รีเซต

HFTเล็งซื้อกิจการแบรนด์ดัง ยางฮอตเพิ่มราคาดันมาร์จิ้น

HFTเล็งซื้อกิจการแบรนด์ดัง ยางฮอตเพิ่มราคาดันมาร์จิ้น
ทันหุ้น
4 มีนาคม 2565 ( 07:08 )
97

 

#HFT #ทันหุ้น – HFTแย้มแผนซื้อกิจการแบรนด์ดังต่อยอดชี้อยู่ในขั้นตอนเจรจา ขณะที่ธุรกิจยาง 2 ล้อดีมานด์กระฉูดผลพวงยุโรปหนุนหนักใช้จักรยาน-อี-ไบค์ลดโลกร้อน ทั้งลดภาษีสนับสนุนเงิน รับเป็นตลาดของผู้ขาย เดินหน้าขึ้นราคาตามต้นทุนที่เพิ่มขึ้นไตรมาส 2 ดันมาร์จิ้นแตะ 24% พร้อมเพิ่มกำลังผลิตอีก ยืนยันปันผลสูงยิลด์ทะลุ 5%

 

นายจวง จื้อ เหยา รองประธานกรรมการ บริษัท ฮั้วฟง รับเบอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทกำลังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาเข้าซื้อกิจการหรือร่วมทุน (M&A) โดยพุ่งไปเป้าไปที่แบรนด์ยางรถสองล้อที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักดี เพื่อที่จะต่อยอดการเติบโต ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการเจรจายังไม่มีข้อสรุป พร้อมกันนี้ยังจะเดินหน้าธุรกิจมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่มีความเร็วเท่ากับมอเตอร์ไซค์ทั่วไป โดยจะลักษณะการให้บริการทุกอย่างทั้งเรื่องพลังงานไฟฟ้า และค่าซ่อมบำรุง โดยผู้ใช่จ่ายรายเดือนเท่านั้น ประเมินมูลค่าลงทุนธุรกิจใหม่ไว้ราว 1 หมื่นล้านบาท

 

@ ดีมานด์พุ่ง

 

สำหรับธุรกิจยางรถจักรยาน และ มอเตอร์ไซค์นั้นยังคงมีดีมานด์อยู่มาก และขณะนี้ไม่พบปัญหาในเชิงดีมานด์จากสงครามรัสเซีย-ยูเครนแต่อย่างใด โดยสาเหตุสำคัญเกิดจากความต้องการใช้รถจักรยาน และกระแส อี-ไบค์ หรือ รถจักรยานไฟฟ้า ที่เกิดขึ้นตามนโยบายสนับสนุนการลดโลกร้อนโดยเฉพาะในกลุ่มประเทศยุโรป ที่ปรับโครงสร้างพื้นฐานให้มีที่จอดจักรยานมากขึ้น รวมไปถึงการหันมาสนับสนุนการใช้ อี-ไบค์ โดยมีการลดภาษีมูลค่าเพิ่ม และมีการให้เงินสนับสนุนเพื่อซื้อจักรยาน 50 ยูโร ซึ่งการใช้ อี-ไบค์ จะทำให้ตลาดเปลี่ยนยางโตขึ้นมากเพราะมีการใช้งานสูง นอกจากตลาดใหม่ที่เติบโตอยู่แล้ว ทำให้ความต้องการยางล้อรถเกิดขึ้นอย่างมาก คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตที่สูงต่อเนื่อง 3 ปี

 

@ จ่อเพิ่มราคา

 

ทั้งนี้บริษัทได้เตรียมที่จะเพิ่มราคาตามต้นทุนที่เพิ่มขึ้นในช่วงไตรมาส 2 เพื่อที่จะทำให้อัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทไปอยู่ในระดับ 24% หลังจากช่วงที่ผ่านมาบริษัทมีมาร์จิ้นลดลงตามสัญญาการซื้อขาย โดยเชื่อว่าจะเริ่มมีมาร์จิ้นที่เพิ่มขึ้นในช่วงไตรมาส 2 ทั้งการเพิ่มขึ้นราคานั้นได้มีการเปรียบเทียบกับคู่แข่งโดยเฉพาะประเทศจีน ซึ่งได้ขึ้นราคาเช่นเดียวกัน จึงสามารถแข่งขัน โดยลูกค้าต้องการสินค้ามากกว่าการต่อรองราคา พร้อมกับยอมรับว่า ตลาดขณะนี้เป็นของผู้ซื้อ

 

ขณะเดียวกันจากสถานการณ์ปัญหาด้านขนส่งในช่วงปีที่ผ่านมา ทำให้บริษัทได้มีการเพิ่มจำนวนการสต๊อกวัตถุดิบเป็น 2 ไตรมาส ซึ่งขณะนี้ยังไม่เห็นการปรับเพิ่มขึ้นของวัตถุดิบมากนัก แต่บริษัทได้เตรียมพร้อมแล้ว ดังนั้นการปรับขึ้นของราคาวัตถุดิบก็จะไม่ได้กระทบใดๆ มากนัก

โดยจากการปรับเพิ่มราคาเชื่อว่าในช่วงไตรมาส 3-4 บริษัทจะสามารถทำอัตรากำไรขั้นต้นไปถึง 24% ได้จากในระดับ 19.93%  ในปีที่ผ่านมา

 

@เสริมกำลังผลิต

 

นอกจากนี้บริษัทยังได้มีการติดตั้งเครื่องจักรขนาดใหญ่ และขนาดย่อมเข้าไปในช่วงปีทีผ่านมา ซึ่งจะทำให้กำลังการผลิตของยางจักรยานเพิ่มขึ้น 20%  และในช่วงไตรมาส 3 และ 4 ปีนี้ เตรียมกำลังพิจารณาในด้านการขยายกำลังการผลิตเพิ่มเติม โดยบริษัทตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ทั้งหมดปีนี้ราว 15%

 

นายจวง จื้อเหยา กล่าวด้วยว่า บริษัทยังมีการเดินหน้าในการพัฒนาสินค้ามาร์จิ้นสูง โดยเฉพาะ ยางจักรยาน TPU ที่มีราคาขายสูงกว่ายาจักรยานธรรมดา 10 เท่า โดยยางจักรยาน TPU เป็นยางจักรยานที่เบาและมีความทนทาน ซึ่งในส่วนของยุโรปมีการผลิตมากและตั้งราคาสูง เนื่องจากมีค่าแรงที่สูง และต้องการมาร์จิ้นสูง ขณะที่บริษัทผลิตในไทยมีค่าแรงที่แข่งขันได้ ซึ่งขณะนี้ได้มีการทดลองแล้ว คาดว่าไตรมาส 2-3 น่าจะมีการขายเชิงพาณิชย์ได้ด้วย

 

@ปันผลแรง

 

ทั้งนี้บริษัทได้ประกาศปันผลในผลการดำเนินงานปีที่ผ่านมาหุ้นละ 0.425 บาท ซึ่งเป็นการปันผลเป็นเม็ดเงินที่สูงสุดอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ดีบริษัทได้มีการใช้เม็ดเงินในการสต็อกสินค้าที่มากขึ้นเป็นระยะเวลา 2 ไตรมาส ดังนั้นสถานการณ์ปกติสามารถลดปริมาณการสต๊อกลงมาเหลือ 1 ไตรมาสได้ นั้นก็จะมีเม็ดเงินมากขึ้น ซึ่งบริษัทยืนยันที่จะให้ปันผลที่ดีต่อไป

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า HFT ปันผลที่ 0.425 บาท คิดเป็นอัตราผลตอบแทนเงินปันผลเมื่อเทียบกับราคาหุ้นล่าสุดที่ 8.05 บาท สูงในระดับ 5.28%

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง