จุลินทรีย์ในช่องปากอาจเป็นสาเหตุของมะเร็งตับอ่อน วิจัยชี้

มะเร็งตับอ่อน (Pancreatic Cancer) ถูกขนานนามว่าเป็นหนึ่งใน “มะเร็งที่เงียบที่สุด” เพราะในระยะเริ่มต้นมักไม่ปรากฏอาการชัดเจน ส่งผลให้ผู้ป่วยจำนวนมากถูกวินิจฉัยเมื่อโรคเข้าสู่ระยะลุกลามแล้ว ทำให้อัตราการรอดชีวิตต่ำมาก โดยสถิติชี้ว่ามีเพียงประมาณร้อยละ 13 ของผู้ป่วยเท่านั้นที่มีชีวิตรอดเกิน 5 ปี หลังการวินิจฉัย
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา นักวิจัยทั่วโลกพยายามหาคำตอบว่า อะไรคือปัจจัยที่ทำให้ความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งตับอ่อนสูงขึ้น และล่าสุด การศึกษาจาก NYU Langone Health ได้เปิดมุมมองใหม่ว่า “จุลินทรีย์ในช่องปาก” หรือเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราที่อาศัยอยู่ในปากของเรา อาจมีบทบาทสำคัญมากกว่าที่เคยคิดกัน
งานวิจัยขนาดใหญ่ที่ชี้ให้เห็นความเชื่อมโยง
ทีมนักวิจัยทำการเก็บและวิเคราะห์ ตัวอย่างน้ำยาบ้วนปากจากผู้ใหญ่กว่า 300,000 คน ที่มีอายุระหว่าง 50–70 ปี พร้อมกับตรวจสอบข้อมูลสุขภาพระยะยาว พบว่าการมีอยู่ของเชื้อจุลินทรีย์บางชนิดในช่องปาก มีความสัมพันธ์โดยตรงกับความเสี่ยงที่สูงขึ้นในการเกิดมะเร็งตับอ่อน
ผลการค้นพบที่สำคัญ
แบคทีเรีย Porphyromonas gingivalis, Eubacterium nodatum, Parvimonas micra และเชื้อรา Candida tropicalis ถูกพบว่ามีความเชื่อมโยงกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 250 เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่มีเชื้อเหล่านี้
โดยรวมแล้ว นักวิจัยพบว่า จุลินทรีย์ในช่องปากกว่า 13 ชนิด มีความเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงที่สูงขึ้น ขณะเดียวกันก็มี อีก 8 ชนิด ที่กลับมีความสัมพันธ์กับความเสี่ยงที่ต่ำลง
สิ่งนี้สะท้อนว่า สมดุลของจุลินทรีย์ในช่องปาก เป็นปัจจัยสำคัญ หากเสียสมดุลอาจก่อให้เกิดโรค แต่หากอยู่ในภาวะสมดุลอาจช่วยปกป้องร่างกายได้
จุลินทรีย์เดินทางอย่างไรไปสู่ตับอ่อน?
แม้กลไกที่แน่ชัดยังอยู่ในระหว่างการศึกษา แต่มีข้อสันนิษฐานว่า จุลินทรีย์สามารถ เคลื่อนตัวจากช่องปากไปสู่ระบบทางเดินอาหาร ผ่านน้ำลายและอาหารที่เรากลืนลงไป จากนั้นอาจเข้าสู่กระแสเลือดหรือแพร่กระจายไปยังอวัยวะต่าง ๆ รวมถึงตับอ่อน
การที่จุลินทรีย์ไปถึงตับอ่อนอาจก่อให้เกิด การอักเสบเรื้อรัง หรือเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมของเซลล์ให้เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของมะเร็ง ซึ่งเป็นกลไกที่สอดคล้องกับหลักฐานจากงานวิจัยด้านจุลชีววิทยาการแพทย์
ทำไมการค้นพบนี้ถึงสำคัญ?
สิ่งที่ทำให้มะเร็งตับอ่อนเป็นโรคที่น่ากังวลคือ “การตรวจพบช้า” ซึ่งทำให้การรักษามีข้อจำกัด งานวิจัยครั้งนี้จึงชี้ให้เห็นว่า สุขภาพช่องปากอาจเป็นอีกหนึ่งกุญแจสำคัญ ในการเฝ้าระวังหรือแม้กระทั่งป้องกันมะเร็ง
หากในอนาคตแพทย์สามารถใช้ “ข้อมูลจุลินทรีย์ในช่องปาก” มาประเมินความเสี่ยงได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ ก็อาจช่วยให้ผู้ป่วยได้รับการตรวจวินิจฉัยและการดูแลอย่างทันท่วงที เพิ่มโอกาสรอดชีวิตได้มากขึ้น
ผลกระทบต่อสุขภาพในชีวิตประจำวัน
การค้นพบนี้ยังเป็นการตอกย้ำถึงความสำคัญของการดูแลสุขภาพช่องปากอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งไม่ได้จำกัดเพียงการป้องกันฟันผุหรือโรคเหงือกเท่านั้น แต่ยังอาจช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคร้ายแรงอย่างมะเร็งตับอ่อน
สิ่งที่ทุกคนสามารถทำได้ในชีวิตประจำวัน:
แปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ด้วยแปรงสีฟันและยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์
ใช้ไหมขัดฟันหรือแปรงซอกฟันทุกวัน เพื่อลดการสะสมของคราบจุลินทรีย์
พบทันตแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพช่องปากอย่างน้อยปีละ 1–2 ครั้ง
หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และการดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อทั้งโรคช่องปากและมะเร็งตับอ่อน
รักษาสมดุลอาหาร โดยเน้นผัก ผลไม้ และอาหารที่มีไฟเบอร์สูง
นักวิจัยจาก NYU Langone Health ยังวางแผนที่จะขยายการศึกษาไปถึง ไวรัสในช่องปาก ว่ามีบทบาทอย่างไรต่อความเสี่ยงของมะเร็งตับอ่อน ซึ่งหากพบความเชื่อมโยงที่ชัดเจน อาจเปิดโอกาสให้มีแนวทางการตรวจคัดกรองใหม่ ๆ ที่ง่ายและแม่นยำยิ่งขึ้นในอนาคต
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
