วัยรุ่น อายุต่ำกว่า 20 ปี "ฝังยาคุมกำเนิด-ห่วงอนามัย" ฟรีได้ทุกสิทธิ
วันนี้( 21 พ.ย.64) นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า วัยรุ่นที่อายุต่ำกว่า 20 ปี มีสิทธิสามารถเข้ารับการคุมกำเนิดฟรีทุกวิธี รวมถึงยาฝังคุมกำเนิดและห่วงอนามัยที่โรงพยาบาลเครือข่ายของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ทั้งภาครัฐและเอกชน ตามพระราชบัญญัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น พ.ศ. 2559
โดยที่ผ่านมากรมอนามัยได้ร่วมกับ สปสช. ส่งเสริมการเข้าถึงบริการยาฝังคุมกำเนิดและห่วงอนามัยสำหรับวัยรุ่นอายุต่ำกว่า 20 ปี ที่ต้องการคุมกำเนิด ทุกสิทธิสุขภาพ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และสามารถเข้ารับบริการได้ที่สถานบริการในเครือข่ายของ สปสช. ทั่วประเทศ ซึ่งจะเป็นช่องทางหนึ่งในการช่วยลดปัญหาแม่วัยรุ่นได้
ทั้งนี้ ยาฝังคุมกำเนิด เป็นวิธีการควบคุมกำเนิดแบบกึ่งถาวรที่มีประสิทธิภาพสูง มี 2 ชนิด ได้แก่ ยาฝังคุมกำเนิด ชนิด 1 หลอด จะคุมกำเนิดได้นาน 3 ปี และยาฝังคุมกำเนิด ชนิด 2 หลอด จะคุมกำเนิดได้นาน 5 ปี
ทั้งนี้ จะฝังใต้ผิวหนังบริเวณท้องแขนและถอดออกเมื่อครบกำหนด ซึ่งข้อดีของยาฝังคุมกำเนิด ได้แก่
1) สะดวก มีประสิทธิภาพสูง และคุมกำเนิดได้นาน
2) ไม่รบกวนการมีเพศสัมพันธ์ หรือการใช้ชีวิตประจำวัน
3) ไม่ต้องกังวล เรื่องการตั้งครรภ์ หรือปัญหาลืมกินยาเม็ดคุมกำเนิด
4) ใช้ในสตรีให้นมบุตรได้ โดยไม่มีผลต่อปริมาณ และคุณภาพของน้ำนม เมื่อหยุดการใช้ยาฝังคุมกำเนิดจะสามารถกลับสู่ภาวะเจริญพันธุ์ได้เร็ว
การฝังยาคุมกำเนิดอาจมีอาการข้างเคียง ได้แก่ ปวดศรีษะ คลื่นไส้ ประจำเดือนมากะปริดกะปรอย เป็นสิว และอารมณ์แปรปรวนได้บ้าง ซึ่งส่วนใหญ่จะหายได้เองภายใน 6 เดือน หากผู้รับบริการยาฝังคุมกำเนิดมีเลือดออกผิดปกติ ปวดศรีษะมาก มีความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะขาดประจำเดือน หรือประจำเดือนมากะปริดกะปรอย สามารถขอรับคำปรึกษาและการรักษาได้จากผู้ให้บริการ
สำหรับวัยรุ่นที่ท้องไม่พร้อมและยังหาทางออกกับปัญหาไม่ได้ สามารถโทรไปปรึกษาดูแลช่วยเหลือตามสภาพปัญหาที่สายด่วน 1663 ตั้งแต่เวลา 09.00 – 21.00 น. ได้ทุกวัน เพื่อรับบริการปรึกษาทางเลือกและส่งต่อดูแล รวมทั้งการให้บริการแนะแนวทางการคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพ
ข้อมูลจาก กรมอนามัย
ภาพจาก กรมอนามัย/AFP