เปิดข้อมูลหมอพร้อม ฉีดวัคซีนโควิดไขว้ชนิดแล้ว 2,300 ราย ยังไม่พบอาการรุนแรง
เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม นพ.โสภณ เมฆธน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และประธานคณะอนุกรรมการอำนวยการบริหารจัดการการให้วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) เปิดเผยถึงการเตรียมระบบ “หมอพร้อม” รองรับการติดตามกรณีการฉีดวัคซีนสลับชนิด และการฉีดกระตุ้นเข็ม 3 หรือ บูสเตอร์ โดส (Booster dose) ในบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า
นพ.โสภณ กล่าวว่า ขณะนี้ได้มีการเตรียมระบบของ “หมอพร้อม” ในการติดตามอาการหลังการฉีดวัคซีนสลับชนิด และการบูสเตอร์ โดส ซึ่งไม่ได้แตกต่างจากระบบติดตามแบบเดิม ทั้งเข็ม 1 และเข็ม 2 เนื่องจากก็จะมีรายละเอียดการสอบถามอาการหลังฉีดตั้งแต่ 1 วัน 7 วัน และ 30 วัน โดยข้อมูลเมื่อวันที่ 13 ก.ค.64 ที่ผ่านมาในระบบหมอพร้อม มีคนจำนวนหนึ่งที่ฉีดวัคซีนสลับชนิดประมาณ 2,300 คน ซึ่งในระบบจะแยกชนิดวัคซีน และการติดตามอาการ โดยทั้งหมดไม่พบอาการรุนแรง
“ส่วนที่ต้องสลับวัคซีนอาจเพราะวัคซีนตัวแรกมีอาการข้างเคียง จึงขอสลับ เป็นต้น แต่อาการข้างเคียงที่เกิดขึ้นก็ไม่ได้รุนแรงเช่นกัน” นพ.โสภณ กล่าว
นพ.โสภณ กล่าวอีกว่า ในส่วนของการจัดระบบให้โรงพยาบาล ในการบันทึกข้อมูลก็ไม่ได้มีความแตกต่างอะไร สามารถดำเนินการได้ทันที ทั้งในส่วนของวัคซีนสลับชนิด หรือการฉีดบูสเตอร์เข็ม 3 เมื่อได้ข้อมูลก็จะนำมาแยกรายละเอียด ทั้งผลการฉีด อาการข้างเคียงหลังฉีด รวมผลการดำเนินงานทั้งหมด ซึ่งในอนาคตหากต้องมีการบูสเตอร์ โดส กลุ่มอื่นๆ นอกเหนือจากบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้า ก็สามารถเพิ่มเข้าไปในระบบได้เช่นกัน โดยการจัดระบบรองรับได้มีการหารือร่วมกับโรงพยาบาลต่างๆไปแล้วเมื่อวันที่ 12 ก.ค.64
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีมีการสอบถามว่าจะยกเลิก call center หมอพร้อม 0-2792 -2333 ช่วงเดือน ส.ค.64 นพ.โสภณ กล่าวว่า มีการหารือกันว่า ตามนโยบายได้เน้นฉีดวัคซีนให้แก่กลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปี และผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ช่วงเดือนก.ค. ไปจนถึงเดือน ส.ค. และในทุกภาคส่วนทุกพื้นที่ อย่าง กทม. ก็มีการระดมฉีดตรงนี้ และมีช่องทางการสอบถามของทางพื้นที่ และโรงพยาบาล เพียงแต่ระบบสายด่วนหมอพร้อม ณ ตอนนี้ ที่เปิดให้สอบถาม เป็นการช่วยประสานในการฉีดวัคซีนให้แก่ 2 กลุ่มดังกล่าวตามจุดที่เปิดรองรับพื้นที่ กทม. เมื่อมีการระดมฉีดไปแล้วจนครบ คาดว่า น่าจะปลายเดือน ส.ค. นี้ ก็น่าจะปิดระบบสายด่วนได้ แต่จะปรับรูปแบบเป็นการตอบข้อมูลผ่านแชท (Chat) ในหมอพร้อมแทน
เมื่อถามว่าที่ผ่านมาระบบสายด่วนหมอพร้อม ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าไม่สามารถรองรับผู้คนที่โทรสอบถามจำนวนมาก นพ.โสภณ กล่าวว่า เราก็พยายามจัดระบบ ปัจจุบันมี 120 คู่สาย เคยโทรถึงวันละ 50,000 คู่สาย เราก็พยายามหาช่องทาง อย่างไรก็ตาม ในช่วงเดือนส.ค. หากยังจำเป็นต้องเปิดสายด่วน เพื่อรองรับผู้สูงอายุและผู้ป่วยโรคเรื้อรังต่อ ก็สามารถทำได้ ต้องพิจารณาตามสถานการณ์ช่วงนั้นๆ เพราะทุกวันนี้ที่โทรเข้าสายด่วนหมอพร้อมพบว่า 90% เป็นในกรุงเทพฯ เพื่อให้ช่วยจองนัดไปฉีดศูนย์ฉีดบางซื่อ
“แต่เมื่อกรณีแล้วเสร็จก็สามารถปิดคอลเซนเตอร์ได้ ยกเว้นหากมีอะไรหน้างานก็สามารถเปิดได้ แต่ไม่ใช่ไม่มีช่องทางใดๆ เพราะยังมีรพ.อื่นๆจะมาเปิดสาย เปิดช่องทางรับแทนในแต่ละพื้นที่ ให้จังหวัดต่างๆ เปิดสายแทน เพราะส่วนใหญ่เป็นการแก้ไขรายชื่อ สอบถามรายละเอียดต่างๆ และเราก็ยังมีแชทบอทในหมอพร้อม” นพ.โสภณ กล่าว