BCPบุ๊กESSOเข้าพอร์ตQ4 จัดหมื่นล.ต่อยอดน้ำมันเจ็ท

BCP เผยดีลควบ ESSO คืบหน้า คาดบุ๊กงบเข้าพอร์ตได้ช่วง Q4 นี้ บิ๊ก "ชัยวัฒน์ โควาวิสารัช" เดินหน้าทุ่มงบ 1 หมื่นล้านบาท ลุยโรงงาน SAF หวังต่อยอด-อัพฐานน้ำมันอากาศยานเพิ่ม ชี้หากลุล่วงช่วยหนุนความเป็นกลางทางคาร์บอน ภายในปี 2573
นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจากและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP เปิดเผยถึง การควบรวมกิจการกับทาง บริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ ESSO ถือว่าคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันอยู่ระหว่างรอความชัดเจนด้านความเห็นชอบตามหลักเกณฑ์เกี่ยวกับกฎหมายการแข่งขันทางการค้า โดยตามกระบวนการคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (กขค.) จะใช้เวลาในการพิจารณาอีก105 วัน หรือน่าจะได้ข้อสรุปในส่วนนี้ช่วงเดือนกรกฎาคม2566
จ่อบุ๊ก ESSO
ทั้งนี้ ภายหลังจากคณะกรรมการขั้นต้นพิจารณาเสร็จสิ้น ซึ่งขั้นตอนต่อไปจะเป็นการสรุปราคาเข้าทำรายการซื้อหุ้นESSO จากทางผู้ถือหุ้นเดิม โดยน่าจะได้ความชัดเจนภายหลังการประกาศงบการเงินสิ้นไตรมาส2/2566 และสู่ขั้นตอนอื่นๆ ซึ่งหากทุกอย่างสำเร็จตามที่วางไว้คาดบริษัทเริ่มรับรู้งบการเงินของESSO เข้ามาในบริษัทได้ในไตรมาส4/2566
ขณะเดียวกันล่าสุดบริษัท บีเอสจีเอฟ จำกัด (บริษัทร่วมทุน ระหว่าง บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน),บริษัท บีบีจีไอ จำกัด (มหาชน) และบริษัท ธนโชค ออยล์ ไลท์ จำกัด) ได้มีแผนทุ่มเงินลงทุนราว 1 หมื่นล้านบาท เพื่อก่อสร้างหน่วยผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน จากน้ำมันพืชใช้แล้วSAF รายแรกและรายเดียวในประเทศไทย เพื่อเป็นต่อยอดธุรกิจน้ำมันอากาศยานเพิ่มเติม
ลุยต่อยอด SAF
สำหรับหน่วยผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืนSAF ในโรงกลั่นน้ำมันบางจาก จะใช้เทคโนโลยีใน การปรับสภาพน้ำมันพืชใช้แล้ว(Pre-Treatment) ของบริษัทDesmet ประเทศมาเลเซีย โดยรวบรวมน้ำมันพืช ใช้แล้วจากครัวเรือนและภาคธุรกิจผ่านโครงการ “ทอดไม่ทิ้ง” และช่องทางอื่นๆ และเทคโนโลยีกระบวนการกำจัด ออกซิเจน ปรับเปลี่ยนโครงสร้างและแตกโมเลกุลด้วยไฮโดรเจนด้วยUOP Ecofining Technology ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่เป็นโซลูชันที่มีประสิทธิภาพสำหรับการผลิตเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืนของบริษัทHoneywell UOP ประเทศสหรัฐอเมริกา มีกําลังการผลิต1,000,000 ลิตรต่อวัน
คาดว่าจะสามารถเริ่มผลิตน้ำมันเชื้อเพลิง อากาศยานยั่งยืนได้ภายในไตรมาส 4 ปี 2567 และน่าจะช่วยสัดส่วนสนุนสัดส่วนกำลังผลิตในส่วนน้ำมันอากาศยานเพิ่มขึ้นอีก5% จากเดิมที่ราว 15% ของพอร์ตรวม และผลักดันให้รายได้จากกลุ่มดังกล่าวเติบโตตามไปด้วย
อย่างไรก็ดี การก่อสร้างหน่วยผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืนจากน้ำมันพืชใช้แล้วSAF เป็นการร่วมสนับสนุน ภาคอุตสาหกรรมการบินในการลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศตามแผนขององค์การการบิน พลเรือนระหว่างประเทศ(International Civil Aviation Organization) ซึ่งทั่วโลกกำลังให้ความสำคัญกับSAF เป็นอย่างมากในฐานะเชื้อเพลิงสำคัญที่จะช่วยบรรลุเป้าหมายลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ เช่น เมื่อปีที่แล้ว สหรัฐอเมริกา ได้กำหนดกฎหมายลดอัตราเงินเฟ้อ(Inflation Reduction Act of 2022 - IRA) สร้างแรงจูงใจและสนับสนุนผู้ผลิตด้วยการกำหนดภาษีในการผลิต1.75 ดอลลาร์สหรัฐต่อแกลลอน
ในขณะที่ประเทศในทวีปยุโรป มีการใช้มาตรการบังคับให้ผสมSAF ลงไปในน้ำมันอากาศยานทั่วไปในสัดส่วนอย่างน้อย2% ในปี 2568 และกำหนดให้เพิ่มเป็น 5% ในปี 2573 จนถึงปี 2593 ที่ต้องผสมอยู่ที่70% ส่วนประเทศญี่ปุ่นก็ตั้งเป้าหมายให้ เครื่องบินสำหรับเที่ยวบินระหว่างประเทศที่ใช้สนามบินญี่ปุ่นจะต้องมีสัดส่วนการใช้SAF อยู่ที่ 10% ภายในปี2573
นอกจากนี้ โครงการ SAF ยังเป็นอีกหนึ่งก้าวและแรงสนับสนุนที่จะสะท้อนรูปธรรมที่ชัดเจนของการดำเนินงาน ตามแผน BCP 316 NET ของบางจาก เพื่อไปสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ในปี 2573
ยอดนิยมในตอนนี้
