BGRIMรุกหนักโซลาร์รูฟ เจาะฐานฟิลิปปินส์-โอมาน
ทันหุ้น –BGRIM รุกหนักโซลาร์รูฟท็อป ขยายฐานทั้งในและต่างประเทศ ล่าสุดเริ่มดำเนินการก่อสร้างให้กับลูกค้ารายใหญ่ในประเทศฟิลิปปินส์-โอมาน กำลังการผลิตรวม 41.67 เมกะวัตต์ ชี้สัญญาส่วนใหญ่เป็นสัญญา 15-25 ปี ชูเป็นการสร้างพันธมิตรระยะยาว
ดร.ฮาราลด์ ลิงค์ ประธาน บี.กริม และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM เปิดเผยว่า จากนโยบายในปี 2564 บี.กริม เพาเวอร์ มีแผนเดินหน้าขยายการลงทุนธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนหลังคา (โซลาร์ รูฟท็อป) อย่างเต็มที่ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมผ่านการพัฒนาพลังงานสะอาด ซึ่งเป็นเป้าหมายของบริษัทในการเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานสะอาด เพื่อร่วมกันลดภาวะโลกร้อนและดูแลสิ่งแวดล้อมด้วยกันอย่างยั่งยืน
สำหรับโรงไฟฟ้าโซลาร์ รูฟท็อป ในต่างประเทศ ล่าสุดบริษัทได้ดำเนินการก่อสร้างและบริหารจัดการงานเดินระบบและซ่อมบำรุงอุปกรณ์ในการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าโซลาร์รูฟท็อป รวม 6 เมกะวัตต์ ให้แก่ Alaska Milk Corporation ซึ่งเป็นผู้ผลิตผลิตภัณฑ์นมรายใหญ่ที่สุดของประเทศฟิลิปปินส์ ในเครือ Royal Friesland Campina N.V. บริษัทยักษ์ใหญ่ของโลก หนึ่งในผู้นำธุรกิจผลิตภัณฑ์นมที่ดำเนินธุรกิจมาอย่างยาวนานกว่า 140 ปี
*มีกำลังผลิตในมือ 41.67 MW
โดยโครงการในเฟส 1 มีกำลังผลิตไฟฟ้าจำนวน 3เมกะวัตต์ ได้เริ่มจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) แล้วตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2564 และในส่วนของโครงการในเฟส 2ซึ่งมีกำลังผลิตไฟฟ้าจำนวน 3 เมกะวัตต์ ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการก่อสร้างซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จ และจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ได้ภายในเดือน ธันวาคม 2564 นี้
นอกจากนี้ เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา บี.กริม เพาเวอร์ ยังได้เริ่มก่อสร้างโรงไฟฟ้าโซลาร์ รูฟท็อป โดยมีกำลังการผลิตติดตั้งจำนวน 5.67 เมกะวัตต์ ให้กับบริษัทต่างๆ ในเครือของ Republic Biscuit Corporation (REBISCO) ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์อาหารชั้นนำระดับนานาชาติของประเทศฟิลิปปินส์ ที่มีประวัติการดำเนินธุรกิจมายาวนานกว่า 58 ปี อีกด้วย
อนึ่ง บี.กริม เพาเวอร์ ยังได้ลงนามความร่วมมือในบันทึกข้อตกลง และสัญญาซื้อขายไฟฟ้า โรงไฟฟ้าโซลาร์ รูฟท็อป กำลังการผลิตติดตั้งขนาด 30 เมกะวัตต์ ให้กับ Al Madina Group ยักษ์ใหญ่ด้านอสังหาริมทรัพย์ รัฐสุลต่านโอมาน ซึ่งจะเป็นการรุกเข้าไปพัฒนาและบริหารจัดการโรงไฟฟ้าโซลาร์ รูฟท็อป ในกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง ที่มีโอกาสทางธุรกิจที่สำคัญอีกด้วย
*สัญญายาว 15-25 ปี
สำหรับโรงไฟฟ้าโซลาร์ รูฟท็อป ในประเทศไทย ปัจจุบัน บริษัทได้เข้าไปบริหารจัดการโรงไฟฟ้าโซลาร์รูฟท็อป ให้กับหลายองค์กร อาทิ ไอคอนสยาม, เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ๊ป, มูลนิธิทันตนวัตกรรมในพระบรมราชูปถัมภ์, เอไอเอ กรุ๊ป, มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย, บริษัท อมตะ วอเตอร์ จำกัด ในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ชลบุรี และระยอง และสวนอุตสากรรมบางกะดี ปทุมธานี เป็นต้น
“การติดตั้งโซลาร์ รูฟท็อป ซึ่งเป็นระบบที่ต้องมีการบำรุงรักษาระยะยาว สัญญาส่วนใหญ่ที่ทำกับลูกค้าจึงเป็นสัญญา 15-25 ปี ซึ่งเป็นการสร้างพันธมิตรระยะยาว ระหว่าง บี.กริม เพาเวอร์ กับลูกค้าในการร่วมสร้างพลังงานสะอาดไปพร้อมกัน สะท้อนวิสัยทัศน์การดำเนินธุรกิจเพื่อ สร้างพลังให้กับสังคมโลกด้วยความโอบอ้อมอารี ของ บี.กริม เพาเวอร์ ได้อย่างเด่นชัด” ดร.ฮาราลด์ ลิงค์ กล่าว