สลด! แนวปะการังใหญ่ที่สุดในโลกตายไปแล้วกว่าครึ่ง


วันนี้ ( 15 ต.ค. 63 )นักวิทยาศาตร์ ได้ทำการตรวจสอบเรื่องคุณภาพ ตลอดจนขนาดของแนวปะการังในเกรท แบริเออร์รีฟ (Great Barrier Reef) ซึ่งเป็นแนวปะการังที่ใหญ่ที่สุดในโลก นอกชายฝั่งออสเตรเลีย ในระหว่างปี 1995-2017 เรื่อยมา และได้เผยแพร่รายงานล่าสุดในนิตยสารโรยัล โซไซตี้ (Royal Society Journal) พบว่า แนวปะการังของเกรท แบริเออร์รีฟ ตายลงมากกว่าครึ่งหนึ่งแล้ว นับตั้งแต่ปี 1995 หรือ 25 ปีที่ผ่านมา
โดยนักวิทยาศาสตร์ระบุว่า เกิดจากอุณหภูมิน้ำทะเลที่สูงขึ้น จากภาวะโลกร้อน และยังพบด้วยว่าปะการังชนิดอื่น ๆ ทั่วโลกก็กำลังเผชิญกับปัญหาเดียวกัน
นอกจากนี้ผลการศึกษายังพบด้วยว่า แนวปะการังที่ตายลงมีทุกขนาดและชนิด โดยเฉพาะปะการังรูปทรงโต๊ะ ซึ่งมีขนาดใหญ่ และเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยสำคัญของเหล่าสัตว์น้ำใต้ท้องทะเล อีกทั้งยังพบว่าแนวปะการังเกิดภาวะฟอกขาวเป็นวงกว้าง ในช่วงปี 2016-2017 และมากขึ้นอีกในปีนี้ ซึ่งลามไปแล้วมากกว่า 2 ใน 3 ของทั้งหมด
ซึ่งปะการังสามารถหายจากการฟอกขาวได้ หากสภาพแวดล้อมของทะเลกลับสู่ภาวะปกติ แต่อาจะต้องใช้เวลานานหลายสิบปี นักวิจัยย้ำว่า เราต้องลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะไม่มีเวลาอีกแล้ว
สำหรับแนวปะการังเกรทแบริเออร์รีฟ มีความยาวถึง 2,300 กิโลเมตร และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อปี 1981 แต่ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ได้รับผลจากอุณหภูมิของทะเลที่สูงขึ้นมาตลอด