ทำไมออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ปลอดภัยที่สุด หากเกิดสงครามนิวเคลียร์

ปัจจัยที่จะบ่งชี้ว่าประเทศไหนปลอดภัยจากสงครามนิวเคลียร์ ไม่ได้ตัดสินกันที่กำลังทหาร เพราะเมื่อเกิดสงครามนิวเคลียร์แล้ว ทุกประเทศย่อมได้รับความเสียหายระดับหายนะกันทั่วหน้า แน่นอนว่าประเทศที่เป็นเป้าหมายถูกโจมตี จะมีผู้เสียชีวิตนับหลายล้านคนในทันที แต่ประเทศอื่น ๆ ก็จะต้องเจอกับหายนะที่ตามมาจากการแผ่กัมมันตรังสีที่ไม่มีอะไรมาหยุดยั้งได้ ซึ่งสิ่งที่เป็นตัวชี้วัดว่าประเทศไหนจะปลอดภัยจากสงครามนิวเคลียร์ จึงไม่ใช่กำลังทหาร แต่เป็น สถานที่ตั้งที่อยู่ห่างไกล และความสามารถในการผลิตอาหาร
แอนนี จาคอบเซน นักเขียนและนักข่าวสายสืบสวน เธอเป็นผู้ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านสงครามนิวเคลียร์มากที่สุดคนหนึ่งของโลก ประเมินว่าออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ เป็นประเทศที่ปลอดภัยที่สุด หากเกิดสงครามนิวเคลียร์ขึ้น ด้วยที่ตั้งของสองประเทศนี้ที่อยู่ในซีกโลกใต้ ห่างไกลจากแผ่นดินที่ติดกับประเทศอื่น และเป็นแค่สองประเทศในโลกที่มีศักยภาพจะทำการเกษตรและผลิตอาหารได้ต่อไป ในขณะที่พื้นที่การเกษตรทั่วโลกถูกทำลายจนไม่สามารถเพาะปลูกอะไรได้นานหลายสิบปี
หากเกิดสงครามนิวเคลียร์ การทิ้งระเบิดนิวเคลียร์แต่ละลูก จะสังหารประชาชนหลายสิบล้านถึงหลายร้อยล้านคน ผู้คนมหาศาลจะล้มตายจากแรงระเบิดในทันที และอีกจำนวนมากจะเสียชีวิตตามมาจากกัมมันตภาพรังสีที่ปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อม ที่ทำให้เกิดอาการป่วย เป็นมะเร็ง อากาศและแหล่งน้ำเป็นพิษ พื้นที่การเกษตรเสียหายจนปลูกอะไรไม่ได้ ปศุสัตว์ล้มตาย ซึ่งจะทำให้คนที่รอดชีวิตต้องแย่งชิงทรัพยากรที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิดเพื่อเอาชีวิตรอด ซึ่งจะทำให้มีคนล้มตายอีกจำนวนมาก
หากมีการจุดระเบิดนิวเคลียร์หลายพันลูก นอกจากจะทำให้ประชากรโลก 5,000 ล้านคนจากทั้งหมด 8,000 ล้านคนเสียชีวิตภายในเวลาเพียง 72 นาทีแรก แต่สิ่งที่น่ากลัวกว่าคือ หลังจากนั้น จะเกิดปรากฎการณ์ที่เรียกว่า “ฤดูหนาวนิวเคลียร์” ที่การระเบิดจะทำให้เกิดหมอกควันหนาทึบ สะสมตัวในชั้นบรรยากาศจนแสงอาทิตย์ลอดเข้ามาไม่ได้ ทำให้อุณหภูมิทั่วโลกลดต่ำลง และทำลายระบบนิเวศจนไม่สามารถฟื้นฟูกลับมาเหมือนเดิมได้ หลายพื้นที่ในสหรัฐฯ หรือยุโรปจะมีหิมะตกหนักนานนับ 10 ปี ทำให้อาหารขาดแคลน และจะมีผู้คนอดตายมหาศาล
นอกจากนี้ อากาศที่ปนเปื้อนฝุ่นพิษจากระเบิดนิวเคลียร์ จะทำให้คนที่รอดชีวิตต้องย้ายไปอยู่ในที่หลบภัยใต้ดิน แล้วก็ต้องทำทุกวิถีทางเพื่อแย่งอาหารกัน โดยออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ซึ่งอยู่ในซีกโลกใต้ ห่างไกลจากเป้าหมายการโจมตีนิวเคลียร์ ทั้งสองประเทศมีพื้นที่กว้างใหญ่ มีประชากรค่อนข้างน้อยมาก หากเทียบกับประเทศอื่น อย่างออสเตรเลียมีพื้นที่ใหญ่ขนาด 7,700,000 ตารางกิโลเมตร แต่มีประชากรแค่ 27 ล้านคน ส่วนนิวซีแลนด์ มีพื้นที่ 270,000 ตารางกิโลเมตร มีประชากร 5,300,000 คน ซึ่งถือว่าน้อยมาก หากเทียบกับญี่ปุ่น ซึ่งมีขนาดพื้นที่ 370,000 ตารางกิโลเมตร แต่มีประชากรมากถึง 124 ล้านคน ทำให้ออสเตรเลียกับนิวซีแลนด์มีพื้นที่เพาะปลูกและผลิตอาหารในระยะยาวที่เพียงพอต่อความต้องการในประเทศได้
นอกจากนี้ ตำแหน่งที่ตั้งของทั้งสองประเทศ ก็มีป้อมปราการทางธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นกระแสน้ำทะเล หรือกระแสลมที่จะพัดอากาศเป็นพิษ หรือกระแสน้ำปนเปื้อนกัมมันตรังสีไปที่อื่น รวมทั้งการเป็นประเทศเกาะที่ไม่มีแผ่นดินติดกับประเทศอื่น จึงไม่ต้องกังวลว่าจะมีผู้ลี้ภัยหลั่งไหลเข้ามาในประเทศจนควบคุมไม่ได้
นอกจากออสเตรเลียกับนิวซีแลนด์ ประเทศเกาะอื่น ๆก็ถูกมองว่าเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยจากสงครามนิวเคลียร์มากที่สุด เช่น ไอซ์แลนด์ ฟิจิ และ ศรีลังกา
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
