รีเซต

อย.ขึ้นทะเบียนชุดตรวจฝีดาษลิง รับสถานการณ์ระบาดขยายทั่วโลก

อย.ขึ้นทะเบียนชุดตรวจฝีดาษลิง รับสถานการณ์ระบาดขยายทั่วโลก
TNN ช่อง16
22 สิงหาคม 2567 ( 12:10 )
12
อย.ขึ้นทะเบียนชุดตรวจฝีดาษลิง รับสถานการณ์ระบาดขยายทั่วโลก

ภก.เลิศชาย เลิศวุฒิ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า ภายหลังองค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ประกาศให้โรคฝีดาษลิงเป็นสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ ทางอย.ได้เตรียมความพร้อมขึ้นทะเบียนชุดตรวจวินิจฉัยการติดเชื้อฝีดาษลิง (MPOX) เพื่อรองรับสถานการณ์ โดยจัดทำแนวทางการประเมินด้านคุณภาพ มาตรฐาน และความปลอดภัยของชุดตรวจวินิจฉัยฝีดาษลิง  มีเป้าหมายเพื่อให้ผู้ผลิตและผู้นำเข้าชุดตรวจสามารถจัดเตรียมเอกสารที่จำเป็นได้อย่างถูกต้องและสอดคล้องกับข้อกำหนด เ เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงการวินิจฉัยโรคได้อย่างทั่วถึงและรวดเร็ว ทั้งนี้ อย. ได้มีการขึ้นทะเบียนชุดตรวจการติดเชื้อฝีดาษแล้ว โดยสามารถตรวจสอบผลิตภัณฑ์ได้ทางเว็บไซต์ของอย. https://medical.fda.moph.go.th/


รองเลขาธิการ อย. กล่าวเพิ่มเติมว่า การมีชุดตรวจที่มีคุณภาพมาตรฐานในประเทศ จะช่วยลดภาระด้านสาธารณสุขในระยะยาว ด้วยการควบคุมและยับยั้งการแพร่ระบาดได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น ซึ่งการตรวจพบและรักษาได้อย่างรวดเร็วจะช่วยลดจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ ป้องกันการแพร่กระจายของโรคสู่ชุมชน ทำให้ระบบสาธารณสุขของไทยมีความมั่นคงและพร้อมรับมือกับสถานการณ์โรคฝีดาษลิงในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น


ด้านนายแพทย์ธงชัย  กีรติหัตถยากร อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า มาตรการเฝ้าระวังป้องกันโรคหลังไทยพบผู้ป่วยต้องสงสัยผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงสายพันธุ์ใหม่ เคลดวันบี (Clade 1B) เป็นรายแรกซึ่งเป็นชาวต่างชาติเดินทางมาจากประเทศแถบแอฟริกา ทางกรมควบคุมโรคได้ออกข้อกำหนดให้  6 ประเทศในทวีปแอฟริกาที่มีการระบาดในขณะนี้ ได้แก่ คองโก ยูกันดา รวันดา บุรุนดี  เคนยา และโกตดิวัวร์ ต้องลงทะเบียนผ่านระบบ Thai Health Pass และต้องผ่านกระบวนการคัดกรองกับเจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศฯ


ส่วนผู้สัมผัสใกล้ชิดกับชายชาวต่างชาติที่ติดเชื้อ  จำนวน 43 คน ได้รับทราบถึงข้อมูลแล้ว ทางเจ้าหน้าที่กรมควบคุมโรคได้มีการแจ้ง ให้เฝ้าสังเกตอาการภายในสถานที่พำนัก


ทั้งนี้การติดเชื้อหรือแพร่เชื้อ ฝีดาษลิงสายพันธุ์ เคลดวันบี  ที่ดูเหมือนติดง่ายกว่าสายพันธุ์ก่อนหน้านี้ สามารถติดได้จากการสัมผัสใกล้ชิด  สารคัดหลั่ง ของผู้ที่มีเชื้อ เช่น น้ำมูก น้ำลาย ตุ่ม หนอง ผื่น การกอด สัมผัสกัน อยู่ในบ้านเดียวกันเป็นระยะเวลานาน แต่โดยส่วนใหญ่ผู้ป่วยฝีดาษลิง  ไม่ค่อยมีอาการไอ จาม มากเหมือนผู้ป่วยโควิด-19  หากประชาชนมีการป้องกันสุขอนามัย อย่างเคร่งครัด  รวมถึงหลีกเลี่ยง การมีเพศสัมพันธ์กับคนแปลกหน้า ก็จะสามารถช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อฝีดาษลิงได้ ไม่ว่าจะสายพันธุ์ไหนก็ตาม และประชาชนไม่ควรตื่นตระหนกจนเกินไป เนื่องจากอัตราการ ติดเชื้อและแพร่เชื้อในประเทศไทยค่อนข้างที่จะต่ำ และขอให้มั่นใจระบบเฝ้าระวังป้องกันโรคของไทย

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง