จีนเตือนสหราชอาณาจักร 'เลิกยึดแนวคิดอาณานิคม' หยุดแทรกแซงกิจการฮ่องกง
ปักกิ่ง, 8 ม.ค. (ซินหัว) -- เมื่อวันพฤหัสบดี (7 ม.ค.) จีนกระตุ้นเตือนสหราชอาณาจักรละทิ้งความเข้าใจผิดว่ายังมีอิทธิพลทางอาณานิคมต่อเขตบริหารพิเศษฮ่องกงของจีน รวมถึงยุติการแทรกแซงกิจการภายในของจีนก่อนหน้านี้เมื่อวันพุธ (6 ม.ค.) โดมินิก แรบ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของสหราชอาณาจักร กล่าวถึงการจับกุมนักการเมืองและนักเคลื่อนไหวในฮ่องกงว่าเป็นการ "โจมตีสิทธิและเสรีภาพของฮ่องกงอย่างร้ายแรง" ซึ่งเป็นสิ่งที่ได้รับการคุ้มครองภายใต้ปฏิญญาร่วมจีน-สหราชอาณาจักร (Sino-British Joint Declaration)ฮว่าชุนอิ๋ง โฆษกกระทรวงต่างประเทศของจีน ตอบโต้ผ่านการแถลงข่าวว่าแกนหลักของปฏิญญาร่วมฯ คือการฟื้นคืนอำนาจอธิปไตยของจีนที่มีต่อฮ่องกง ซึ่งมิได้หมายความว่าสหราชอาณาจักรมีสิทธิแทรกแซงกิจการของฮ่องกง"นับตั้งแต่ฮ่องกงกลับคืนสู่มาตุภูมิ รัฐบาลจีนได้ปกครองฮ่องกงด้วยรัฐธรรมนูญแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (PRC) และกฎหมายพื้นฐานของเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ไม่ใช่แถลงการณ์ร่วมฯ" ฮว่ากล่าว พร้อมชี้แจงว่ากลุ่มคนเหล่านั้นถูกจับกุมภายใต้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติในฮ่องกง เนื่องจากต้องสงสัยก่ออาชญากรรมอันรวมถึงการโค่นล้มอำนาจรัฐ"เราสนับสนุนตำรวจฮ่องกงปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย เพื่อคุ้มครองความมั่นคงของชาติ ตลอดจนเสถียรภาพและความมั่นคงของฮ่องกง"ฮว่าระบุว่าหลังจากฮ่องกงกลับคืนสู่จีน ชาวฮ่องกงต่างได้รับสิทธิและเสรีภาพตามระบอบประชาธิปไตยอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนด้วยการปฏิบัติตามหลักการ "หนึ่งประเทศ สองระบบ" "ชาวฮ่องกงปกครองฮ่องกง" และการมีอิสระในการบริหารตนเองในระดับสูงในทางตรงข้าม รัฐบาลสหราชอาณาจักรกลับสงวนสิทธิที่จะไม่ใช้บทบัญญัติเกี่ยวกับการเลือกตั้งตามกำหนดเวลาในฮ่องกง ระหว่างการให้สัตยาบันตามกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (ICCPR) ในปี 1976 อีกทั้งกฎหมายว่าด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน (Public Order Ordinance) และกฎหมายสมาคม (Societies Ordinance) ที่สหราชอาณาจักรใช้ระหว่างปกครองฮ่องกงยังกำหนดข้อจำกัดอันเข้มงวดเกี่ยวกับการชุมนุม การเดินขบวน และการตั้งสมาคมในฮ่องกงด้วยฮว่าเน้นย้ำว่ากิจการของฮ่องกงเป็นกิจการภายในของจีนแต่เพียงฝ่ายเดียว พร้อมเรียกร้องฝ่ายสหราชอาณาจักรละทิ้งความคิดที่ว่าฮ่องกงเป็นอาณานิคมของตนเอง ล้มเลิกการเสแสร้งและการแบ่งสองมาตรฐาน เคารพอำนาจอธิปไตยของจีนอย่างจริงจัง และยุติการแทรกแซงกิจการของฮ่องกงในทุกรูปแบบทันที