ออสเตรเลียปฏิเสธอิสราเอลไม่ได้อยู่เบื้องหลังเหตุขับทูตอิหร่านออกนอกประเทศ

ทางการออสเตรเลียออกมา “ปฏิเสธ” หลังมีกระแสข่าวและคำกล่าวอ้างว่าอิสราเอลเป็นผู้อยู่เบื้องหลังและเข้ามาแทรกแซง

กรณีรัฐบาลออสเตรเลียภายใต้นายกรัฐมนตรีแอนโทนี อัลบาเนซี ขับ นายอาหมัด ซาเดกี  เอกอัครราชทูตอิหร่านประจำกรุงแคนเบอร์ราและเจ้าหน้าที่ทางการทูตอีก 3 คน ออกนอกประเทศด้วยเหตุผลว่าอิหร่านมีความเชื่อมโยงกับเหตุโจมตีต่อต้านยิวในนครซิดนีย์และนครเมลเบิร์น

โทนี เบิร์ก รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยของออสเตรเลียเปิดเผยกับสำนักข่าว ABC ในวันนี้ (27 สิงหาคม) ว่าคำกล่ลาวอ้างเหล่านั้น “ไร้สาระโดยสิ้นเชิง” พร้อมกับยืนยันว่าออสเตรเลียทำในสิ่งที่ควรทำเพื่อตอบสนองต่อเหตุความรุนแรงที่เกิดขึ้น

ความเคลื่อนไหวนี้ยังเกิดขึ้นหลังจาก เดวิด เมนเซอร์ โฆษกรัฐบาลอิสราเอลกล่าวเมื่อวานนี้ (26 สิงหาคม) ว่าการเข้าแทรกแซงอย่างตรงไปตรงมาของนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู และการวิพากษ์วิจารณ์ของเขาต่อการที่ออสเตรเลียตัดสินใจรับรองรัฐปาเลสไตน์ อาจเป็นสิ่งที่กระตุ้นให้เกิดปฏิกิริยาดังกล่าวจากออสเตรเลีย  เมนเซอร์ กล่าวด้วยว่าความสัมพันธ์ระหว่างอิหร่านกับออสเตรเลียได้รับความเสียหาย และด้วยเหตุนี้จึงเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่หลังจากการแทรกแซงอย่างทันท่วงทีของนายกรัฐมนตรีเนทันยาฮู รัฐบาลออสเตรเลียก็ได้ตัดสินใจดำเนินการเช่นนี้

ก่อนหน้านี้ เนทันยาฮูได้กล่าวโจมตีผู้นำออสเตรเลียและเรียกว่าเป็นนักการเมืองที่อ่อนแอหลังจากออสเตรเลียตัดสินใจประกาศยอมรับรัฐปาเลสไตน์ที่อิสราเอลไม่เห็นด้วย โดยให้เหตุผลว่าอัลบาเนซีหักหลังอิสราเอลและละทิ้งชุมชนชาวยิวในออสเตรเลีย

ขณะที่ รอยเตอร์สรายงานว่าช่วงเช้าวันนี้พบเห็น อาหมัด ซาเดกี เอกอัครราชทูตอิหร่านประจำกรุงแคนเบอร์รา กำลังเดินทางออกจากสถานเอกอัครราชทูตแล้วโดยไม่ให้สัมภาษณ์ใด ๆ หลังจากประกาศของทางการออสเตรเลียมีคำสั่งให้เขาและเจ้าหน้าที่อีก 3 คนต้องออกนอกประเทศภายใน 7 วัน