JWDลั่นนิวไฮทุกไตรมาส ดีลพาร์ตเนอร์ต่อยอดโต
ทันหุ้น – JWD วางเป้ารายได้ 5 ปี แตะ 1 หมื่นล้านบาท จากปีนี้คาดรายได้โตเกินเป้าที่ตั้งไว้ 5 พันล้านบาท ทำนิวไฮ มั่นใจทุกธุรกิจเติบโตต่อเนื่อง รับคลายล็อกดาวน์ แย้มดีลพาร์ตเนอร์ต่อยอดคาดชัดเจนปีหน้า ขณะที่ไตรมาส 4/2564 รายได้จะดีที่สุดในรอบปีนี้ เล็งขยายคลังสินค้าร่วมกับ ORI แตะ 1 ล้านตารางเมตรใน 5 ปี พร้อมนำเข้ากองรีท มูลค่าประมาณ 1.2 หมื่นล้านบาท
นายชวนินทร์ บัณฑิตกฤษดา ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JWD เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจในไตรมาส 4/2564 คาดว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่รัฐบาลเดินหน้าเปิดประเทศและผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์เพิ่มขึ้น เชื่อว่าจะส่งผลดีต่อภาพรวมเศรษฐกิจทยอยฟื้นตัว ทำให้ภาคธุรกิจต่างๆ มีความต้องการใช้บริการขนส่งและจัดเก็บสินค้าเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับดีมานด์จากผู้บริโภค
ดังนั้น จึงคาดว่าปี 2564 จะสามารถทำรายได้รวมสูงกว่าเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้ 5,000 ล้านบาท หลังจากผลการดำเนินงาน 9เดือนแรกที่ผ่านมามีอัตราเติบโตเป็นที่น่าพอใจ โดยคาดว่าผลการดำเนินงานไตรมาสสุดท้ายจะดีที่สุดในรอบปีนี้
*ดีลพันธมิตรต่อยอดโต
ด้านสถานการณ์ราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลกระทบเล็กน้อยกับบริษัท เนื่องจากปัจจุบันรายได้ส่วนใหญ่ของบริษัทมาจากธุรกิจคลังสินค้าและบริการที่เกี่ยวเนื่อง ส่วนการให้บริการขนส่งสินค้ามีสัดส่วนประมาณ 15% ของรายได้รวม ซึ่งบริษัทได้ทำข้อตกลงกับลูกค้าในการขอปรับขึ้นค่าบริการขนส่ง หากราคาน้ำมันเพิ่มขึ้นถึงจุดที่ตกลงกันไว้ รวมถึงการว่าจ้างผู้ให้บริการขนส่งสินค้าภายนอกที่เป็นพันธมิตรในรูปแบบเอาต์ซอร์ส ดังนั้นบริษัทจึงไม่ได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่ผันผวนโดยตรงทั้งหมด
อย่างไรก็ตามบริษัทอยู่ระหว่างเจรจากับพาร์ตเนอร์รายใหม่หลายราย เพื่อต่อยอดธุรกิจให้ครอบคลุม คาดว่าจะมีความชัดเจนในปีหน้า ซึ่งจะช่วยเสริมให้ผลประกอบการของบริษัทเติบโตก้าวกระโดด
*เก็บเกี่ยวการลงทุน
ดร.เอกพงษ์ ตั้งศรีสงวน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน JWD เปิดเผยว่า ในไตรมาส 4/2564 จะเริ่มรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนในบริษัท อีสเทิร์นซี แหลมฉบัง เทอร์มินัล จำกัด (EASTERN SEA LAEM CHABANG TERMINAL หรือ ESCO) ผู้ประกอบการท่าเรือคอนเทนเนอร์รายใหญ่ในท่าเรือน้ำลึกแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี และผู้ให้บริการสถานีบรรจุและขนถ่ายสินค้าตู้คอนเทนเนอร์ ลาดกระบัง (Inland Container Depot หรือ ICD) และจะเริ่มรับรู้รายได้จากการให้บริการคลังสินค้า Fulfillment ในย่านมีนบุรี ที่เป็นความร่วมมือทางธุรกิจ MyCloudFulfillment บริษัทสตาร์ทอัพชั้นนำที่ผู้ให้บริการคลังสินค้าออนไลน์อันดับ 1 ให้บริการจัดเก็บ แพ็กสินค้าและจัดส่งครบในที่เดียว เพื่อรองรับผู้ค้าขายสินค้าทางออนไลน์
ส่วนธุรกิจเดิมคาดว่าจะมีอัตราเติบโตอย่างต่อเนื่อง เช่น ธุรกิจรับฝากและบริหารยานยนต์ที่จะได้รับปัจจัยบวกจากโรงงานผลิตรถยนต์ชั้นนำที่กลับมาเดินเครื่องผลิตรถยนต์ตามปกติ, ธุรกิจรับฝากและบริหารสินค้าอันตราย ที่คาดว่าจะมีดีมานด์จัดเก็บสินค้าอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากปัจจุบันยังคงมีภาวะตู้คอนเทนเนอร์ขนส่งสินค้าระหว่างประเทศไม่เพียงพอต่อความต้องการ, ธุรกิจให้บริการอาหารในประเทศไต้หวัน ที่จะเข้าสู่ช่วงไฮซีซันซึ่งจะส่งผลให้มีความต้องการใช้บริการด้านโลจิสติกส์และบริการที่เกี่ยวเนื่อง เป็นต้น
*ลุยคลังสินค้า 1 ล้านตร.ม.
สำหรับการร่วมมือกับบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI จัดตั้ง บริษัท แอลฟา อินดัสเทรียล โซลูชั่น จำกัด ให้บริการคลังสินค้าให้เช่า ตั้งเป้า 5 ปี หรือปี 2567 มีพื้นที่เช่าแตะ 1 ล้านตารางเมตร และนำเข้ากองทรัสเพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) ซึ่งคาดว่าจะมีมูลค่ากว่า 1.2 ล้านบาท โดยตั้งงบลงทุนไว้ที่ 2.3 พันล้านบาท เพื่อขยายคลังสินค้า