รีเซต

เปิดศักราช"Cryptocurrency"หลัง"Bitkub"เบิกทางด้วยตำแหน่งยูนิคอร์นตัวใหม่

เปิดศักราช"Cryptocurrency"หลัง"Bitkub"เบิกทางด้วยตำแหน่งยูนิคอร์นตัวใหม่
TNN ช่อง16
30 พฤศจิกายน 2564 ( 19:39 )
198
เปิดศักราช"Cryptocurrency"หลัง"Bitkub"เบิกทางด้วยตำแหน่งยูนิคอร์นตัวใหม่

กลายเป็นกระแสฮือฮาในวงการ Cryptocurrency (สินทรัพย์ดิจิทัล ) อย่างมาก หลังจากที่ บล.ไทยพาณิชย์ ได้กระโดดเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้น กับบริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด หรือ Bitkub  ผู้ให้บริการซื้อขายเงินดิจิทัลอันดับต้นๆของไทย  ซึ่งนับเป็นดีลใหญ่ของวงการสินทรัพย์ดิจิทัลไทย และเป็น "บิ๊กเซอร์ไพรส์" แบบสุดๆของแวดวงคริปโทฯเลยก็ว่าได้ เพราะได้ทำให้ บิทคับ กลายมาเป็น ยูนิคอร์น สตาร์ทอัพ ตัวใหม่ของไทย  จนทำให้ขณะนี้  บิทคับ ก็ดูเหมือนจะเนื้อหอม บรรดาธุรกิจชั้นแนวหน้าในไทยต่างก็รุมจีบ และที่ผ่านมาก็มีดีลธุรกิจเกิดขึ้นแล้วหลายๆดีล กลายเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญที่ทำให้สินทรัพย์ดิจิทัลได้รับความสนใจอย่างกว้างขวางมากขึ้น
 

ภาพจาก :พีอาร์  บล.ไทยพาณิชย์

หากจะให้เห็นภาพกันชัดเจนมากขึ้น ก็ยกตัวอย่างเช่น  ล่าสุด บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ฯ และ บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ปฯ ได้ร่วมทุนจัดตั้ง "บริษัท บิทคับ เอ็ม จำกัด" (Bitkub M. Company Limited)  Bitkub  ในสัดส่วน 50:50 เพื่อร่วมลงทุนและบริหาร บิทคับ เอ็ม โซเชียล ( BITKUB M SOCIAL) ให้เป็นดิจิทัลคอมมูนิตี้ (Digital Communiy) แห่งแรกของเมืองไทย ซึ่ง BITKUB M SOCIAL นี้จะเป็นโมเดลสำคัญซึ่งจะมีส่วนช่วยในการส่งเสริมภาคธุรกิจ การลงทุนทางด้านจิทัล สร้างงานสร้างอาชีพ สนับสนุน สตาร์ทอัพ (Startup) และผู้ประกอบการรุ่นใหม่ (Entrepreneur Economy) มีศูนย์การเทรดและการแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Trading & Exchange) รวมทั้งมี NFT Gallery & Gaming รวมไปถึงการเข้าถึง METAVERSE ที่กำลังเป็นกระแสกันอยู่ในตอนนี้ด้วย

แม้ว่า บิทคับ Bitkub  จะสร้างกระแสและทำให้หลายธุรกิจตื่นตัวกับ สินทรัพย์ดิจิทัล มากขึ้น แต่ก่อนหน้านี้ก็มีกลายธุรกิจที่เริ่มเล็งเห็นโอกาสและช่องทางใหม่ๆให้กับธุรกิจ อย่างเช่น กลุ่มเซ็นทรัล ภายใต้ บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) โดยมี “Central Tech” เป็นเจ้าภาพในการพัฒนาสกุลเงินดิจิทัล “C-Coin” ทดลองใช้กับพนักงานในเครือกว่า 1,000 ราย ที่จะได้รับ "C-Coin" เป็นโบนัสพิเศษ และสามารถใช้ซื้อสินค้าและบริการจากร้านค้าภายในเครือเซ็นทรัลได้ โดยขณะนี้ C-Coin แซนด์บ็อกซ์ อยู่ระหว่างกระบวนการเรียนรู้ พัฒนาประสิทธิภาพสูงสุด โดยจะทยอยขยายการใช้ครอบคลุมพนักงานกลุ่มเซ็นทรัลทั่วโลกกว่า 80,000 คน ในประเทศไทย เวียดนาม และอิตาลี เป็นการเตรียมพร้อมสำหรับ “พนักงาน” เพื่อรองรับการใช้ของลูกค้าในอนาคตเมื่อพร้อม 100%

ภาพประกอบ : bitkub.com

ด้าน กลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์  เจ้าของและผู้บริหารศูนย์การค้ากลุ่มวันสยาม  ก็เล็งเห็นถึงโอกาสการก้าวเข้ามาลงเล่นในสนามคริปโทฯ อีกราย  ซึ่งเป้าหมายใหญ่ก็คือการขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มคนรุ่นใหม่ และผู้ลงทุนในโลกดิจิทัล หรือ เทรดออนไลน์ (Trade Online) ที่มีกำลังซื้อสูง  โดยสยามพิวรรธน์ เลือกจับมือพันธมิตรผู้เชี่ยวชาญอย่าง ซิปเม็กซ์ (ZIPMEX) ผู้ให้บริการด้านการลงทุนและสินทรัพย์ดิจิทัลผ่านแพลตฟอร์ม “ZIPMEX” ที่นับว่าเติบโตเร็วที่สุดในเอเชียแปซิฟิก ทั้งยังเป็นแพลตฟอร์มซื้อขาย แลกเปลี่ยน ที่ได้รับใบอนุญาตจากกระทรวงการคลังและสำนักงาน ก.ล.ต. ในการพัฒนาธุรกิจร่วมกันในรูปแบบ Collaborate to Innovate และได้ชูจุดแข็ง“ศูนย์การค้า”ในเครือที่ครองความเป็นที่หนึ่งในใจของลูกค้าคนไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ

ขณะที่ ศูนย์การค้า“ซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์” ได้เปิดพื้นที่โซน MUNx2 (มัน มัน) แหล่งรวมคนรุ่นใหม่อินเทรนด์ โดยได้ร่วมกับพันธมิตรเปิดตัวคาเฟ่ที่ใช้จ่ายผ่านสกุลเงินดิจิทัล “The Moon : Crypto & NFT Café” แห่งแรก เป็นคอมมูนิตี้สำหรับคนรุ่นใหม่ให้เข้ามาสัมผัสและเรียนรู้โลกคริปโทฯ  บนพื้นที่ Co-Trading Space ซึ่งจะมีข้อมูลเกี่ยวกับเหรียญต่าง ๆ ให้เลือกเทรด แกลลอรี่งานศิลปะที่ลอกเลียนแบบไม่ได้ หรือ NFT Gallery การลงทุนในการขุดเหรียญคริปโทฯ จาก EVO project และ Cafe รูปแบบคริปโทฯ จาก I Learn A Lot ต่างๆ


ในวงการอสังหาริมทรัพย์บ้านเราก็ไม่น้อยหน้า บมจ.เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ (MJD) ผู้พัฒนาโครงการอสังหาฯระดับลักชัวรี่ ก็ได้ร่วมมือกับบริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด หรือ Bitkub ในรูปแบบของการเพิ่มทางเลือกใหม่ให้ผู้บริโภคสามารถเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ระดับลักชัวรี่ด้วยคริปโทเคอเรนซีจากการที่บริษัทได้มองเห็นช่องทางและโอกาส ด้วยปัจจุบันผู้บริโภคจำนวนมากผันตัวเป็นนักลงทุนคริปโทเคอร์เรนซีและได้รับผลตอบแทนจากมูลค่าที่ไต่ระดับขึ้น ซึ่งผู้บริโภคกลุ่มนี้มองเป็นผู้บริโภคศักยภาพที่มีแนวโน้มจะนำเงินก้อนใหญ่มาซื้อที่อยู่อาศัยทั้งเพื่อการอยู่อาศัยและเพื่อกระจายพอร์ตการลงทุน  โดยรองรับการใช้คริปโทฯในการจอง วางเงินดาวน์ และชำระเพื่อโอนกรรมสิทธิ์คอนโดมิเนียม ด้วยเหรียญคริปโทเคอเรนซี่ 3 สกุล ได้แก่ บิทคอยน์ (Bitcoin - BTC) อีเธอเรียม (Ethereum - ETH) และเทเทอร์ (Tether USD - USDT) ในการซื้อโครงการระดับลักซูรีและไฮเอนด์ โดยฟรีค่าธรรมเนียม เริ่มเปิดให้ใช้บริการ 1 ธ.ค. 64 นี้ 

หรือทางด้าน  ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ หรือ ORI ที่ก่อนหน้านี้ ได้เปิดรับชำระค่าบ้านด้วยสกุลเงินดิจิทัล 3 สกุล คือ Ethereum Tether และ Bitcoin โดยผู้ซื้อสามารถชำระผ่าน Wallet จากบัญชี Bitkub  ล่าสุด ออริจิ้น  ก็มีแผนที่จะออกโทเคนที่พร้อมใช้ แต่จะนำร่องใช้ในระบบนิเวศของ ออริจิ้น ก่อนยังไม่ได้มีแผนที่จะนำไปซื้อขายในตลาดรอง โดยคาดว่าน่าจะออกในช่วงเดือนมกราคม ปี 2565 นี้ 


ส่วนบริษัท เอ็กซ์สปริง ดิจิทัล จำกัด (XSpring Digital) บริษัทที่มีความเชี่ยวชาญด้านการแปลงสินทรัพย์เป็นโทเคนดิจิทัล  ล่าสุด ได้เพิ่มสัดส่วนการเพิ่มทุนจากเดิมถือหุ้น 3,094 ล้านบาท เพิ่มอีก 7,111 ล้านบาท ทำให้บริษัทฯ มีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งและมีสภาพคล่องทางการเงินสูงด้วยเงินทุนในมือกว่า 10,000 ล้านบาท ล่าสุดบริษัทผ่านการรับรองเป็นผู้ให้บริการระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัลในประเทศไทย (ICO Portal) และได้เสนอขาย “โทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนสิริฮับ” (SiriHub Investment Token) ซึ่งเป็น Real Estate-backed ICO ตัวแรกของไทยที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แก่สาธารณชนแล้ว


ไม่เว้นแม้แต่ ร้านกาแฟอินทนิล ภายใต้การดำเนินงานของ บริษัท บางจาก รีเทล จำกัด ที่เตรียมรับชำระด้วย คริปโทเคอเรนซี่ โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2564 เป็นต้นไป  ถือว่าเป็น Chain Store Coffee ที่รับชำระค่าสินค้าด้วย คริปโทฯ  รายแรกในไทยโดยจะประเดิมก่อน 21 สาขา รองรับคริปโตฯ ใน 3 เหรียญยอดนิยม ได้แก่ บิตคอยน์ (Bitcoin/BTC), อีเทอเรียม (Ethereum/ETH) และเทเทอร์ (Tether/USDT) ผ่าน บิทาซซ่า (Bitazza) Digital Asset Platform รายแรก ที่แปลงคริปโทฯ เป็นเงินบาท ทำให้ร้านค้าสามารถรับรู้รายได้ที่แน่นอน ไม่ผันแปรไปตามอัตราแลกเปลี่ยน

ภาพประกอบจาก : inthanincoffee.com


ย้อนกลับมาที่ บิทคับ  Bitkub อีกรอบ จากกระแสต่างๆที่มีมาเรื่อยๆ อีกทั้งการเข้ามาของไทยพาณิชย์ การปิดดีลกับหลายๆเจ้าที่มีมาต่อเนื่อง ได้เสริมความแข็งแกร่งให้กับยูนิคอร์นน้องใหม่ ซึ่งเป็นผลให้  KUBCOIN  โทเคนที่บิทคับเป็นผู้พัฒนา ราคาพุ่งไปถึงกับแตะ 500 บาท/คอยน์มาแล้ว และยังเป็นที่จับตาว่า  KUBCOIN แนวโน้มจะเป็นอย่างไร ราคาจะพุ่งไปถึงไหน มีบางกระแสบอกว่าราคาจะวิ่งทะลุ 1,000 บาท หรือเพิ่มขึ้นจากราคาปัจจุบันกว่า 100% ซึ่งมีทั้งความเป็นไปได้และเป็นไปไม่ได้สูง แต่ที่แน่ๆคือมูลค่ารวมตลาดขยับขึ้นเป็น 50,000 ล้านบาทไปแล้ว 

ภาพประกอบจาก : www.bitkub.com/market/KUB

จะเห็นได้ว่าตลาดคริปโทเคอเรนซีหรือ สินทรัพย์ดิจิทัลในบ้านเรา ค่อยๆเปิดกว้างขึ้น ด้วยไลฟ์สไตล์ของวัยรุ่นหรือนักลงทุนที่ส่วนใหญ่อยู่ในเจเนอเรชั่นใหม่ พร้อมที่จะเปิดรับและตามทันเทคโนโลยี ไม้เว้นแม้แต่โลกของการลงทุน ประกอบกับการมองเห็นโอกาสของกลุ่มรุ่นเก๋าหรือเกือบเก๋าก็ตาม ที่เขาพร้อมจะปรับตัวและปรับธุรกิจให้ก้าวทันยุคดิจิทัล จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไม  Bitkub จึงยังเป็นกระแส ราคา KUBCOIN ก็ดูจะล่อตาล่อใจเหล่าแมงเม่าเอามากๆ  เป็นที่น่าจับตากันต่อว่า บิทคับ จะสร้างปรากฏการณ์ในวงการตลาดคริปโทฯอีกหรือไม่



ข้อมูล: บิทคับ , บล.ไทยพาณิชย์  ,บางจาก รีเทล  , เอ็กซ์สปริง ดิจิทัล ,ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้,เดอะมอลล์ กรุ๊ปฯ ,บมจ.เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ , เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น  

ภาพประกอบ :AFP 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง