เปิดปม "อาร์เมเนีย-อาเซอร์ไบจาน" ยิงปะทะเดือด ตาย-เจ็บเพียบ
วันนี้ (28ก.ย.63) กองกำลังทหารของอาร์เมเนีย กับ อาเซอร์ไบจาน ยิงถล่มกันอย่างดุเดือดเป็นวันที่ 2 จากกรณีพิพาทเรื่องดินแดนของภูมิภาคนากอร์โน-คาราบัก ที่แยกตัวออกจากอาเซอร์ไบจาน มาปกครองตนเอง และอาร์มีเนียกับอาเซอร์ไบจาน ต่างกล่าวหาอีกฝ่ายว่า ใช้อาวุธหนัก ด้วยการยิงปืนใหญ่ การปะทะกันของสองฝ่ายครั้งนี้ ถือว่า หนักหน่วงที่สุด นับตั้งแต่ปี 2559 ก่อให้เกิดความวิตกต่อเสถียรภาพในภูมิภาคคอเคซัสใต้ ซึ่งเป็นเส้นทางลำเลียงก๊าซและน้ำมันไปสู่ตลาดโลก ขณะที่ ภูมิภาคนากอร์โน-คาราบัก แม้ตั้งอยู่ในเขตแดนของประเทศอาเซอร์ไบจาน แต่กลุ่มชาติพันธุ์อาร์มีเนียอาศัยอยู่
ด้าน สำนักข่าวอินเตอร์แฟกของรัสเซีย รายงานว่า ประธานาธิบดีอาเซอร์ไบจาน ประกาศระดมทหารบางส่วนแล้ว ส่วนโฆษกกระทรวงกลาโหมอาร์มีเนีย ระบุว่า ชาวอาร์มีเนีย 200 คน ได้รับบาดเจ็บ เช่นเดียวกับทางการ นากอร์โน-คาราบัก รายงานว่า ทหารเสียชีวิตอีก 15 นาย หลังอาเซอร์ไบจาน ยิงปืนใหญ่ถล่มเป้าหมายอย่างหนัก
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันอาทิตย์ ทางการ นากอร์โน-คาราบัก ระบุว่า ทหารเสียชีวิต 16 นาย และบาดเจ็บกว่า 100 นาย หลังอาเซอร์ไบจาน โจมตีทางอากาศ และระดมปืนใหญ่ อย่างไรก็ตาม ทั้งจีน และรัสเซีย เรียกร้องสองฝ่ายหยุดยิงทันที
ความรุนแรงรอบนี้ ถือว่าตึงเครียดมากที่สุด นับตั้งแต่การสู้รบเมื่อเดือนเมษายน 2559 มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 200 คน ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนกรกฏาคมที่ผ่านมา ก็มีการปะทะกันระหว่างทหารของอาร์เมเนียและอาร์เซอร์ไบจาน ทำให้มีผู้เสียชีวิตทั้งสองฝ่าย 16 คน ซึ่งหากมองภาพรวมความขัดแย้งที่ยาวนานนี้ มีผู้คนเสียชีวิตจากความรุนแรงไปมากกว่า 3 หมื่นคน
ทั้งนี้ นากอร์โน-คาราบัค มีพื้นที่ราว 4 พัน 400 ตารางกิโลเมตร ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเทือกเขาคอเคซัส อยู่ห่างจากพรมแดนอาร์เมเนียราว 50 กิโลเมตร ซึ่งตั้งแต่สิ้นสุดสงครามใหญ่ระหว่าง 2 ประเทศในปี 2537 พื้นที่นี้เกิดกรณีพิพาทระหว่างอาร์เมเนีย และอาร์เซอร์ไบจาย แต่ก็ยังไม่ได้รับการแก้ไขจนถึงปัจจุบัน ซึ่งภูมิภาคนากอร์โน-คาราบัคห์ นานาชาติให้การยอมรับว่าเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของอาเซอร์ไบจาน แต่ตกอยู่ภายใต้การควบคุมของกลุ่มคนเชื้อสายอาร์เมเนียน นำไปสู่การปะทะกันบ่อยครั้ง จึงเป็นอุปสรรคชิ้นสำคัญที่ขัดขวางความพยายามของนานาชาติที่นำโดยฝรั่งเศส รัสเซีย และสหรัฐอเมริกา ในการหาทางออกเพื่อยุติความขัดแย้งพื้นที่
เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNTHAILAND.com
facebook : TNNONLINE
facebook live : TNN Live
twitter : TNNONLINE
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNONLINE
Instagram : TNN_ONLINE
TIKTOK : @TNNONLINE