รีเซต

เงินดิจิทัล 10,000 บาท คู่มือฉบับสมบูรณ์สำหรับร้านค้าและผู้บริโภค เช็กเงื่อนไขที่นี่

เงินดิจิทัล 10,000 บาท คู่มือฉบับสมบูรณ์สำหรับร้านค้าและผู้บริโภค เช็กเงื่อนไขที่นี่
TNN ช่อง16
8 กรกฎาคม 2567 ( 08:50 )
77

เงินดิจิทัล 10,000 บาท: คู่มือฉบับสมบูรณ์สำหรับร้านค้าและผู้บริโภค


รัฐบาลได้ริเริ่มโครงการเงินดิจิทัล 10,000 บาท หรือเงินดิจิตอล เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับชุมชนและท้องถิ่น ผ่านการใช้จ่ายของประชาชนและการมีส่วนร่วมของร้านค้าขนาดเล็ก บทความนี้จะเป็นคู่มือฉบับสมบูรณ์สำหรับทั้งร้านค้าและผู้บริโภคที่ต้องการเข้าร่วมโครงการ โดยจะอธิบายตั้งแต่คุณสมบัติ ขั้นตอนการสมัคร ไปจนถึงวิธีการใช้จ่ายเงินดิจิทัลอย่างละเอียด


คุณสมบัติและการลงทะเบียนสำหรับร้านค้า

ร้านค้าที่ต้องการเข้าร่วมโครงการจะต้องมีคุณสมบัติดังนี้

1. อยู่ในระบบภาษีอย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (PIT) หรือภาษีเงินได้นิติบุคคล (CIT)

2. เป็นร้านค้าในโครงการธงฟ้าที่อยู่ภายใต้การดูแลของกระทรวงพาณิชย์ (ปัจจุบันมีร้านค้าธงฟ้ากว่า 146,531 ร้านทั่วประเทศ)


วิธีการลงทะเบียน

1. ร้านค้าสามารถลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันที่กำหนด โดยกรอกข้อมูลร้านค้า เช่น ชื่อ ที่อยู่ เลขประจำตัวผู้เสียภาษี และหมายเลขบัญชีธนาคาร

2. หลังจากลงทะเบียน ร้านค้าจะได้รับการตรวจสอบคุณสมบัติและได้รับการอนุมัติเข้าร่วมโครงการ

3. ร้านค้าที่ได้รับอนุมัติจะสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน "ร้านค้าดิจิทัล" เพื่อใช้ในการรับชำระเงินดิจิทัลจากลูกค้า


คุณสมบัติและการลงทะเบียนสำหรับผู้บริโภค

ประชาชนที่มีสิทธิ์ได้รับเงินดิจิทัล 10,000 บาท จะต้องมีคุณสมบัติดังนี้

1. มีสัญชาติไทยและมีอายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไป

2. มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน

3. มีเงินได้ไม่เกิน 840,000 บาทต่อปีภาษี

4. มีเงินฝากในธนาคารรวมกันไม่เกิน 500,000 บาท


วิธีการลงทะเบียน

1. ประชาชนจะต้องลงทะเบียนผ่าน Super App "ทางรัฐ" ของหน่วยงานภาครัฐ

2. กรอกข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ นามสกุล เลขประจำตัวประชาชน ที่อยู่ เพื่อใช้ในการตรวจสอบคุณสมบัติ

3. เมื่อได้รับการอนุมัติ ประชาชนจะสามารถใช้แอปพลิเคชัน "ทางรัฐ" ในการชำระเงินกับร้านค้าที่ร่วมโครงการ


ขั้นตอนการใช้จ่ายเงินดิจิทัล

1. ประชาชนที่ได้รับเงินดิจิทัลจะสามารถใช้จ่ายได้กับร้านค้าขนาดเล็ก (ร้านค้าคนที่ 1) ที่อยู่ในอำเภอเดียวกันเท่านั้น ผ่านการสแกน QR Code ในแอปพลิเคชัน "ทางรัฐ"

2. ร้านค้าคนที่ 1 จะได้รับเงินดิจิทัลเข้าสู่ระบบ แต่ไม่สามารถถอนออกมาเป็นเงินสดได้ จะต้องนำไปใช้ซื้อสินค้าต่อจากร้านค้าขนาดใหญ่ขึ้นไป (ร้านค้าคนที่ 2) ผ่านแอปพลิเคชัน "ร้านค้าดิจิทัล" โดยไม่มีข้อจำกัดเรื่องขนาดหรือพื้นที่

3. เมื่อเงินดิจิทัลถูกใช้จ่ายไปเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงร้านค้าที่อยู่ในระบบภาษี VAT และภาษีนิติบุคคล (ร้านค้าคนที่ 3) ร้านค้าเหล่านั้นจะสามารถแลกเงินดิจิทัลเป็นเงินสดได้ผ่านระบบของธนาคารที่เข้าร่วมโครงการ


ประเภทสินค้าที่อยู่ในโครงการ

สินค้าที่สามารถซื้อขายด้วยเงินดิจิทัลได้ ได้แก่

1. สินค้าอุปโภคบริโภค เช่น อาหาร เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ ของใช้ในครัวเรือน

2. สินค้าเพื่อการศึกษา เช่น อุปกรณ์การเรียน หนังสือ

3. วัตถุดิบเพื่อการเกษตร เช่น ปุ๋ย เมล็ดพันธุ์

4. สินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์ชุมชน เช่น ผัก ผลไม้ ของฝาก

5. ยารักษาโรค

6. เครื่องสักการะ


สินค้าที่ไม่อยู่ในโครงการ ได้แก่ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บุหรี่ กัญชา ผลิตภัณฑ์จากกัญชงและกระท่อม หวยใต้ดิน ทองคำ เพชร พลอย และน้ำมันเชื้อเพลิง


ระยะเวลาดำเนินโครงการ

โครงการเงินดิจิทัล 10,000 บาท มีกำหนดเริ่มต้นในช่วงไตรมาส 4 ของปี 2567 โดยขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการพัฒนาระบบต่างๆ เพื่อรองรับการใช้งานจริง ทั้งเว็บไซต์ ระบบลงทะเบียน ระบบการใช้จ่ายและชำระเงิน ระบบตรวจสอบธุรกรรม รวมถึงการเชื่อมต่อกับธนาคารอื่นๆ


โครงการเงินดิจิทัล 10,000 บาท เป็นความพยายามของรัฐบาลในการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก ผ่านการส่งเสริมการใช้จ่ายในระดับชุมชนและท้องถิ่น โดยมีระบบการลงทะเบียนและใช้งานที่ออกแบบมาเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ทั้งร้านค้าและผู้บริโภค หากทุกฝ่ายให้ความร่วมมือและปฏิบัติตามขั้นตอนที่กำหนดไว้ โครงการนี้จะช่วยให้เม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะนำไปสู่การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในระยะยาว



ภาพ Getty Images 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง