กรมการขนส่งฯ เปิดเทคนิคขับรถ "ขึ้นเขา-ลงเขา" อย่างไรให้ปลอดภัย
วันนี้ (7 ธ.ค.64) สำนักสวัสดิภาพการขนส่งทางบก กรมการขนส่งทางบก เปิดเทคนิคขับรถขึ้น-ลงเขา ทั้งรถแบบเกียร์ธรรมดา และเกียร์ออโต้ ต้องขับอย่างไรให้ปลอดภัย โดยระบุว่า ในช่วงใกล้เทศกาลปีใหม่แบบนี้หลายๆ คนคงจะเริ่มวางแผนท่องเที่ยวสัมผัสอากาศเย็นสบายกันแล้ว จึงนำเทคนิคขับรถขึ้นลงเขา อย่างปลอดภัยมาฝากผู้ขับขี่ทุกท่าน เพื่อเตรียมความพร้อม เสริมความมั่นใจก่อนขับรถขึ้นเขา-ลงเขาไปเที่ยวในช่วงเทศกาลอันแสนสุขกัน
ขึ้นเขา-ลงเขา ใช้เกียร์ต่ำ
- เกียร์ธรรมดา: ใช้เกียร์ 1 หรือเกียร์ 2 หากรู้สึกว่าความเร็วของรถเริ่มตกขณะที่ขับขึ้นทางชัน ให้ลดเกียร์ลงมา 1 ระดับ เพื่อสามารถเร่งเครื่องยนต์และผ่านทางชันนั้นไปได้ จึงเปลี่ยนเข้าเกียร์ตามความเร็วปกติ
- เกียร์ออโต้: ใช้เกียร์ D1, D2 หรือ L ขณะขึ้นเขา-ลงเขา เมื่อพ้นทางชันควรสลับมาที่เกียร์ D ไม่ควรลากเกียร์ต่ำเป็นระยะเวลานาน เพราะอาจทำให้เครื่องยนต์ทำงานหนักจนเครื่องดับกลางทางได้
- ขึ้นเขาแตะคันเร่งเบาๆ เร่งเครื่องให้สม่ำเสมอ เพื่อส่งกำลังให้รถขึ้นไปได้ ให้สังเกตรอบเครื่องยนต์อยู่ที่ประมาณ 2,000-3,500 รอบ
- ที่สำคัญอย่าลืม เว้นระยะห่างจากรถคันหน้าประมาณ 30-50 เมตร เพื่อความปลอดภัย
ลงเขา แตะเบรกเป็นระยะ
- อย่าเหยียบเบรกค้างไว้ เพราะจะทำให้ผ้าเบรกไหม้ และควรรักษาระดับความเร็วระหว่างลงเขาให้อยู่ที่ 40-50 กิโลเมตร/ชั่วโมง
- ห้ามใส่เกียร์ว่าง (เกียร์ N) เป็นอันขาด!! รถจะไหลลงเขาด้วยความเร็วสูง เพราะไม่มีแรงฉุดจากเครื่องยนต์ช่วยควบคุมความเร็วรถ เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุสูง
นอกจากนี้ มองให้ไกล ประเมินเส้นทาง อย่าแซงทางโค้ง สังเกตป้ายจราจรริมทาง และใช้ความเร็วรถให้เหมาะสมกับเส้นทาง รวมทั้ง ให้สัญญาณเมื่อเข้าสู่ทางโค้ง ทางเลี้ยว หรือจุดอับสายตา พยายามบีบแตรหรือใช้สัญญาณไฟอยู่เสมอ เพื่อเป็นการเตือนรถคันอื่นที่อาจสวนทางมา
การขับรถขึ้นเขา-ลงเขาไม่ใช่เรื่องยาก หากขับจนคุ้นเคยแล้วก็จะง่ายขึ้น ผู้ขับขี่ควรเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้นกว่าปกติ มีสติ ไม่ประมาท เพื่อความปลอดภัยของตัวคุณและเพื่อนร่วมทาง
ก่อนออกเดินทางช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ ผู้ขับขี่ทุกท่านสามารถนำรถยนต์ รถจักรยานยนต์ ตรวจสภาพเบื้องต้นฟรี 20 รายการ กับโครงการ ตรวจรถฟรีขับขี่ปลอดภัย โดยกรมการขนส่งทางบกร่วมกับภาครัฐและเอกชน มอบเป็นของขวัญส่งท้ายปีให้กับประชาชนทุกท่าน ณ ศูนย์บริการของภาคีเครือข่ายภาครัฐและเอกชนทั่วประเทศ รวมกว่า 2,000 แห่ง ที่มีป้ายประชาสัมพันธ์ “ตรวจรถฟรี ขับขี่ปลอดภัย” ถึง 31 ธ.ค. 2564 นี้ อ่านเพิ่มเติม: https://bit.ly/3d5Pbso
ข้อมูลจาก สำนักสวัสดิภาพการขนส่งทางบก กรมการขนส่งทางบก
ภาพจาก AFP