ศาสตร์การนอนแบบญี่ปุ่นบนฟูกชิกิบุทัน ช่วยอาการปวดหลังลดลง

วัฒนธรรมการนอนของญี่ปุ่นมีความโดดเด่นและแตกต่างจากหลายประเทศ โดยคนญี่ปุ่นจำนวนมากยังคงนิยมใช้ “ชิกิบุทัน (Shikibuton)” หรือฟูกบางที่ปูลงบนพื้น เช่น เสื่อทาทามิ แทนการนอนบนเตียงฟูกหนาแบบตะวันตก แม้จะดูเหมือนไม่สบาย แต่หลายคนกลับเชื่อว่าการนอนบนฟูกบางช่วยให้ “อาการปวดหลังลดลง” และรู้สึกว่าหลับสบายมากขึ้น

หนึ่งในเหตุผลสำคัญคือการออกแบบของฟูกแบบญี่ปุ่น ซึ่งมีความแข็งและยุบตัวน้อย จึงช่วยให้แนวกระดูกสันหลังอยู่ในตำแหน่งเป็นธรรมชาติหรือ “neutral spine” ระหว่างการนอน แตกต่างจากฟูกนุ่มที่ทำให้สะโพกและแผ่นหลังจมลงมากเกินไป ส่งผลให้เกิดแรงกดทับและอาจทำให้ปวดหลังตามมา

ผู้เชี่ยวชาญด้านการนอนหลับหลายรายชี้ว่า ฟูกที่บางและมีแรงเด้งพอเหมาะช่วยให้ “กล้ามเนื้อแกนกลาง (core) และกล้ามเนื้อที่ยึดกระดูกสันหลัง” ทำงานตามธรรมชาติ แม้ในขณะนอน ส่งผลให้หลังแข็งแรงขึ้นในระยะยาว ขณะที่งานวิจัยด้านสรีรศาสตร์การนอนจากญี่ปุ่นยังพบว่า ความรู้สึกสบายของที่นอนเกี่ยวข้องกับ “การยุบตัว”, “แรงเด้ง”, และการกระจายแรงกดอย่างเหมาะสม ซึ่งฟูกแบบชิกิบุทันมักตอบโจทย์ทั้งสามข้อนี้ได้ดี

นอกจากนี้ การนอนบนพื้นหรือพื้นใกล้กับฟูก ยังช่วยให้ร่างกายขยับเปลี่ยนอิริยาบถได้ดีขึ้น ลดการกดจุดซ้ำบนบริเวณเดิม และยังช่วยปรับให้กระดูกหลังยืดตัวได้สมดุลยิ่งขึ้น บางคนจึงรู้สึกว่า “ยิ่งนอนยิ่งหลังดีขึ้น” แทนที่จะปวดหนักกว่าเดิม

อย่างไรก็ตาม การนอนฟูกบางก็ไม่ได้เหมาะกับทุกคน โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคกระดูกสันหลังเฉพาะทาง เช่น ไส้เลื่อนหมอนรองกระดูก หรือมีน้ำหนักตัวมากกว่าค่าเฉลี่ย เพราะอาจทำให้เกิดแรงกดมากเกินไป หากเลือกฟูกที่ไม่เหมาะสม ผู้เชี่ยวชาญจึงแนะนำว่า การเลือกฟูกควรดูตามโครงสร้างร่างกาย น้ำหนักตัว และความรู้สึกส่วนบุคคล ไม่ใช่ยึดตามความเชื่อเพียงด้านใดด้านหนึ่ง

แม้ญี่ปุ่นจะเป็นหนึ่งในประเทศที่มีประเพณีการนอนกับพื้นมานาน แต่แนวคิดเรื่อง “การจัดสมดุลของแรงกดและท่าทางร่างกาย” ก็เป็นเรื่องที่วงการแพทย์การนอนเริ่มให้ความสนใจมากขึ้น และอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้คนจำนวนมากรู้สึกว่าการนอนแบบญี่ปุ่นช่วยลดอาการปวดหลังได้อย่างเห็นผล