พรบ.SEC เข้า ครม. ดัน ‘แลนด์บริดจ์’ เริ่มประมูลปีนี้

นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ (SEC) และโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้เพื่อเชื่อมโยงการขนส่งระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน (แลนด์บริดจ์) โดยระบุว่า โครงการแลนด์บริดจ์จะขับเคลื่อนได้จำเป็นต้องมีกฎหมาย ซึ่งรัฐบาลอยู่ผลักดันร่างพระราชบัญญัติระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ พ.ศ….. (พรบ. SEC) สถานะปัจจุบันอยู่ระหว่างรับฟังความคิดเห็นประชาชน
อย่างไรก็ดี กระทรวงคมนาคมซึ่งได้รับมติจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ดำเนินการจัดทำ พรบ.SEC คาดการณ์ว่าจะสามารถดำเนินการรับฟังความคิดเห็นและร่าง พรบ.SEC ให้แล้วเสร็จเพื่อเสนอไปยัง ครม.พิจารณาภายในเดือน พ.ค.นี้ หลังจากนั้นจะบรรจุวาระเข้าสู่การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่กำลังจะเริ่มเปิดประชุมสามัญในวันที่ 3 ก.ค.นี้ และคาดว่ากระบวนการพิจารณาเหล่านี้จะแล้วเสร็จตามเป้าหมาย ผลักดันให้สามารถเริ่มกระบวนการประกวดราคา โดยร่างเอกสารเชิญชวนเอกชนร่วมลงทุน (RFP) ในเดือน ธ.ค.2568
ทั้งนี้ กระทรวงฯ ยังกำหนดกรอบการดำเนินงานของโครงการแลนด์บริดจ์ โดยประเมินว่าการร่างเอกสารเชิญชวนผู้ลงทุนในการร่วมลงทุนโครงการ จะเสร็จไตรมาส 1 ปี 2569 และคัดเลือกผู้ลงทุนเสร็จไตรมาส 2 ปี 2569 จากนั้นจะออก พ.ร.ฎ.เวนคืนที่ดิน และเสนอ ครม.อนุมัติโครงการในไตรมาส 2 ปี 2569 พร้อมลงนามสัญญากับเอกชนร่วมลงทุน โดยคาดการณ์ว่าโครงการแลนด์บริดจ์จะเริ่มก่อสร้างระยะที่ 1 ในไตรมาส 3 ปี 2569 เสร็จพร้อมเปิดให้บริการปลายปี 2573
ด้าน นายปัญญา ชูพานิช ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) กล่าวว่า ปัจจุบันความก้าวหน้าของโครงการแลนด์บริดจ์ ได้ออกแบบสิ่งแวดล้อมเกือบแล้วเสร็จ อยู่ในช่วงการออก พรบ.SEC เพื่อขับเคลื่อนโครงการพัฒนาทั้ง 4 จังหวัดและแลนด์บริดจ์ ซึ่งดำเนินการคู่ขนานไปกับการทำเอกสารประกวดราคา โดยคาดว่าจะเปิดให้เอกชนยื่นข้อเสนอได้ในปีหน้า และได้ตัวเอกชนในปี 2569 แล้วเสร็จปี 2573 ซึ่งโครงการนี้จะประกวดราคาเป็นสัญญาเดียว ได้สิทธิดำเนินโครงการ 3 ส่วนทั้งท่าเรือน้ำลึก มอเตอร์เวย์ และรถไฟ
โดยเอกชนสามารถร่วมกลุ่มพันธมิตรกิจการร่วมค้าเข้าร่วมประมูล เบื้องต้นคาดว่าการลงทุนระยะที่ 1 จะมีมูลค่าราว 5 แสนล้านบาท จากผลการศึกษาของโครงการที่มีมูลค่าการลงทุนรวม 1 ล้านล้านบาท แบ่งเป็น โครงการท่าเรือฝั่งชุมพร 3 แสนล้านบาท , โครงการท่าเรือฝั่งระนอง 3.3 แสนล้านบาท , โครงการพัฒนาพื้นที่เปลี่ยนรูปแบบการขนส่งสินค้า (SRTO) 1.4 แสนล้านบาท และพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเส้นทางเชื่อมโยงท่าเรือ วงเงิน 2.2 แสนล้านบาท