญิง และฝ่ายชายร่วมพิธี จากนั้นได้เดินทางไปตามความคืบหน้าที่ สภ สัตหีบ จ.ชลบุรี ในการติดตามตัวคนขับรถผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี ซึ่งจากการสอบถามเบื้องต้นกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่าหลังจากรับแจ้งแล้วได้ไล่กล้องวงจรปิดแต่ก็พบว่าระหว่างเส้นทางที่หลบหนีนั้นกล้องวงจรปิดตามเส้นทางนั้นพบว่าชำรุดไม่มีภาพ แต่ก็พยายามไล่ติดตามภาพของรถที่ก่อเหตุอยู่ในขณะนี้
นายพงษ์ศิริ มีสมวงษ์ อายุ 30 ปี แฟนหนุ่มผู้เสียชีวิตเล่าว่า ก่อนที่ น.ส.จิราภรณ์ การปลูก อายุ 23 ปี จะเสียชีวิตนั้นก็ป่วยมา 2 วัน และเมื่อวันที่เสียชีวิตก่อนออกไปทำงานนั้น น.ส.จิราภรณ์ มีสีหน้าหมองคล้ำก่อนบอกว่าจะออกไปทำงานและเมื่อเลิกงานแล้วก็ได้ส่งข้อความมาบอกว่า จะกลับบ้านแล้ว ก่อนจะหายไปจนมาทราบว่าถูกรถชน นอกจากนี้แล้วในช่วงงานศพนั้น น.ส.จิราภรณ์ ได้มาเข้าฝันบอกกับตนว่า ตอนที่รถล้มทีแรกชนนั้นยังรู้สึกตัวแต่เมื่อถูกรถทับนั้นภาพก็มืดแล้วก็หายไปเลย ซึ่งตนก็จุดธูปบอกไม่ต้องเป็นห่วงทางนี้ เพราะเดียวจะจัดการทุกอย่างให้เอง
นายพงษ์ศิริ กล่าวเพิ่มเติมว่า ทางรูปคดีนั้นทราบว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ไล่ภาพกล้องวงจรปิด จนพบรถก่อเหตุเป็นรถกระบะ ไม่ทราบแผ่นป้ายทะเบียน โดยตอนเกิดเหตุ คนที่ขับรถมาทับร่างผู้เสียชีวิตนั่นคนก่อเหตุยังย้อนกลับมาจอดดูแล้วก็ขับหลบหนีไป หลังจากนั้นตนจึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมมอบหลักฐาน ซึ่งเบื้องต้นจากที่ตำรวจไล่กล้องวงจรปิดตามเส้นทางก็พบว่าไม่สามารถใช้งานได้ ซึ่งคงต้องให้เวลาเจ้าหน้าที่ตำรวจตามหารถคนก่อเหตุ พร้อมวอนขอให้ทางคนก่อเหตุได้ลงมารับผิดชอบ และมาขอขมาผู้เสียชีวิตและครอบครัวผู้ตายกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น