รัฐบาลเตรียมคลอดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจปลายเดือนนี้ หวังดันจีดีพีปีนี้โต 3.5%
รัฐบาลเตรียมคลอดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอีกระลอกปลายเดือนก.พ.นี้ หวังดันจีดีพีปีนี้โต 3.5% โดยกระทรวงการคลังจะเสนอ 4-5 มาตรการ อาทิ การกระตุ้นสินเชื่อในภาคอสังหาริมทรัพย์ การแจกเงินดิจิทัลเฟสสาม และโครงการรถไฟฟ้า 20 ตลอดสาย
#ทันหุ้น นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังเปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการกลั่นกรองโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจวันนี้(7ก.พ.)ว่า ที่ประชุมได้มีการพิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ 4-5 มาตรการ เพื่อเป็นมาตรการช่วยผลักดันเศรษฐกิจในปีนี้ ซึ่งตนเชื่อว่า ด้วยมาตรการของรัฐบาลที่จะทยอยออกมานั้น จะสามารถผลักดันให้จีดีพีของประเทศในปีนี้ขยายตัวได้ถึง 3.5%
อย่างไรก็ตาม ในรายละเอียดของมาตรการนั้น ยังจำเป็นต้องมีการพิจารณาในคณะอนุกรรมการชุดนี้อีกครั้ง ซึ่งเมื่อได้ข้อสรุปแล้ว จะต้องเสนอให้คณะกรรมการโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่มีนายกรัฐมนตรี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นประธาน เพื่อพิจารณาอนุมัติในช่วงปลายเดือนนี้
เขากล่าวว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่อยู่ในระหว่างการพิจารณาดังกล่าว เช่น โครงการ Digital Wallet เฟสที่สาม ที่จะเริ่มโครงการได้ภายในไตรมาสที่สองของปีนี้
โดยโครงการ Digital Wallet เฟสที่สามดังกล่าวนั้น จะเป็นการแจกเงินหมื่นบาท ให้กับคนที่ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชันทางรัฐ และมีคุณสมบัติตามที่กำหนด เช่น มีรายได้พึงประเมินในปีภาษี 2566 ไม่เกิน 8.4 แสนบาท และมีเงินในบัญชีสถาบันการเงิน ไม่เกิน 5 แสนบาท ณ 31 มีนาคม 2567
เขากล่าวว่าการแจกเงินหมื่นในโครงการ Digital Wallet เฟสที่สามดังกล่าว จะแตกต่างจากสองเฟสแรก โดยเฟสที่หนึ่งแจกให้กับคนถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และคนถือบัตรคนพิการ 1.4ล้านคน เฟสที่สองแจกให้กับคนสูงอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป 3ล้านคน โดยทั้งสองเฟสแรก เป็นการเงินในกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ ของ”เป๋าตัง” และผู้ที่ได้รับสามารถถอนออกมาเป็นเงินสดใช้จ่ายที่ใดก็ได้ ส่วนเฟสที่สามดังกล่าว จะเป็นการแจกเงินผ่านกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ ที่ไม่สามารถถอนออกมาเป็นเงินสดได้ แต่สามารถใช้จ่ายได้ตามร้านค้าที่มีการลงทะเบียนไว้กับกระทรวงการคลัง และจะต้องใช้จ่ายในรอบแรก อยู่ภายในเขตอำเภอตามบัตรประชาชนของแต่ละคนเท่านั้น
นอกจากมาตรการแจกเงินดังกล่าวแล้ว คณะอนุกรรมการชุดนี้ยังได้พิจารณาถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้านอื่นๆอีกเช่น มาตรการอสังหาริมทรัพย์ ที่จะมีการออกสินเชื่อจากสถาบันการเงินของรัฐเพื่อกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ และรวมถึงมาตรการลดรายจ่ายให้กับประชาชน ผ่านโครงการรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายของรัฐบาล
ทั้งนี้ โครงการรถไฟฟ้า 20บาทตลอดสาย ซึ่งเป็นนโยบายหาเสียงของพรรคเพื่อไทยนั้น นายจุลพันธ กล่าวว่า จะต้องมีการดำเนินการที่เป็นโครงการระยะสั้น ระยะปานกลาง และระยะยาว แต่ในรายละเอียดยังไม่สามารถเปิดเผยได้
เมื่อวันที่ 30 มกราคมนี้ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.)ได้คาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปี 2568 ว่า การขยายตัวโดยเฉลี่ยทั้งปีจะอยู่ที่ 3 % โดยมีช่วงคาดการณ์อยู่ที่ 2.5 -3.5%
สศค.ยังได้ระบุว่า มีความเป็นไปได้สูงที่การขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปี 2568 จะสามารถขยายไปถึงกรอบบนของการประมาณการ หรือสามารถขยายตัวได้ถึง 3.5 % ด้วยการบริหาร 5ปัจจัยดังต่อไปนี้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มจีดีพีได้เพิ่มขึ้นอีก 0.5 % คือ 1.เร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุน จากเป้าหมายที่ 75 % เป็น 80 % ซึ่งจะเพิ่มเม็ดเงินลงทุนภาครัฐอีก 4.65หมื่นล้านบาท จะช่วยเพิ่มจีดีพีในปีนี้ได้อีก 0.11%
2.เร่งการใช้จ่าย โครงการ digital wallet เฟสที่สามที่คาดว่าจะเริ่มภายในไตรมาสที่สองของปีนี้ จะช่วยเพิ่มจีดีพีได้อีก 0.1% 3.โครงการบ้านเพื่อคนไทย คาดว่าจะมีการลงทุนในปลายปีนี้ราว 830 ล้านบาท จะช่วยเพิ่มจีดีพีได้อีก 0.002%
4.กระตุ้นการท่องเที่ยว โดยเฉพาะช่วงที่ไทยเป็นเจ้าภาพซีเกมส์ในปลายปีนี้ อีก 5 แสนคน จากคาดการณ์ในปีนี้ที่คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทย 38.5 ล้านคน จะช่วยเพิ่มจีดีพีได้อีก 0.15 % และ 5.การเร่งรัดโครงการลงทุนของเอกชนที่ได้รับการออกบัตรส่งเสริมการลงทุนจาก BOI โดยเฉพาะโครงการ Data Center และ Cloud Region ซึ่งหากมีการลงทุนจริงจะมีเม็ดเงินลงทุนสูงถึง 7.5 หมื่นล้านบาท จะเพิ่มจีดีพีได้อีก 0.19%