เพนตากอนชี้ "เฮกเซธ" มีความผิด-ทำกองทัพเสี่ยงอันตราย กรณีแชตหลุดแผนโจมตีฮูตี

สื่อต่างประเทศเผยถึงรายงานของคณะผู้ตรวจการเพนตากอนต่อนายพีท เฮกเซธ รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ที่ชี้ว่าเฮกเซธ “มีความผิด” จากกรณีข้อความแชตบนแอปพลิเคชัน Signal ที่เกี่ยวกับแผนการสั่งโจมตีกลุ่มฮูตีในเยเมนเมื่อปลายเดือนมีนาคมหลุดออกมา โดยเอกสารรายงานของเพนตากอนระบุว่าเฮกเซธใช้แอปพลิเคชัน Signal บนโทรศัพท์มือถือส่วนตัวของเขาในการส่งต่อข้อมูลที่เป็นความลับและมีความละเอียดอ่อนสูง ซึ่งหากข้อมูลดังกล่าวถูกดักจับได้ก็อาจทำให้ทหารของกองทัพสหรัฐฯ ตกอยู่ในอันตราย อีกทั้งการกระทำนี้ของเฮกเซธ ยังขัดต่อนโยบายของกระทรวงกลาโหมด้วย

รายงานของเพนตากอนฉบับนี้ แม้ยังไม่ถูกเผยแพร่ออกมาสู่สาธารณะ แต่เป็นที่คาดการณ์ว่าจะถูกเผยแพร่ออกมาภายในสัปดาห์นี้ โดยแหล่งข่าวใกล้ชิดระบุตรงกันว่า คณะผู้ตรวจการอิสระของเพนตากอนไม่ได้ตัดสินว่าข้อมูลที่เฮกเซธโพสต์นั้นเป็นข้อมูลลับในขณะนั้นหรือไม่ เนื่องจากรายงานยอมรับว่า ในฐานะที่เฮกเซธดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม เขามีอำนาจตัดสินได้ว่าข้อมูลใดเป็นความลับและข้อมูลใดไม่เป็นความลับ นอกจากนี้ คณะผู้ตรวจการยังได้หารือและสร้างความเข้าใจกับเฮกเซธแล้ว ซึ่งเขาได้ย้ำความเข้าใจนี้ในทำนองเดียวกันผ่านโพสต์ในโซเชียลมีเดีย

เหตุกลุ่มแชตหลุด เกิดขึ้นหลังจาก เจฟฟรีย์ โกลด์เบิร์ก บรรณาธิการจากนิตยสาร The Atlantic ออกมาเปิดเผยว่าเขาได้รับคำเชิญให้เข้ากลุ่มแชตในแอปพลิเคชัน Signal ซึ่งในกลุ่มนั้นมีบุคคลสำคัญในรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เป็นสมาชิกอยู่หลายคน ทั้ง เฮกเซธ รัฐมนตรีกลาโหม, ไมค์ วอลซ์ ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติในขณะนั้น รวมถึง เจดี แวนซ์ รองประธานาธิบดี และ มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ โดยในกลุ่มแชตนี้ เฮกเซธได้ส่งรายละเอียดล่วงหน้าเกี่ยวกับการโจมตีกลุ่มฮูตีในเยเมนเมื่อวันที่ 15 มีนาคม ซึ่งรายละเอียดดังกล่าว รวมถึงช่วงเวลาการโจมตีที่แน่นอนที่เครื่องบิน F-18 จะออกปฏิบัติการ นอกจากนี้ยังมีการระบุถึงเวลาที่โดรนจะไปถึง และเวลาที่ทั้งสองฝ่ายจะดำเนินการโจมตีทางอากาศด้วย

และจากการเปิดเผยของ โกลด์เบิร์ก  ได้สร้างแรงสั่นสะเทือนและเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลของทรัมป์ในวงกว้างโดยเฉพาะประเด็นการใช้โทรศัพท์มือถือส่วนตัวและการใช้แอปพลิเคชันในการส่งต่อข้อมูลที่เป็นความลับเช่นนี้ สมาชิกของพรรคเดโมแครต รวมถึงรีพับลิกันบางส่วนเรียกร้องให้มีการสอบสวนต่อเฮกเซธ ซึ่งฝั่งสมาชิกเดโมแครตบางคนกล่าวว่า การใช้แอปพลิเคชัน Signal เพื่อสื่อสารของเฮกเซธเป็นอันตรายต่อชีวิตของทหารชายและหญิง และเป็นการกระทำที่ขาดความรอบคอบของผู้นำระดับสูงอย่างน่าอับอาย ส่วนทางฝั่งเจ้าหน้าที่ในรัฐบาลของทรัมป์ออกมาปฏิเสธและกล่าวโกลด์เบิร์กขยายความจนทำให้เรื่องนี้เกินจริงไปมาก ซึ่งโกลด์เบิร์กยังได้เผยแพร่ภาพแคปหน้าจอในกลุ่มแชตที่เป็นข้อความจากเฮกเซธถึงสมาชิกในกลุ่มเกี่ยวกับแผนการพิเศษที่จะสังหารผู้นำของกลุ่มฮูตีซึ่งจะเกิดขึ้น 2 ชั่วโมงก่อนแผนโจมตีฮูตีหลัก

ทั้งนี้ มีความเคลื่อนไหวจากฝั่ง ฌอน พาร์เนลล์ โฆษกประจำสำนักงานของเฮกเซธกล่าวออกมาว่า ผลจากการตรวจสอบของคณะผู้ตรวจการเพนตากอนจะถือเป็นชัยชนะสำหรับเฮกเซธในฐานะรัฐมนตรีกลาโหมที่กำลังเผชิญแรงกดดันมายาวนาน ซึ่งเฮกเซธยืนยันมาโดยตลอดว่า เขาไม่ได้มีการแชร์ “แผนการทำสงคราม” ผ่านแอปส่งข้อความดังกล่าว โดยพาร์เนลล์ยืนยันชัดเจนว่า “เรื่องนี้ได้รับการจัดการเรียบร้อยและคดีได้ปิดฉากลงแล้ว”