สิงคโปร์ อนุมัติวัคซีนต้านโควิดของไฟเซอร์ ฉีดให้เด็กอายุ 12-15 ปี

วันนี้ (19 พ.ค.64) กระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์ ระบุในแถลงการณ์ฉบับหนึ่งว่า ข้อมูลแสดงให้เห็นว่า วัคซีนโควิดของ Pfizer-BioNTech มีประสิทธิภาพสูงสอดคล้องกับที่พบในประชากรวัยผู้ใหญ่ และระบุเพิ่มเติมว่า วัคซีนมีประวัติการใช้ปลอดภัยเหมือนกับที่ใช้ในประชากรวัยผู้ใหญ่ด้วยเช่นกัน

การเคลื่อนไหวนี้มีขึ้น หลังการประกาศปิดโรงเรียนทั่วประเทศ โดยเริ่มจากวันพุธนี้ โรงเรียนชั้นประถมและมัธยม รวมทั้งระดับอุดมศึกษาด้วย จะเรียนจากที่บ้าน มาตรการดังกล่าวนี้จะบังคับใช้ไปจนตลอดช่วงเวลาที่เหลือของเทอมนี้ ซึ่งจะสิ้นสุดในวันที่ 28 พฤษภาคม

อย่างไรก็ตาม เด็กที่อายุน้อยกว่านี้ จะยังห่างไกลเป้าหมายที่จะได้รับวัคซีน ทั้งนี้ โครงการฉีดวัคซีนของสิงคโปร์ จะครอบคลุมไปถึงเด็ดอายุ 5 ปี โดยจะได้รับโอกาสหลังฉีดให้ผู้สูงอายุไล่ลงไปจนถึงเด็ก ซึ่งตั้งแต่วันพุธนี้ ประชาชนอายุระหว่าง 40-44 ปี จะได้รับเชิญให้ลงทะเบียนฉีดวัคซีน 

จนถึงขณะนี้ สิงคโปร์ ซึ่งมีประชากรกว่า 5.7 ล้านคน ฉีดวัคซีนไปแล้วประมาณ 3.4 ล้านโดส ประมาณ 1.4 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว ส่วนที่เหลือฉีดวัคซีน 1 โดส 

เนื่องจากวัคซีนมีจำนวนจำกัด ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ กระทรวงสาธารณสุขของสิงคโปร์ จึงเลือกที่จะเว้นระยะห่างการฉีดวัคซีน ระหว่างเข็มแรกและเข็มสองออกไป โดยขยับออกจากปัจจุบันที่ห่างกัน 3 สัปดาห์ เป็น 4 สัปดาห์ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะทำให้เจ้าหน้าที่ฉีดให้ครอบคลุมประชาชนได้มากขึ้นอย่างน้อยก็ฉีดได้เข็มแรก

สิงคโปร์พบผู้ติดเชื้อไวรัสสูงขึ้นอีก อย่างน้อยพบหนึ่งคลัสเตอร์ที่ศูนย์การศึกษา โควิดสายพันธุ์อินเดียเชื่อว่าจะเป็นอันตรายและเล่นงานเด็กมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าตัวเลขติดเชื้อที่เพิ่มอีกในขณะนี้ แต่ผู้ติดเชื้อสะสมในสิงคโปร์ยังอยู่ในระดับที่ต่ำมาก เมื่อเทียบกับประเทศที่ได้รับผลกระทบหนักหน่วงที่สุด โดยตั้งแต่เริ่มต้นการระบาดของไวรัสโควิด สิงคโปร์มีผู้ติดเชื้อแล้วประมาณ 61,600 คน และมีผู้เสียชีวิตเพียง 31 คน