รีเซต

EASTWบุกโปรเจ็กต์ยักษ์อีอีซี ดีลลูกค้ารายใหม่หนุนโต

EASTWบุกโปรเจ็กต์ยักษ์อีอีซี ดีลลูกค้ารายใหม่หนุนโต
ทันหุ้น
5 มกราคม 2565 ( 10:51 )
1.2K
EASTWบุกโปรเจ็กต์ยักษ์อีอีซี ดีลลูกค้ารายใหม่หนุนโต

ทันหุ้น-EASTW เตรียมลุยโปรเจ็กต์ยักษ์ใน EEC เปิดตัวอย่างเป็นทางการปลายเดือนนี้ ลงทุน 2-3 พันล้านบาท หนุนรายได้เติบโตต่อเนื่อง ปี 65 รายได้ดีต่อเนื่อง ส่งน้ำให้ลูกค้า GULF และ AMATA พร้อมเจรจาลูกค้าใหม่อีกกว่า 7-8 ราย เผยโอกาส EEC ยังโตต่อเนื่อง โบรกภาพรวมด้านปัจจัยพื้นฐานยังเห็น การเติบโตของกำไรอย่างค่อยเป็นค่อยไปได้ในช่วง 1-3 ปีข้างหน้า อีกทั้งมีความโดดเด่นด้านการจ่ายปันผลสม่ำเสมอ ซึ่งคาดจะให้ Dividend Yield กว่า 4% ต่อปี ราคาเป้าหมาย 12.30 บาท

 

นายชรินทร์ โซนี่  ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายพัฒนาธุรกิจ บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ EASTW เปิดเผยว่าปี 2565 บริษัทคาดว่าผลประกอบการจะดีต่อเนื่อง โดยรายได้จะรักษาระดับใกล้เคียงปีก่อน  จากปริมาณขายน้ำจะอยู่ในระดับที่ดี จากปีก่อนที่มีปริมาณขายน้ำที่ 300 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งการเติบโตในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก จากการส่งเสริมการลงทุนของภาครัฐที่ทำให้มีโอกาสที่นักลงทุนเข้ามาลงทุนในพื้นที่ EEC มากขึ้น จะทำให้บริษัทมีโอกาสที่จะขายน้ำได้มากขึ้น ซึ่งบริษัทมีผู้ที่มีศักยภาพ และมีความเชี่ยวชาญในการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ EEC

 

EEC หนุนโต

 

ขณะที่ปี 2565 ก็มีการรับรู้รายได้จากบริหารจัดการน้ำให้ บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF มูลค่าตลอดอายุสัญญาอยู่ที่ประมาณ 6 พันล้านบาท ส่วนลูกค้าบริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) หรือ AMATA สามารถทยอยส่งน้ำได้ตามอายุสัญญาไม่มีปัญหาแต่อย่างใด

 

“ปี 2565 บริษัทยังมีโอกาสเติบโตต่อเนื่อง จากการลงทุนของลูกค้าในพื้นที่ EEC ทั้งลูกค้าเดิม และนักลงทุนที่จะเข้ามาลงทุนในพื้นที่ EEC มากขึ้นจากการส่งเสริมการลงทุนของภาครัฐ ดังนั้นมองว่ารายได้น่าจะรักษาระดับการเติบโตได้ดี  รวมไปถึงการรับรู้รายได้จากการขายน้ำให้แก่ลูกค้ารายใหญ่ซึ่งจะเข้ามาสนับสนุนรายได้ปีนี้ด้วย ส่วนโครการใหม่ๆ บริษัทก็มีการพิจารณาการลงทุนคาดว่าจะได้ข้อสรุปปลายเดือนมกราคมนี้ “นายชรินทร์ กล่าว

 

นอกจากนี้บริษัทยังอยู่ระหว่างการเตรียมขยายการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ในพื้นที่ EEC ทั้ง 3 จังหวัด จังหวัดฉะเชิงเทรา จังหวัดชลบุรี และจังหวัดระยอง มูลค่าการลงทุนประมาณ 2,000-3,000 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ได้มีการเจรจากับลูกค้าไว้หมดแล้ว โดยโครงการดังกล่าวจะใช้ระยะเวลาในการก่อสร้างประมาณ 1 ปี และจะสร้างรายได้ให้แก่บริษัทอย่างมีนัยสำคัญในปี 2566 ทำให้รายได้ปี 2566 มีโอกาสเติบโตอย่างมาก ขณะเดียวกันยังอยู่ระหว่างเจรจากับลูกค้าใหม่อีกว่า 7-8 ราย และปี 2565 บริษัทมีการปรับกลยุทธ์มีการเข้าไปศึกษาพฤติกรรมความต้องการใช้น้ำในเชิงลึกของลูกค้ามากขึ้น เพื่อให้สามารถเข้าในถึงภาพรวมการใช้น้ำของลูกค้า เพื่อปรับกลยุทธ์การขายน้ำให้ตรงแก่ความต้องการของลูกค้าแต่ละรายมากที่สุด

 

กำไรปี 2565-66 แกร่ง

 

บริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ระบุถึง EASTW คาดกำไรไตรมาส 4/2564 จะโตต่อเนื่องจากช่วงเดียวกันปีก่อน จากฐานต่ำในไตรมาส 4/2563 และไตรมาสก่อนหน้า จะเติบโตเช่นกัน เพราะกิจกรรมทางเศรษฐกิจบริเวณชายฝั่งทะเลตะวันออกกลับมาเดินหน้าต่อทันทีหลังคลายล็อกดาวน์ (ยอดขายน้ำดิบใน ต.ค. เพิ่มขึ้น 5% จากเดือนก่อนหน้า เป็น 19.4 ล้านลูกบาศก์เมตร) คงคำแนะนำ “ซื้อ” และราคาเป้าหมายที่ 12.60 บาท อิงวิธีคิดลดเงินสด (DCF) คิดเป็น 13.8xPE’22E. ที่ยังแนะนำซื้อเพราะสถานะเจ้าตลาดในพื้นที่โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ขณะที่คาดว่ากำไรของบริษัทจะเติบโตแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องในปี 2565 -2566

 

ขณะที่บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน) ปรับไปใช้ราคาเป้าหมายปี 2565 อยู่ที่ 12.30 บาทต่อหุ้น ภาพรวมด้านปัจจัยพื้นฐานยังเห็นการเติบโตของกำไรอย่างค่อยเป็นค่อยไปได้ในช่วง 1-3 ปีข้างหน้า อีกทั้งมีความโดดเด่นด้านการจ่ายปันผลสม่ำเสมอ ซึ่งคาดจะให้ Dividend Yield กว่า 4% ต่อปี และปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 2564 ขึ้น 7.4% จากเดิมมาอยู่ที่ 1.1 พันล้านบาท

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง