รีเซต

นิพนธ์แจง ส.ส.ยัน กฟภ.พร้อมขยายเขตให้บริการไฟฟ้าสู่ครัวเรือน พ่วงกระทู้ขุดลอกสะพานข้ามแม่น้ำสงคราม

นิพนธ์แจง ส.ส.ยัน กฟภ.พร้อมขยายเขตให้บริการไฟฟ้าสู่ครัวเรือน พ่วงกระทู้ขุดลอกสะพานข้ามแม่น้ำสงคราม
มติชน
11 พฤศจิกายน 2564 ( 17:55 )
44
นิพนธ์แจง ส.ส.ยัน กฟภ.พร้อมขยายเขตให้บริการไฟฟ้าสู่ครัวเรือน พ่วงกระทู้ขุดลอกสะพานข้ามแม่น้ำสงคราม

ข่าววันนี้ 11 พฤศจิกายน นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย ได้รับมอบหมายจาก รมว.มหาดไทย ให้ตอบกระทู้ถามแยกเฉพาะของ นางอนุรักษ์ บุญศล ส.ส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย ที่ถามว่ากระทรวงมหาดไทยมีนโยบายที่จะขยายเขตไฟฟ้าภูมิภาคสู่ครัวเรือนใหม่และขยายเขตไฟฟ้าเพื่อการเกษตรหรือไม่

 

นายนิพนธ์กล่าวชี้แจงว่า การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ดำเนินการสนับสนุนนโยบายรัฐบาลในการจัดหากระแสไฟฟ้าบริการให้กับประชาชนที่ยังไม่มีไฟฟ้าใช้เพื่อการประกอบอาชีพ และให้ความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของประชาชน โดยรัฐบาลสนับสนุนงบประมาณให้ กฟภ.ตั้งแต่ปี พ.ศ.2551-ปัจจุบันทั้งสิ้น 4,685 ล้านบาท มีเป้าหมายเพื่อให้พี่น้องเกษตรกรจะได้มีไฟฟ้าใช้เพื่อความสะดวกต่างๆ จำนวน 87,100 ราย ดำเนินการจ่ายกระแสไฟฟ้าให้พี่น้องเกษตรกรไปแล้วทั้งสิ้น 129,580 ราย ส่วนการสนับสนุนการขยายเขตไฟฟ้าครัวเรือนนั้น กฟภ.จะพิจารณาจัดสรรเป็นรายๆ ไป โดยจะพิจารณาจากประชาชนที่ด้อยโอกาสเป็นลำดับแรก โดยผู้ที่ขอใช้ไฟจะต้องมีที่อยู่ตามทะเบียนบ้านแบบถาวร หรือชั่วคราว และพื้นที่นั้นๆ ต้องไม่ใช่โครงการบ้านจัดสรร หรือพื้นที่หวงห้ามของราชการ มีเส้นทางคมนาคมที่สามารถเข้าไปได้อย่างสะดวก ยืนยันว่ากระทรวงมหาดไทยพร้อมให้บริการ

 

ตามด้วยการตอบกระทู้แยกเฉพาะของ นางอนุรักษ์ บุญศล ส.ส. สกลนคร พรรคเพื่อไทย กรณีการก่อสร้างเชื่อมต่อสะพานเก่าให้ยาวขึ้นในถนนบ้านนาดินจี่ ต.คำสะอาด อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร ไปบ้านโคกคำไหล ต.อ้อมกอ อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี ที่มีปัญหาช่วงฤดูน้ำหลากมีมวลน้ำมาก แต่น้ำไหลผ่านสะพานได้น้อย เพราะเป็นคอขวดว่ากระทรวงมหาดไทยจะต่อขยายสะพานออกไปทางบ้านโคกคำไหล จ.อุดรธานี หรือไม่

 

นายนิพนธ์ชี้แจงว่า สะพานข้ามแม่น้ำสงครามตั้งอยู่บนพื้นที่คาบเกี่ยวกัน 2 จังหวัด คือสกลนครและอุดรธานี เดิมสะพานนี้อยู่ในความดูแลรับผิดชอบของกรมโยธาธิการ กระทรวงมหาดไทย แต่ปัจจุบันได้โอนมาอยู่ในความดูแลรับผิดชอบของกรมทางหลวงชนบท กระทรวงคมนาคมแล้ว และจากการตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่าสภาพของแม่น้ำสงครามในบริเวณพื้นที่ดังกล่าวเป็นแนวลำน้ำธรรมชาติ แบ่งเขตการปกครองของ อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร และ อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี พบว่าเป็นลำน้ำขนาดเล็ก โดยมีต้นน้ำมาจาก อ.สอยดาว จ.สกลนคร และไหลลงแม่น้ำโขงที่ อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม มีความยาว 420 กิโลเมตร ทำให้ความสามารถของการรองรับน้ำของแม่น้ำสงครามบริเวณด้านเหนือและด้านท้ายสะพานมีน้อยกว่าความสามารถรองรับการไหลของน้ำในแม่น้ำสงครามช่วงฤดูฝน

 

นายนิพนธ์กล่าวว่า แนวทางการบริหารจัดการน้ำในแม่น้ำสงครามนี้ ควรให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษาและทำการขุดลอกขยายแม่น้ำสงครามให้รองรับการไหลหลากของน้ำให้มากขึ้น จะเป็นการแก้ไขปัญหาการท่วมขังและลดความเสียหายของเกษตรกรในพื้นที่ โดยกระทรวงมหาดไทยจะได้ประสานกรมเจ้าท่า กระทรวงคมนาคมและกรมชลประทาน กระทรวงเกษตรฯให้ศึกษาและทำการขุดลอกขยายแม่น้ำสงครามเพื่อให้รองรับการไหลหลากของน้ำให้มากขึ้นกว่าเดิมต่อไป

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง