การใช้เฮลิคอปเตอร์เป็นยานพาหนะทั่วโลกกำลังได้รับความนิยมมากขึ้นในหลายพื้นที่รวมถึงสหรัฐอเมริกา และเพื่อให้การใช้งานปลอดภัยและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น โรเตอร์ เทคโนโลยี (Rotor Technologies) สตาร์ตอัปด้านเฮลิคอปเตอร์ในรัฐนิวแฮมเชียร์ของสหรัฐฯ จึงได้พัฒนาเฮลิคอปเตอร์ไร้คนขับแบบใหม่สำหรับการใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวัน

ข้อมูลเฮลิคอปเตอร์ไร้คนขับจากสหรัฐอเมริกา

ตัวเฮลิคอปเตอร์ไร้คนขับมีชื่อว่า อาร์ ไฟฟ์ ฟิฟตี้ เอกซ์ (R550X) พัฒนามาจากเฮลิคอปเตอร์ โรบินสัน อาร์ ฟอร์ตี้โฟร์ (Robinson R44) เฮลิคอปเตอร์แบบ 4 ที่นั่ง ซึ่งเป็นหนึ่งในเฮลิคอปเตอร์รุ่นที่ขายดีที่สุดในโลก โดยทาง Rotor Technologies ได้เพิ่มพื้นที่ภายในสำหรับใช้รองรับการขนสิ่งของในเฮลิคอปเตอร์ไร้คนขับ R550X ให้มากกว่าตัวต้นแบบถึง 2 เท่า สามารถบินต่อเนื่องได้มากกว่า 3 ชั่วโมง ด้วยความเร็วสูงสุดประมาณ 240 กิโลเมตรต่อชั่วโมง รองรับการขนของได้มากสุด 550 กิโลกรัม

ตัวเครื่องติดตั้งระบบการบินอัตโนมัติ ที่ประกอบไปด้วยกล้องสแกนพื้นที่ (LiDAR) แบบ 360 องศา ติดตั้งส่วนบนของห้องนักบิน พร้อมกล้อง LiDAR อีกตำแหน่ง ด้านล่างห้องนักบินสำหรับสแกนพื้นเวลาลงจอด พร้อมติดตั้งกล้องสำรวจสภาพภายนอก ตัววัดระดับ (Gimbal) เซนเซอร์ และกล่องดำ (Black Box) สามารถสั่งการและควบคุมได้ไกล 16 กิโลเมตร จากศูนย์ดาวเทียมสั่งการภาคพื้นดิน หรือมากกว่า 1,600 กิโลเมตร เมื่อใช้ระบบสัญญาณแบบ LTE (Long Term Evolution) หรือที่คุ้นชื่อในระบบสื่อสารโทรศัพท์มือถือสัญญาณ 4G 

โดยมีระบบป้องกันการขาดการติดต่อ โดยตั้งค่าให้สามารถบินรักษาระดับรอการเชื่อมต่อจากศูนย์ฯ อื่น หรือตั้งให้บินกลับมายังลานจอดโดยอัตโนมัติ และระบบฉุกเฉินที่ลงจอดได้ด้วยตัวเอง พร้อมระบบสำรองเป็นการควบคุมด้วยจอยสติ๊ก (Joystick) ซึ่งใช้การควบคุมแบบไฟฟ้า (Fly-by-wire system) ด้วยนักบิน ทำให้ผู้ใช้มั่นใจว่าตัวเครื่องและผู้โดยสารจะปลอดภัยแม้ว่าระบบไร้คนขับจะเกิดปัญหาก็ตาม 

ประโยชน์และการเปิดตัวเฮลิคอปเตอร์ไร้คนขับจากสหรัฐอเมริกา

ปัจจุบัน R550X อยู่ระหว่างการทดสอบและยื่นขอใบอนุญาตจากองค์การบริหารการบินแห่งชาติ หรือ FAA (Federal Aviation Administration) โดยก่อนหน้านี้ทางบริษัทได้บินทดสอบกับตัวต้นแบบรวมกว่า 20 ชั่วโมงบิน ไปยัง 9 สถานที่ ในรัฐนิวแฮมเชียร์ (New Hampshire), ไอดาโฮ (Idaho) และโอเรกอน (Oregon) ประเทศสหรัฐอเมริกา พร้อมขออนุญาตเพื่อทำการทดสอบในอีกหลายประเทศทั่วโลกแล้ว

ทั้งนี้ ทาง Rotor Technologies ระบุว่า R550X สามารถประยุกต์ใช้ในหลากหลายสถานการณ์ เช่น การพ่นยาในแปลงเกษตร การใช้ส่งสินค้าข้ามไปยังนอกชายฝั่งระยะสั้น รวมถึงใช้บรรเทาสาธารณภัยอย่างเหตุการณ์ไฟไหม้ โดยมีต้นทุนที่ต่ำกว่าการใช้เฮลิคอปเตอร์ทั่วไป แต่ยังไม่มีรายละเอียดอื่น ๆ เพิ่มเติมในปัจจุบัน ซึ่งจะมีการเปิดเผยข้อมูลอื่น ๆ อีกครั้งหลังเริ่มแผนการตลาดในปี 2024 นี้

ที่มาข้อมูล New Atlas

ที่มารูปภาพ Rotor Technologies