Translucia ทุ่มงบ 3 พันล้าน ผนึกกำลังบริษัทออสเตรเลีย ปักธงศูนย์ R&D ด้านเมตาเวิร์สที่เมลเบิร์น
เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน ทรานส์ลูเซีย เมตาเวิร์ส (Translucia Metaverse) บริษัทในเครือ ทีแอนด์บี มีเดีย โกลบอล (ประเทศไทย) ของดร.ชวัลวัฒน์ อริยวรารมณ์ ผู้ให้กำเนิดอนิเมชันไทยที่ไปไกลระดับโลกอย่าง เชลล์ดอน ร่วมกับ ทู บูลส์ (Two Bulls) บริษัทด้านการสร้างเนื้อหาเชิงสร้างสรรค์ (Creative Engineering) ระดับโลกจากออสเตรเลีย ประกาศจัดตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนา (R&D) ด้านเมตาเวิร์ส (Metaverse) ณ นครเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย ด้วยงบประมาณกว่า 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 3.5 พันล้านบาท โดยการสนับสนุนของรัฐบาลออสเตรเลียและไทย
ทรานส์ลูเซีย ผนึกกำลังกับ ทู บูลส์ (Two Bulls) ซึ่งเป็นผู้สร้างสรรค์เชิงดิจิทัลระดับโลกที่สร้างผลงานให้บริษัทชั้นนำต่าง ๆ เช่น ดิสนีย์ (Disney) ไมโครซอฟต์ (Microsoft) และงานเปิดตัว iPhone 11 ในการพัฒนาโครงสร้างและรูปแบบการนำเสนอ ทรานส์ลูเซีย เมตาเวิร์ส โดยอาศัยแนวคิดเชิงปรัชญาว่าการพัฒนาจะต้องเริ่มจากการสร้างสังคมที่ยั่งยืน (Sustainable Society) เพราะเมตาเวิร์สไม่ใช่สถานที่ แต่เป็นผู้คน
โครงสร้างพื้นฐานของทรานส์ลูเซียเน้นไปที่การสร้างโค้ด อัลกอริทึม (Algorithm) เช่น ระบบเรียนรู้ด้วยตัวเอง (Machine Learning) ระบบเรียนรู้เชิงลึก (Deep Learning) ที่พัฒนามาจากบล็อกเชน (Blockchain) และปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ที่ต้องการเป็นพันธมิตรกับทรานส์ลูเซียสามารถสร้างและออกแบบเมตาเวิร์ส (Metaverse) ของตนเองได้ โดยแต่ละเมตาเวิร์สที่อยู่ภายใต้ทรานส์ลูเซียจะสามารถเชื่อมต่อถึงกันได้ รวมถึงพัฒนาให้มีระบบเศรษฐกิจ เช่น สินทรัพย์ดิจิทัลผ่านพื้นฐานของ NFT (Non-fungible Token) พร้อมระบบความปลอดภัยขั้นสูงในระดับที่ป้องกันการแฮก (Hacking) ได้ทุกรูปแบบ รวมถึงควอนตัมคอมพิวเตอร์ (Quantum Computer) ที่หลายฝ่ายกังวลว่าจะทำลายความปลอดภัยของระบบบล็อกเชน (Blockchain)
ศูนย์วิจัยและพัฒนา (Research and Development: R&D Centre) ของทรานส์ลูเซีย จะจัดตั้งขึ้นที่เมืองเมลเบิร์น รัฐวิกตอเรีย ประเทศออสเตรเลีย ด้วยงบประมาณเบื้องต้น 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 3.5 พันล้านบาท เพื่อวิจัยและต่อยอดการพัฒนาเมตาเวิร์ส (Metaverse) ในด้านต่าง ๆ เช่น การพัฒนาให้เมตาเวิร์สบนระบบบล็อกเชน (Blockchain) สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน เช่น แท็บเล็ต สมาร์ตโฟน พร้อมวิจัยแนวคิดการนำเมตาเวิร์สออกมาสู่โลกแห่งความเป็นจริงด้วยเทคโนโลยีโลกเสมือนจริง (Augmented Reality: AR) หรือแม้แต่การสร้างโลกเมตาเวิร์สโดยไม่ต้องสวมใส่อุปกรณ์ใด ๆ ในอนาคต
นอกจากการเปิดตัวศูนย์ R&D ของทรานส์ลูเซียแล้ว ในงานยังมีการพูดคุยเกี่ยวกับทิศทางของเมตาเวิร์สกับพันธมิตรที่สำคัญอย่าง เพลลาร์ เทคโนโลยี (Pellar Technology) ผู้พัฒนาพื้นฐานบล็อกเชน (Blockchain) สำหรับการสร้างโลกและระบบเศรษฐกิจภายในทรานส์ลูเซีย เมตาเวิร์ส (Translucia Metaverse) รวมถึงแมกโนเลีย ควอลิตี้ (Magnolia Quality Development Corporation: MQDC) บริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของโลก ที่จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในทรานส์ลูเซีย เมตาเวิร์ส โดยการเปิดตัวอสังหาริมทรัพย์ในโลกเสมือนจริงอีกด้วย
การร่วมมือของทรานส์ลูเซีย (Translucia) กับทู บูลส์ (Two Bulls) เกิดขึ้นภายใต้ความร่วมมือของรัฐบาลไทยและออสเตรเลีย โดยดร.แองเจล่า แมคโดนัลด์ (Angela Macdonald) ว่าที่เอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทย ในฐานะตัวแทนรัฐบาลออสเตรเลีย มองว่าการร่วมมือกันระหว่างสองบริษัทจะช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ของสองประเทศ รวมถึงสร้างสรรค์เศรษฐกิจที่มั่นคง สร้างสรรค์ และยั่งยืนสำหรับอนาคต
ในขณะที่ ดร.ภาสกร ประถมบุตร รองผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (DEPA) ของไทยนั้นมาร่วมแสดงความยินดีและแสดงเจตนารมณ์พร้อมให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ พร้อมกับมองว่าการร่วมมือของสองบริษัทจะเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้มูลค่าเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Creative Economy) ของประเทศไทยในอนาคตให้เติบโตมากขึ้น
ที่มาของข้อมูลและรูปภาพ T&B Media Global