รีเซต

IHLมั่นใจผลงานปีนี้โต10% การเมืองไม่ชัดกดดันธุรกิจ

IHLมั่นใจผลงานปีนี้โต10% การเมืองไม่ชัดกดดันธุรกิจ
ทันหุ้น
13 กรกฎาคม 2566 ( 19:09 )
44

IHL บิ๊กบอส “วศิน ดำรงสกุลวงษ์” เผยว่าครึ่งปีหลังยังคงต้องจับความชัดเจนทางการเมือง อาจจะกระทบต่อธุรกิจยานยนต์ในประเทศ ด้านธุรกิจอื่นมีแววเติบโตได้ดีขึ้น มั่นใจผลงานปีนี้ยังโตกว่าปีก่อน 5-10% เน้นบริหารต้นทุน เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดี

 

นายวศิน ดำรงสกุลวงษ์ กรรมการ และผู้จัดการทั่วไป บริษัท อินเตอร์ไฮด์ จำกัด (มหาชน) หรือ เปิดเผยว่า ทิศทางผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลัง 2566 บริษัทยังอยู่ระหว่างรอความชัดเจนทางการเมือง โดยหากการเมืองในประเทศไม่สงบก็อาจจะกระทบต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ของประเทศ และหากบริษัทขายรถยนต์ขนาดใหญ่ชะลอการผลิตออกไปเพื่อรอดูสถานการณ์ แม้จะไม่ได้ยกเลิกออเดอร์แต่ก็อาจจะกระทบต่อการผลิต และรายได้ของบริษัทเช่นกัน เนื่องจากกลุ่มธุรกิจผลิต และจัดจำหน่ายหนังสำหรับเบาะรถยนต์เป็นสัดส่วนรายได้หลักของบริษัท

 

สำหรับธุรกิจอื่นๆ ปัจจุบันมีการเติบโตได้ค่อนข้างดีไม่ว่าจะเป็น ธุรกิจฟอกหนังรองเท้า เพราะว่าบริษัทได้รับคำสั่งซื้อเข้ามาเพิ่มขึ้นจากลูกค้าเดิม และลูกค้าใหม่ หลังจากนี้คาดว่าจะมีการเจรจาธุรกิจกับลูกค้าอีกหลายราย โดยในช่วงที่เหลือของปีน่าจะได้รับความชัดเจนมากขึ้น จากปัจจุบันบริษัทมีลูกค้าอยู่ทั้งหมด 4 ราย ส่วนใหญ่จากฝั่งทวีปอเมริกา และยุโรป

 

นอกจากนี้ธุรกิจเฟอร์นิเจอร์  ที่ผลิตจากหนังวัว ปัจจุบันก็มีการชะลอตัวบ้างตามภาวะเศรษฐกิจ แต่บริษัทเองมีแบรนด์ที่แข็งแกร่ง เนื่องจากเป็นสินค้าพรีเมียมถือว่ายังสามารถเติบโตได้ต่อเนื่องในอนาคต ซึ่งปัจจุบันสินค้าเฟอร์นิเจอร์ แบรนด์ “ALEX ปัจจุบันมีโชว์รูมอยู่ที่ เซ็นทรัล บางนา

 

ทั้งนี้ธุรกิจที่ถือว่ามีการเติบโตได้เป็นอย่างดี ได้แก่ธุรกิจขนมขบเคี้ยวสุนัข ภายใต้แบรนด์ “MOMO & FRIENDS” ซึ่งเป็นธุรกิจผลพลอยได้จากหนังวัว ต้นทุนต่ำและมีอัตรากำไรที่สูง ซึ่งบริษัทเร่งทำตลาดตั้งแต่ในช่วงต้นปี 2566 และปัจจุบันนี้ได้ขยายสินค้าเข้าสู่ร้านโมเดิร์นเทรดหลายแห่ง อาทิ ร้านท็อป ซุปเปอร์มาร์เก็ต, และเตรียมจะเข้าจำหน่ายในห้างสรรพสินค้าชั้นนำของประเทศไทย 

 

โดยคาดว่าภายในไตรมาสที่ 3/2566 จะเริ่มวางขายได้ และภาพรวมยอดขายมีการเติบโตค่อนข้างดี ล่าสุด บริษัทได้เดินหน้าทำตลาดผลิตภัณฑ์ใหม่ แบรนด์ “Chojen” (โชเจน) คอลลาเจน จากหนังวัว โดยใช้เวลาพัฒนาผลิตภัณฑ์ มาเป็นระยะเวลากว่า 6 ปี ซึ่งเป็นบริษัทแรกและรายเดียวในประเทศไทย

 

อย่างไรก็ตามการเติบโตของรายได้ปี 2566 บริษัทคาดว่าจะเติบโตที่ราวๆ 5-10% จากปี 2565 ที่มีรายได้อยู่ที่ 2,070.96 ล้านบาท ตามที่คาดไว้ตั้งแต่ต้นปี เนื่องจากปัจจุบันการดำเนินธุรกิจยังเป็นอย่างต่อเนื่อง แม้เศรษฐกิจในประเทศไทยรวมถึงเศรษฐกิจโลกยังฟื้นตัวได้ไม่เต็มที่ และยังมีปัญหาค่าแรง และต้นทุนที่สูงขึ้น แต่บริษัทสามารถบริหารจัดการได้เป็นอย่างดี

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง