แบงก์ชาติ"ญี่ปุ่น"คงดอกเบี้ยหลังเงินเฟ้อชะลอ

ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีมติ 7 ต่อ 2 เสียงคงอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ร้อยละ 0.5 ตามเดิม ซึ่งเป็นไปตามการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ หลังอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (core CPI) ที่ไม่นับรวมราคาอาหารสด อยู่ที่ร้อยละ 2.4 ในเดือนสิงหาคม ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ปี 2567 และเป็นการชะลอตัวลงต่อเนื่องเดือนที่ 3

ส่วนเงินเฟ้อทั่วไป (headline CPI) ในเดือนสิงหาคมก็อยู่ที่ร้อยละ 2.7 ลดลงจากร้อยละ 3.1 ในเดือนกรกฎาคม ทำสถิติต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนีปีที่แล้วเช่นกัน

สำหรับอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานที่ไม่นับรวมราคาอาหารและพลังงาน (core-core CPI) อยู่ที่ร้อยละ 3.3 ลดลงจากร้อยละ 3.4 ในเดือนกรกฎาคม

ด้านเงินเฟ้อในส่วนสินค้าข้าวที่สะท้อนถึงต้นทุนค่าครองชีพของชาวญี่ปุ่น เดือนสิงหาคมอยู่ที่ร้อยละ 69.7 ชะลอตัวลงจากร้อยละ 90.7 ในเดือนกรกฎาคม แต่ถือว่ายังอยู่ในระดับที่สูง

ธนาคารกลางญี่ปุ่น ระบุในแถลงการณ์ว่า อัตราเงินเฟ้อน่าจะเพิ่มขึ้นในระดับปานกลาง ซึ่งอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ระหว่างร้อยละ 2.5-3 เนื่องจากราคาอาหารที่เพิ่มขึ้น แต่ผลกระทบจากต้นทุนอาหารที่พุ่งขึ้น โดยเฉพาะราคาข้าว มีแนวโน้มลดลง

“ฮิโรอากิ อาเมมิยะ” ผู้อำนวยการฝ่ายการลงทุนของ “แคปิตอล กรุ๊ป” ระบุว่า การที่ธนาคารกลางญี่ปุ่นตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยเป็นการตอกย้ำจุดยืนที่ระมัดระวังท่ามกลางการชะลอตัวลงของภาวะเงินเฟ้อ และความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก โดยให้ความสำคัญกับเสถียรภาพมากกว่าการคุมเข้มทางการเงินแต่เนิ่น ๆ