รีเซต

"ทรัมป์" ยืนยันเส้นตายสุดท้าย "1 สิงหาคม" บังคับใช้ภาษีใหม่

"ทรัมป์" ยืนยันเส้นตายสุดท้าย "1 สิงหาคม" บังคับใช้ภาษีใหม่
TNN ช่อง16
9 กรกฎาคม 2568 ( 11:23 )
8

ไปเกาะติดความเคลื่อนไหวของ “โดนัลด์ ทรัมป์” ที่ล่าสุด ได้ออกมาย้ำว่าเส้นตายในการบังคับใช้อัตราภาษีศุลกากร ที่เพิ่งขยายเวลาไปเป็น 1 สิงหาคมนั้น เป็นเส้นตายสุดท้าย โดยจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงอีกแล้ว และเมื่อถึงเวลา ประเทศที่ถูกเรียกเก็บภาษีเพิ่ม จะต้องเริ่มชำระตามอัตราที่สหรัฐฯ เรียกเก็บ

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โพสต์ข้อความบน "Truth Social" เมื่อคืนที่ผ่านมา โดยยืนยันว่า "ตามจดหมายที่ได้ส่งไปยังหลายประเทศ รวมถึงจดหมายที่จะส่งในวันนี้ พรุ่งนี้ และในระยะเวลาอันใกล้ การเก็บภาษีศุลกากรจะเริ่มต้นในวันที่ 1 สิงหาคม 2025 โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ เกี่ยวกับวันที่ และจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ทั้งสิ้น"

"กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ เงินทั้งหมดจะครบกำหนดและต้องมีการชำระเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2025 จะไม่มีการอนุญาตให้ขยายเวลาใด ๆ “ พร้อมกล่าวปิดท้ายด้วยการ "ขอบคุณที่ทุกคนให้ความสนใจในเรื่องนี้!"

สาเหตุที่ “โดนัลด์ ทรัมป์” ต้องออกมายืนยันถึงเส้นตายในครั้งนี้ เพราะตลาดกำลังสับสนต่อคำแถลงล่าสุดของ "ทรัมป์" ที่กล่าวว่า กำหนดเส้นตายในวันที่ 1 ส.ค.นั้น "แน่นอน" แต่ก็ไม่ถึงกับแน่นอน 100% และเสริมว่า "ถ้าประเทศที่ได้รับผลกระทบโทรมาแล้วบอกว่าอยากจะทำอะไรในแนวทางที่แตกต่างออกไป สหรัฐฯ ก็พร้อมที่จะเปิดรับแนวคิดนั้น" 

ซึ่งคำพูดดังกล่าว ถูกตีความว่า "ทรัมป์" กำลังส่งสัญญาณว่ามีโอกาสจะขยายเส้นตายในการบังคับใช้อัตราภาษีศุลกากรใหม่ที่กำหนดไว้ในวันที่ 1 ส.ค. เพื่อเปิดโอกาสให้ประเทศคู่ค้าเจรจาทำข้อตกลงการค้ากับสหรัฐ

ด้านสก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ออกมาให้ข้อมูลล่าสุดระบุว่า นับตั้งแต่ต้นปีนี้ สหรัฐสามารถจัดเก็บภาษีศุลกากรคิดเป็นจำนวนเงิน 1 แสนล้านดอลลาร์แล้ว และตัวเลขดังกล่าวอาจเพิ่มขึ้นเป็น 3 แสนล้านดอลลาร์ภายในเดือนธันวาคมนี้

“ญี่ปุ่น” ไม่อ่อนข้อ ยันเป้าหมายสูงสุด สหรัฐฯ ต้องลดภาษีรถยนต์ 

"ญี่ปุ่น" เป็นหนึ่งใน 14 ชาติที่เพิ่งได้รับจดหมายแจ้งอัตราภาษีใหม่ ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคมเป็นต้นไป ซึ่งการขยายกรอบเวลานี้ ทำให้ญี่ปุ่นมีเวลามากขึ้นในการบรรลุข้อตกลงที่พยายามมาหลายต่อหลายครั้ง ล่าสุด ญี่ปุ่นออกมาย้ำจุดยืนสำคัญว่า ถ้าดีลการค้าใดใดจะเกิดขึ้นกับสหรัฐฯ ต้องรวมถึงการลดภาษีรถยนต์ ซึ่งเป็นเส้นเลือดใหญ่ของเศรษฐกิจญี่ปุ่นด้วย 

"เรียวเซ อาคาซาวะ" หัวหน้าผู้แทนเจรจาการค้าของญี่ปุ่น กล่าวว่า หากรัฐบาลญี่ปุ่น จะบรรลุข้อตกลงการค้าใด ๆ กับสหรัฐฯ ข้อตกลงนั้น จะต้องรวมถึงการลดหย่อนภาษีสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศด้วย 

ความเห็นของ "อาคาซาวะ" มีขึ้นหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์  ประกาศจะเรียกเก็บภาษีศุลกากรต่อสินค้าจากญี่ปุ่นในอัตราร้อยละ 25 โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคมเป็นต้นไป ซึ่งหลังได้รับจดหมาย หัวหน้าผู้แทนเจรจาการค้าของญี่ปุ่น ก็ได้โทรศัพท์หารือกับ “โฮเวิร์ด ลุตนิก” รัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐฯ เป็นเวลา 40 นาที โดยทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะเดินหน้าเจรจาอย่างจริงจังต่อไป

"อาคาซาวะ" ย้ำว่า ทั้งสองฝ่ายกำลังพยายามตกลงกันในรูปแบบแพ็กเกจมาตรการ ครอบคลุมตั้งแต่การขยายการค้า อุปสรรคที่ไม่ใช่ภาษีศุลกากร ไปจนถึงความร่วมมือด้านความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พร้อมย้ำด้วยว่า ภารกิจสำคัญที่สุดคือการปกป้องอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งเป็นเส้นเลือดใหญ่ของเศรษฐกิจญี่ปุ่น และกำลังเผชิญกับการถูกเรียกเก็บภาษีร้อยละ 25 แต่อย่างไรก็ดี เขายืนยันว่า ญี่ปุ่นไม่ได้กำหนดเส้นตายในการเจรจา และจะไม่ยอม "สังเวย" ภาคเกษตรกรรมของประเทศ เพื่อแลกกับการบรรลุข้อตกลงโดยเร็ว

ทางด้าน “โยชิกิ ชินเกะ” นักเศรษฐศาสตร์จาก Dai-ichi Life Research Institute กล่าวว่าหากญี่ปุ่น ยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้ ก็มีความเป็นไปได้ที่ญี่ปุ่น จะเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย เพราะจากประเมินระดับภาษีที่ร้อยละ 25 นั้น จะฉุดการเติบโตของเศรษฐกิจญี่ปุ่นลงราวร้อยละ 0.7

"จีน" เตือน "สหรัฐฯ" อย่าจุดชนวนสงครามการค้า ตัดจีนจากห่วงโซ่อุปทาน

แม้ "สหรัฐฯ และจีน" จะบรรลุกรอบการค้าและตกลงที่จะระงับการเรียกเก็บภาษีศุลกากรเป็นการชั่วคราวไปจนถึงเดือนสิงหาคม แต่นักลงทุนก็ยังไม่วางใจซะทีเดียว เพราะจีนยังคงออกมาเตือนสหรัฐฯ ว่าอย่าจุดชนวนความตึงเครียดทางการค้าให้ปะทุขึ้นอีก ขณะเดียวกันก็เตือนว่าจีน จะตอบโต้ประเทศที่ทำข้อตกลงกับสหรัฐฯ เพื่อตัดจีนออกจากห่วงโซ่อุปทาน

หนังสือพิมพ์ "People's Daily" ของทางการจีน ได้เผยแพร่บทความเตือนรัฐบาลสหรัฐฯ ไม่ให้จุดชนวนความตึงเครียดทางการค้าให้ปะทุขึ้นอีกครั้ง ด้วยการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนในเดือนหน้า ซึ่งเป็นเส้นตายที่ทั้ง 2 ฝ่ายได้ตกลงกันเอาไว้ 

พร้อมเน้นย้ำมุมมองของจีนที่ว่า มาตรการภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ เป็น "การข่มเหงรังแก" ฝ่ายเดียว และเสริมว่า "วิถีปฏิบัติที่ผ่านมาได้พิสูจน์แล้วว่าการยึดมั่นในจุดยืนที่มีหลักการเท่านั้น ที่จะสามารถปกป้องสิทธิและผลประโยชน์อันชอบธรรมของตนได้อย่างแท้จริง" พร้อมเสริมว่า "ข้อสรุปหนึ่งที่ชัดเจนมากคือ การเจรจาและความร่วมมือเป็นหนทางที่ถูกต้องเพียงหนทางเดียว"

บทความของ "People's Daily" นี้ บ่งชี้ว่าจีนกำลังเตรียมพร้อมสำหรับการทำสงครามภาษีรอบใหม่ หากโดนัลด์ ทรัมป์ยังคงยึดมั่นในสิ่งที่อ้างว่าเป็น "เส้นตายสุดท้าย'"

นอกจากนี้ "People's Daily" ยังได้วิพากษ์วิจารณ์ประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาค ที่กำลังพิจารณาทำข้อตกลงปรับลดภาษีศุลกากรกับสหรัฐฯ ซึ่งจะเป็นการตัดจีนออกจากห่วงโซ่อุปทานของประเทศเหล่านั้น พร้อมกับระบุว่า จีนขอคัดค้านอย่างจริงจัง ต่อการที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งทำข้อตกลงที่ไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ของจีน เพียงเพื่อจะแลกกับการลดภาษี หากสถานการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น จีนจะไม่ยอมรับและจะตอบโต้อย่างเด็ดขาดเพื่อปกป้องผลประโยชน์อันชอบธรรมของประเทศ

ขณะที่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว "เวียดนาม" ซึ่งเป็นหนึ่งในฐานผลิตสำคัญของจีน เพิ่งได้รับการปรับลดภาษีศุลกากรจากสหรัฐฯ จากเดิมที่ร้อยละ 46 เหลือร้อยละ 20 พร้อมทำข้อตกลงว่าสินค้าของประเทศที่ 3 ที่ขนส่งผ่านเวียดนาม จะต้องเสียภาษีในอัตราร้อยละ 40 ขณะที่โดยปกติแล้ว สินค้าเหล่านี้ส่วนใหญ่ เป็นสินค้าที่มาจากจีน

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง