รีเซต

ย้อนยุคแต่ไม่เชย! 3 มอเตอร์ไซค์ Retro ที่สายคลาสสิกต้องเหลียวมอง

ย้อนยุคแต่ไม่เชย! 3 มอเตอร์ไซค์ Retro ที่สายคลาสสิกต้องเหลียวมอง
EntertainmentReport1
24 กันยายน 2568 ( 08:18 )
7

สวัสดีครับเพื่อนๆ ชาวสองล้อทุกคน! เชื่อว่าหลายคนคงหลงเสน่ห์ความคลาสสิกของมอเตอร์ไซค์ในยุคเก่า ที่มีดีไซน์เรียบง่ายแต่ทรงพลังในแง่ของความรู้สึกใช่ไหมครับ? กระแสรถมอเตอร์ไซค์สไตล์ "Retro" หรือย้อนยุคจึงไม่เคยตายไปจากวงการ และที่เจ๋งไปกว่านั้นคือผู้ผลิตหลายค่ายได้นำดีไซน์สุดอมตะเหล่านั้นกลับมาปัดฝุ่นใหม่ ผสานเข้ากับเทคโนโลยีสมัยใหม่ ทำให้เราได้รถที่หน้าตาหล่อเหลาแบบวินเทจ แต่สมรรถนะล้ำยุค!

 

 

วันนี้ผมจะมาแนะนำ 3 มอเตอร์ไซค์สไตล์ Retro ที่กำลังขายในบ้านเรา ที่มีดีไซน์โดดเด่นไม่แพ้ใคร และที่สำคัญคือแต่ละรุ่นก็มีคาแรคเตอร์ที่แตกต่างกันสุดๆ ลองมาดูกันครับว่าคันไหนจะโดนใจคุณมากที่สุด!

1. น้องเล็กสุดคลาสสิก: Kawasaki W175 SE

 

 

Photo Credit : Kawasaki Motors Thailand

สำหรับคนที่อยากเริ่มต้นเข้าสู่โลกของมอเตอร์ไซค์คลาสสิกแบบไม่ต้องคิดเยอะ หรือกำลังหารถคู่ใจที่ขับง่าย ดูแลไม่ยาก และมีดีไซน์ที่น่ารักสุดๆ ต้องนี่เลยครับ Kawasaki W175 ตัวนี้เป็นเหมือน "น้องเล็ก" ในตระกูล W-Series ของ Kawasaki ที่สืบทอดดีไซน์จากรุ่นพี่มาแบบเต็มๆ ทั้งรูปทรงถังน้ำมัน, ไฟหน้าทรงกลม, และท่อไอเสียทรง Pea-shooter ที่เรียบง่ายแต่ลงตัวสุดๆ

  • สเปก:
    • เครื่องยนต์: 177 ซีซี 1 สูบ ระบายความร้อนด้วยอากาศ
    • แรงม้า (HP): ประมาณ 13 แรงม้า
    • อัตราสิ้นเปลือง: อยู่ในระดับประหยัด เฉลี่ยประมาณ 35 - 40 กิโลเมตร/ลิตร
  • จุดเด่น:
    • ราคาเข้าถึงง่าย: เป็นรถมอเตอร์ไซค์คลาสสิกที่ราคาไม่แรง ทำให้มือใหม่เป็นเจ้าของได้ไม่ยาก
    • ดีไซน์แท้ๆ: รูปทรงที่มาแบบย้อนยุคเต็มตัว ไม่ปรุงแต่งมากนัก
    • น้ำหนักเบา ขับขี่คล่องตัว: เหมาะกับการใช้งานในเมืองเป็นอย่างยิ่ง
  • ราคาวางจำหน่าย: ประมาณ 86,000 - 89,000 บาท (ราคา ณ ศูนย์จำหน่ายในปัจจุบัน อาจมีส่วนลดเพิ่มเติม)

 

2. เจ้าแห่งความคลาสสิก: Royal Enfield Classic 350

 

 

Photo Credit : royalenfieldthailand.com

ถ้าพูดถึงรถมอเตอร์ไซค์สไตล์คลาสสิกในยุคนี้ คงไม่มีใครไม่นึกถึง Royal Enfield และรุ่นที่ขายดีที่สุดอย่าง Classic 350 ที่ได้ชื่อว่าเป็น "เจ้าแห่งความคลาสสิก" ตัวจริง! ด้วยรูปทรงที่ได้แรงบันดาลใจจากรถในยุค 50s' ที่โดดเด่นด้วยไฟหน้าทรงกลมพร้อมโคมไฟบังลม, เบาะนั่งแบบแยกส่วน, และที่สำคัญคือเสียงเครื่องยนต์ "Thump" อันเป็นเอกลักษณ์ที่ได้ยินแล้วรู้ทันทีว่าเป็น Royal Enfield

  • สเปก:
    • เครื่องยนต์: 349 ซีซี 1 สูบ ระบบระบายความร้อนด้วยอากาศและน้ำมัน
    • แรงม้า (HP): ประมาณ 20.2 แรงม้า
    • อัตราสิ้นเปลือง: เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 30 - 35 กิโลเมตร/ลิตร
  • จุดเด่น:
    • ฟีลลิ่งการขับขี่สุดคลาสสิก: เสียงเครื่องยนต์ที่เป็นเอกลักษณ์, แรงสั่นสะเทือนเบาๆ ที่ให้ความรู้สึกดิบๆ เหมือนรถยุคเก่า
    • เทคโนโลยีทันสมัย: มาพร้อมกับระบบเบรก ABS แบบ Dual-Channel เพื่อความปลอดภัย, จอแสดงผลดิจิทัลเล็กๆ ที่ซ่อนอยู่กับเรือนไมล์แบบอนาล็อกได้อย่างลงตัว
    • กลุ่มผู้ใช้งานที่แข็งแกร่ง: มีชุมชนคนรัก Royal Enfield ที่คอยช่วยเหลือและแลกเปลี่ยนข้อมูลกันอย่างเหนียวแน่น
  • ราคาวางจำหน่าย: ประมาณ 139,900 - 146,000 บาท (ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย)

 

3. ตำนานจากอังกฤษ: Triumph Bonneville T120

 

 

Photo Credit : triumphmotorcycles.co.th

สำหรับคนที่มองหารถมอเตอร์ไซค์คลาสสิกที่ไม่ใช่แค่ดีไซน์ แต่ยังพ่วงมาด้วยสมรรถนะที่ยอดเยี่ยม, ชื่อเสียงระดับตำนาน, และงานประกอบสุดพรีเมียม ต้องนี่เลยครับ Triumph Bonneville T120 มอเตอร์ไซค์ที่ได้ชื่อว่าเป็นสัญลักษณ์ของความเป็น "British Classic" ที่ยังคงรูปทรงสุดคลาสสิกไว้ครบถ้วน แต่ข้างในนั้นอัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีและเครื่องยนต์ที่ทรงพลังอย่างไม่น่าเชื่อ

  • สเปก:
    • เครื่องยนต์: 1,200 ซีซี 2 สูบ ระบายความร้อนด้วยของเหลว
    • แรงม้า (HP): ประมาณ 80 แรงม้า
    • อัตราสิ้นเปลือง: โดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 20 - 25 กิโลเมตร/ลิตร (ถือว่าสมเหตุสมผลเมื่อเทียบกับความแรง)
  • จุดเด่น:
    • มรดกทางประวัติศาสตร์: เป็นรถมอเตอร์ไซค์ที่มีตำนานมายาวนานกว่า 60 ปี
    • งานประกอบสุดพรีเมียม: วัสดุทุกชิ้นมีความประณีตและให้ความรู้สึกหรูหราสมราคา
    • เทคโนโลยีจัดเต็ม: มาพร้อมโหมดการขับขี่ (Road, Rain), ระบบควบคุมการยึดเกาะถนน (Traction Control), คันเร่งไฟฟ้า (Ride-by-wire), และ ABS
    • สมรรถนะทรงพลัง: ด้วยเครื่องยนต์ 1,200 ซีซี ทำให้เป็นรถที่มีพละกำลังเหลือเฟือทั้งในเมืองและนอกเมือง
  • ราคาวางจำหน่าย: เริ่มต้น 587,000 บาท (ขึ้นอยู่กับสีและรุ่นย่อย)

สรุปแล้ว การเลือกมอเตอร์ไซค์สไตล์ Retro ไม่ได้อยู่ที่ว่ารุ่นไหนดีที่สุดครับ แต่อยู่ที่ว่ารุ่นไหน "ตอบโจทย์" สไตล์และงบประมาณของคุณมากที่สุด ถ้าคุณชอบความง่ายและราคาเข้าถึงได้ก็ต้อง W175, ถ้าคุณต้องการฟีลลิ่งคลาสสิกแบบเต็มตัวพร้อมเทคโนโลยีที่ใช้งานง่ายก็ต้อง Classic 350, และถ้าคุณต้องการสุดยอดของงานดีไซน์และสมรรถนะระดับตำนานก็ต้อง Bonneville T120 ครับ!

ข่าวที่เกี่ยวข้อง