รีเซต

'พันธ์ยศ' ขอปักธงพ่อเมืองกรุง ชู 'สุขภาวะ' เป็นจุดขาย

'พันธ์ยศ' ขอปักธงพ่อเมืองกรุง ชู 'สุขภาวะ' เป็นจุดขาย
มติชน
15 กรกฎาคม 2563 ( 13:42 )
36
'พันธ์ยศ' ขอปักธงพ่อเมืองกรุง ชู 'สุขภาวะ' เป็นจุดขาย

เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม นายพันธ์ยศ อัครอมรพงศ์ อดีตประธานยุทธศาสตร์พรรคภราดรภาพเเละประธานสถาบันพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการไทย-จีน กล่าวถึงกรณีไวรัสโควิด-19ว่า ขอให้สังคมอย่าตื่นตระหนกกรณีนายทหารเเละบุตรของคณะทูตจากกลุ่มประเทศเเอฟริกาติดเชื้อไวรัสตัวนี้ในพื้นที่จ.ระยองเเละกทม.นั้น ขอให้เฝ้าระวังตัวเอง เเละทำตามคำเเนะนำของเเพทย์อย่างเคร่งครัด

นายพันธ์ยศ กล่าวว่า หากนับยอดรวมของอเมริกา บราซิล และอินเดีย ซึ่งเป็น 3 อันดับแรกของโลก จะพบว่ามีจำนวนเคส ติดเชื้อถึง 45% ของจำนวนผู้ติดเชื้อทั้งหมดในโลก และมีจำนวนผู้เสียชีวิตรวมกันราว 40% ของจำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมดในโลก ทวีปอเมริกาเหนือและใต้ และเอเชีย มีภาวะการระบาดที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ และคาดว่าน่าจะมีจำนวนมากขึ้นไปอีก หลังจากหลายประเทศประกาศปลดล็อคให้ดำเนินชีวิตตามปกติหรือใกล้เคียงปกติ”

“ตนเห็นด้วยกับข้อความข้างต้นเพราะตนลงพื้นที่หลายเเห่งในการนำหน้ากากอนามัย ถุงมืออนามัยเเละเจลล้างมือรงมทั้งอุปกรณ์ทางการเเพทย์ไปมอบให้ส่วนราชการ สถานพยาบาล โรงเรียน ชุมชน เเละอื่นๆพบว่าเเม้ประชาชนตื่นตัวเเต่ข้อเท็จจริงบางส่วนที่พบคือ ส่วนราชการบางเเห่ง เช่น เรือนจำ, ค่ายทหารที่ต้องรับทหารเกณฑ์ผลัดใหม่,โรงเรียนบางเเห่งยังขาดอุปกรณ์การตรวจเเละป้องกันไวรัสโควิด-19 ตรงนี้อยากกระตุ้นรัฐบาลให้เร่งตรวจสอบเเละส่งอุปกรณ์ทางการเเพทย์ไปให้ครอบคลุมด้วยเเละตนพร้อมไปช่วยเหลืออีกทางหนึ่ง”

นายพันธ์ยศ กล่าวอีกว่า ตอนนี้ต่างชาติต้องการถุงมือเเละหน้ากากอนามัยเพิ่มเเม้เเต่ผู้นำสหรัฐฯที่เคยบอกว่าไม่ใส่หน้ากากอนามัยเเต่ตอนนี้ยอมใส่เเล้ว เเละยอดผู้ป่วยเเละเสียชีวิตในหลายประเทศยังไม่ชะลอตัว เเสดงว่าไวรัสตัวนี้ยังส่งผลกระทบกับทุกชาติเเม้รัฐบาลไทยจะได้รับคำชมเชยจากหลายประเทศว่าควบคุมการระบาดของไวรัสตัวนี้ได้ดีเเต่ก็ประมาทไม่ได้


“ดังนั้นสิ่งที่ตนเคยเสนอนโยบายสุขภาวะที่ควรเป็นวาระหลักของชาตินั้นมีสาระสำคัญว่า “สุขภาพไทยดีทั่วหน้าตลอดไป“นั้น คนอยากขับเคลื่อนนโยบายนี้อย่างจริงจัง โดยตอนนี้บางส่วนในสังคมได้หารือกับตนถึงการผลักดันเรื่องนี้โดยจะนำร่องกับสนามท้องถิ่นก่อนเเล้วค่อยขยับขึ้นไปเป็นนโยบายระดับชาติเเละรัฐบาลระบุเเล้วว่าปลายปีนี้น่าจะมีเลือกตั้งท้องถิ่น ตนสนใจสนามผู้ว่าฯกทม.เเละจะนำนโยบายสุขภาวะนำเสนอต่อชาวกทม.ทั้งระบบ คือ การป้องกันเเละควบคุมโรคระบาดเดิมเเละอุบัติใหม่ การดูเเลสุขภาวะประชาชนอย่างครอบคลุม การรักษาเเละปรับปรุงสิ่งเเวดล้อมที่หลายส่วนยังถูกละเลยเเละเป็นบ่อเกิดของเชื้อโรค รวมทั้งการหารายได้จากระบบการเเพทย์เเผนไทยเเละอาหารไทยท่ีป้องกันโรคเเละสร้างสุขภาพที่ดีในระยะยาวต่อคนไทยเเละคนต่างชาติ”

นายพันธ์ยศ กล่าวทิ้งทายว่า ตนดำเนินธุรกิจด้านสุขภาพมาเเล้ว ประสบการณ์ตรงนี้ตนจะเสนอชุดความคิดกับสังคมต่อไปหากรัฐบาลมีความชัดเจนเกี่ยวกับการเลือกตั้งท้องถิ่น โดยสนามกทม.จะเป็นจุดเริ่มต้นในการผลักดันเเละขยายในจังหวัดอื่นๆต่อไปเพื่อสร้างชื่อเสียงให้ประเทศ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง