สธ.พบคลัสเตอร์โควิดสถานบันเทิง 604 ราย ใน 32 จังหวัด
นพ.เฉวตสรร นามวาท รักษาราชการแทนผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค แถลงวานนี้ (9 เม.ย.) ที่ศูนย์แถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี ว่า ประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 559 ราย แบ่งเป็น กลุ่มคลัสเตอร์สถานบันเทิง 214 ราย, ผู้สัมผัสผู้ติดเชื้อสถานบันเทิง 31 ราย, ไม่เกี่ยวข้องกับสถานบันเทิง 124 ราย, อยู่ระหว่างสอบสวนโรค 32 ราย, คัดกรองเชิงรุกในชุมชน 148 ราย และเดินทางมาจากต่างประเทศ 10 ราย โดยมีผู้รักษาหายเพิ่ม 27 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย เป็นผู้ต้องขังชายไทยอายุ 60 ปี ในจ.นราธิวาส มีประวัติสัมผัสผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้า ส่วนภาพรวมฉีดวัคซีนโควิด 19 ตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ - 8 เมษายน 2564 รวม 466,374 โดสใน 77 จังหวัด เป็นเข็มแรก 405,911 ราย และรับครบสองเข็ม 60,463 ราย
นพ.เฉวตสรร กล่าวว่า กรณีการติดเชื้อในสถานบันเทิงข้อมูลตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม - 8 เมษายน 2564 พบผู้ติดเชื้อสะสม 604 ราย ส่วนใหญ่เป็นคนไทย เพศหญิงมากกว่าชาย ผู้ติดเชื้อร้อยละ 64 ไม่มีอาการ ส่วนใหญ่เป็นวัยทำงานอายุ 20-29 ปี โดยพบผู้ติดเชื้อกระจายใน 32 จังหวัด กรุงเทพมหานครพบผู้ติดเชื้อสูงสุด 310 ราย เฉพาะร้านเหล้า/สถานบันเทิงย่านทองหล่อ พบ 248 ราย ส่วนจำนวนสถานบันเทิงที่พบผู้ติดเชื้อมีจำนวน 80 ร้านใน 11 จังหวัด อยู่ในกรุงเทพมหานครมากที่สุด 52 ร้าน
“ความเสี่ยงของสถานบันเทิงในกทม.และต่างจังหวัดมีความแตกต่างกัน แต่ความเสี่ยงไม่แตกต่างกัน แม้ว่าต่างจังหวัดสถานที่ไม่ได้คับแคบ อากาศถ่ายเทสะดวก แต่มีความเสี่ยงจากการที่มีคนไปรวมกันจำนวนมาก ไม่สวมหน้ากากป้องกัน และอยู่รวมกันเป็นเวลานาน จึงต้องระมัดระวังและหลีกเลี่ยง” นพ.เฉวตสรร กล่าว
ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ กระทรวงสาธารณสุขไม่มีข้อห้ามเดินทางหรือการกักตัว ขึ้นกับมาตรการของจังหวัดปลายทาง แต่ผู้ที่มีความเสี่ยงโดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับสถานบันเทิง อาจรับเชื้อแต่ไม่แสดงอาการ และอาจแพร่เชื้อต่อได้ จึงควรแยกตัว ใส่หน้ากากอย่างเข้มงวด ป้องกันการแพร่เชื้อส่วนประชาชนทั่วไปหากไม่มีแผนเดินทางหรือเลื่อนการเดินทางได้จะช่วยลดความเสี่ยงจากการเดินทางของคนจำนวนมาก หากจำเป็นต้องเดินทาง การ์ดต้องไม่ตก ป้องกันตัวเองด้วยการใส่หน้ากากตลอดเวลา และหากไปพบปะกับผู้สูงอายุ ต้องเข้มมาตรการป้องกันตนเองไม่ควรใช้เวลามากเกินไป
สำหรับหน่วยงานที่พบผู้ติดเชื้อโควิด 19 ขอให้ประสานหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่ทันที เพื่อประเมินผู้สัมผัสเสี่ยงสูงและเสี่ยงต่ำ โดยผู้สัมผัสเสี่ยงสูงควรตรวจหาเชื้อโดยเร็ว หากตรวจไม่พบเชื้อโอกาสแพร่เชื้อสู่ผู้ที่สัมผัสก่อนหน้านี้ไม่มี แต่ต้องกักตัวให้ครบ 14 วัน และตรวจซ้ำอีกครั้ง กลุ่มเสี่ยงต่ำให้สังเกตอาการตนเองจนครบระยะฟักตัว 14 วัน หากสงสัยว่าป่วย เช่นมีไข้ เจ็บคอ ให้ไปรับการตรวจ ส่วนสถานที่ที่พบผู้ติดเชื้อไม่จำเป็นต้องปิดทั้งอาคาร ปิดเฉพาะแผนกหรือชั้นที่เกี่ยวข้อง 1-3 วัน เพื่อทำความสะอาด เน้นเช็ดถูพื้นผิวและจุดสัมผัสร่วม เก็บขยะติดเชื้อ และมีระบบคัดกรองผู้เข้าสถานที่ วัดอุณหภูมิ สแกนไทยชนะ