รีเซต

'ไทยสร้างไทย' เปิดกำไร 3 รัฐวิสาหกิจไฟฟ้า รวมกันกว่า 6.6 แสนล้าน เสนอ 2 แนวทางช่วย ปชช.

'ไทยสร้างไทย' เปิดกำไร 3 รัฐวิสาหกิจไฟฟ้า รวมกันกว่า 6.6 แสนล้าน เสนอ 2 แนวทางช่วย ปชช.
มติชน
15 กรกฎาคม 2565 ( 17:48 )
86
'ไทยสร้างไทย' เปิดกำไร 3 รัฐวิสาหกิจไฟฟ้า รวมกันกว่า 6.6 แสนล้าน เสนอ 2 แนวทางช่วย ปชช.

ข่าววันนี้ 15 กรกฎาคม ที่พรรคไทยสร้างไทย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรค พร้อมด้วย น.ต.ศิธา ทิวารี ประธานคณะกรรมการอำนวยการและพัฒนาพรรค และ นายนพดล มังกรชัย ประธานคณะกรรมการวิชาการพรรค ร่วมกันแถลงข่าวคัดค้านการขึ้นค่าไฟฟ้า

 

น.ต.ศิธากล่าวว่า จากการลงพื้นที่ในหลายจังหวัดของพรรคได้รับการร้องเรียนจากพี่น้องประชาชนว่าประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากค่าครองชีพที่สินค้าทุกประเภทเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะล่าสุดค่าไฟฟ้าเพิ่มสูงขึ้น แต่หากมาดูตัวเลขทั้ง 3 การไฟฟ้า ประกอบด้วย การไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.) การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ที่เป็นรัฐวิสาหกิจในธุรกิจพลังงานไฟฟ้า ต่างก็มีผลกำไรสะสมมหาศาลกว่า 6.6 แสนล้านบาท

 

น.ต.ศิธากล่าวว่า โดย กฟผ.มีกำไรสะสมอยู่ที่ 3.74 แสนล้านบาท กฟน. มีกำไรสะสม 1.1 แสนล้านบาท และ กฟภ.มีกำไรสะสม 1.8 แสนล้านบาท ขณะที่ประชาชนต้องรับภาระค่าไฟฟ้าแพงอย่างแสนสาหัส แต่ 3 การไฟฟ้า มีกำไรจำนวนมาก ขณะที่ตัวเลขของบริษัทลูกของ กฟผ.พบว่า บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) (EGCO) มีกำไรสะสม 5.5 หมื่นล้านบาท และบริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (RATCH) มีกำไรสะสม 3.7 หมื่นล้านบาท

 

 

“ในสมัยที่เป็นประธานบอร์ดบริหารการท่าอากาศยาน ซึ่งถือเป็นรัฐวิสาหกิจเกรดเอที่ต้องส่งเงินเข้ารัฐ แต่การบริหารงานในเวลานั้น เรามุ่งเน้นผลประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก โดยเที่ยวบินภายในประเทศ การท่าฯยอมขาดทุนประมาณ 150 บาทต่อคน เพื่อลดค่าใช่จ่ายภาคประชาชนและสนับสนุนการท่องเที่ยวในประเทศ แต่ไปมุ่งเน้นการทำกำไรกับเที่ยวบินต่างประเทศเพื่อมาชดเชย ซึ่งเป็นตัวอย่างให้เห็นว่าแม้จะเป็นรัฐวิสหกิจเกรดเอ แต่ก็สามารถดำเนินการเพื่อลดภาระประชาชน และยังประกอบกิจการโดยมีผลกำไรได้

 

“หลักการสำคัญของรัฐวิสาหกิจจำเป็นต้องประกอบกิจการที่ต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก แต่การประกอบกิจการในประเทศไทยมีความผิดฝาผิดตัว เพราะผู้ประกอบกิจการบ้านเราเติบโตจากการผูกขาดสัมปทาน และเอื้อผลประโยชน์เชิงระบบอุปถัมภ์ จึงทำให้บ้านเรามีความเหลื่อมล้ำสูงอันดับต้นๆ ของโลก แม้ว่ารัฐบาลนี้จะบอกว่าไม่มีการทุจริต และใช้รัฐธรรมนูญฉบับปราบโกง แต่การทุจริตคอร์รัปชั่นกลับยังเพิ่มสูงขึ้นทุกปี จนดัชนีทุจริตของไทยสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์” น.ต.ศิธากล่าว

 

นายนพดลกล่าว่า ตามเจตนารมณ์ของกฎหมายการประกอบกิจการพลังงานนั้น รัฐพึงจะต้องปกป้องผลประโยชน์ของผู้ใช้พลังงาน ทั้งเรื่องอัตราค่าบริการที่ต้องมีระดับราคาที่เหมาะสม เป็นธรรม จริงอยู่การประกอบธุรกิจของรัฐวิสาหกิจแม้จะสามารถมีรายได้เลี้ยงตัวเองได้ แต่ก็ไม่ได้มีวัตถุประสงค์ที่จะแสวงหากำไรสูงสุดบนค่าใช้จ่ายที่ประชาชนต้องแบกรับ โดยเฉพาะในมาตรา 8(1) ที่เน้นความเป็นธรรม ดังนั้น รัฐบาลจะต้องกลับมาดูวัตถุประสงค์เดิมเป็นหลัก เพื่อหยุดการเน้นสร้างกำไร แต่ต้องหันมาดูแลประชาชนให้มากขึ้น ในยามวิกฤตที่ประชาชนต่างได้รับความลำบากเช่นนี้

 

คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า พรรคไทยสร้างไทยขอเสนอแนวทางลดค่าครองชีพให้กับประชาชน 2 ประการ คือ ประการแรก รัฐบาลต้องเปลี่ยนวิธีคิดในการเปลี่ยนตัวชี้วัด KPI ใหม่ จึงขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้ารัฐบาลต้องเปลี่ยนนโยบายหน่วยงานรัฐวิสาหกิจที่เกี่ยวกับสาธารณูปโภค สาธารณูปการที่มุ่งเน้นเน้นการกำไรเข้ารัฐมาเป็นลดค่าใช้จ่ายให้กับประชาชนแทน และ ประการที่ 2 รัฐบาลจำเป็นต้องเจรจากับผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนทั้งในประเทศและเพื่อนบ้านซึ่งเป็นกลุ่มทุนไทย และบางส่วนเป็นบริษัทลูกของ กฟผ.ให้ลดค่าความพร้อมจ่ายลงมา เพราะตรงนี้คือค่าใช้จ่ายมากที่สุดในระบบไฟฟ้าของไทยในปัจจุบัน

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง