รีเซต

สหรัฐฯ ครองบอร์ด TikTok ฝั่งอเมริกา ยืนยัน คุมข้อมูล อัลกอริทึม

สหรัฐฯ ครองบอร์ด TikTok ฝั่งอเมริกา ยืนยัน คุมข้อมูล อัลกอริทึม
TNN ช่อง16
23 กันยายน 2568 ( 15:32 )
11

เมื่อวันที่ 20 กันยายนที่ผ่านมา ทำเนียบขาวสหรัฐฯ เปิดเผยความคืบหน้าในการเจรจาระหว่างวอชิงตันและปักกิ่ง เกี่ยวกับการขายกิจการ TikTok ฝั่งอเมริกา โดยยืนยันว่า บอร์ดบริหารชุดใหม่จะมีทั้งหมด 7 ที่นั่ง และ 6 ที่นั่งจะเป็นชาวอเมริกัน พร้อมประกาศว่า “ข้อมูล ความเป็นส่วนตัว และอัลกอริทึม” ของแพลตฟอร์มจะอยู่ภายใต้การควบคุมของสหรัฐฯ อย่างสมบูรณ์ 

ตามรายงานจากสำนักข่าว Fox News แคโรไลน์ ลีวิตต์ (Karoline Leavitt) โฆษกทำเนียบขาวกล่าวว่า “ข้อตกลงนี้มาจากนโยบาย America First โดย TikTok จะถูกถือครองโดยชาวอเมริกันเป็นเสียงข้างมาก และ Oracle จะเป็นผู้ดูแลด้านข้อมูลและความเป็นส่วนตัว ส่วนอัลกอริทึมก็จะถูกควบคุมโดยสหรัฐฯ เช่นกัน” เธอย้ำด้วยความมั่นใจว่า รัฐบาล “มั่นใจ 100% ว่าข้อตกลงนี้เสร็จสิ้นแล้ว” และเหลือเพียงการลงนามเท่านั้น โดยการแถลงนี้เกิดขึ้นระหว่างการให้สัมภาษณ์ในรายการ Saturday in America ของ Fox News กรุงวอชิงตัน ดี.ซี.

ที่มาของภาพ
Reuters

การเจรจาระดับผู้นำ

ถ้อยแถลงดังกล่าวเกิดขึ้นเพียงหนึ่งวันหลังจากการหารือระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เมื่อวันศุกร์ที่ 19 กันยายน ผ่านการประชุมทางโทรศัพท์ โดยทั้งสองฝ่ายหารือเพื่อหาข้อยุติ ให้ TikTok สามารถดำเนินการในสหรัฐฯ ต่อไปได้ โดยทรัมป์เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาวว่า การพูดคุยเป็น “การสนทนาที่ดีมาก” และแสดงความพอใจต่อการอนุมัติข้อตกลง TikTok ขณะที่ฝั่งจีนยังไม่ยืนยันรายละเอียดใด ๆ

นักลงทุนและบทบาทของ Oracle

ตามรายงานระบุว่า ลาร์รี เอลลิสัน (Larry Ellison) มหาเศรษฐีผู้ร่วมก่อตั้ง Oracle เป็นหนึ่งในนักลงทุนหลักที่จะเข้าซื้อกิจการ โดย Oracle จะมีบทบาทสำคัญในการดูแลข้อมูลผู้ใช้กว่า 170–175 ล้านคนในสหรัฐฯ และสร้างความมั่นใจด้านความเป็นส่วนตัว ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เปิดเผยว่าสมาชิกบอร์ดชาวอเมริกันที่จะเข้ามามีบทบาทในข้อตกลงนี้ ล้วนเป็น “บุคคลที่มีชื่อเสียงและทรงอิทธิพลในแวดวงการเงินของสหรัฐฯ”

การเมืองและแรงกดดันด้านความมั่นคง

ข้อตกลงนี้เกิดขึ้นท่ามกลางแรงกดดันทางการเมืองที่มีมายาวนาน ทั้งจากพรรคเดโมแครต (Democrat) และรีพับลิกัน (Republican) ที่ต่างเห็นพ้องว่าบริษัทแม่ ByteDance ของจีนควรถูกบังคับให้ขาย TikTok เพื่อป้องกันความเสี่ยงด้านความมั่นคง เนื่องจากกังวลว่าปักกิ่งอาจเข้าถึงข้อมูลผู้ใช้ หรือแทรกแซงการทำงานของอัลกอริทึมเพื่อเผยแพร่โฆษณาชวนเชื่อ

ซึ่งก่อนหน้านี้ กฎหมายสองพรรคที่ผ่านในสภาสหรัฐฯ และลงนามโดยประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้กำหนดให้ TikTok ถูกแบน หากไม่ขายให้บริษัทอเมริกัน ส่งผลให้แอปถูกปิดใช้งานชั่วคราวเมื่อต้นปี 2025 อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ ซึ่งรับตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่สองในปีเดียวกัน ได้ผ่อนปรนการบังคับใช้และหันมาเป็นผู้สนับสนุน TikTok แทน โดยอ้างว่าแพลตฟอร์มนี้ช่วยดึงดูดผู้มีสิทธิเลือกตั้งรุ่นใหม่จำนวนมากให้กับพรรครีพับลิกัน

มุมมองของทรัมป์

ทรัมป์ยอมรับว่า แม้ในอดีตเขาจะไม่ชื่นชอบ TikTok และเคยใช้คำสั่งฝ่ายบริหารพยายามแบนแอปในปี 2020 แต่ในเวลาต่อมา เขากลับมองว่า TikTok มีบทบาทสำคัญต่อชัยชนะครั้งใหญ่ในการเลือกตั้งปี 2024 โดยทรัมป์กล่าวว่า “ผมไม่ใช่แฟน TikTok มาก่อน แต่พอได้ใช้แล้ว ผมก็กลายเป็นแฟน และมันช่วยให้ผมชนะเลือกตั้งแบบถล่มทลาย” 

ความนิยมและข้อกังวล

TikTok มีผู้ใช้งานกว่า 175 ล้านรายในสหรัฐฯ และติดอันดับหนึ่งในห้าแพลตฟอร์มโซเชียลยอดนิยม แต่ก็เผชิญข้อกังวลด้านความมั่นคงเรื่อยมาตั้งแต่สมัยรัฐบาลโจ ไบเดน ที่ผลักดันกฎหมายบังคับให้ ByteDance แยกการถือครอง โดยแอปเคยถูกปิดให้บริการชั่วคราวในเดือนมกราคม 2025 ก่อนที่ทรัมป์จะเข้ารับตำแหน่งสมัยที่สอง

ทรัมป์ยังยอมรับว่า แม้เขาเคยพยายามแบน TikTok ในปี 2020 แต่ต่อมากลายเป็นผู้สนับสนุน และเชื่อว่าแพลตฟอร์มนี้มีส่วนช่วยดึงดูดผู้มีสิทธิเลือกตั้งรุ่นใหม่จำนวนมาก จนทำให้เขาชนะเลือกตั้งปี 2024 อย่างถล่มทลาย

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง